"ครูบาไก่" ส่ง "ทนายธรรมราช" นำหลักฐาน ร้อง ปปง. ให้ ตรวจสอบเส้นทางการเงิน "อิคคิว-บุ๋ม" หลังพบพฤติกรรมร่ำรวยผิดปกติ ปมเงินบริจาคเข้าข่ายฉ้อโกงหรือไม่? ถามต้องรวยแค่ไหนถึงซื้อทอง เส้นละ 2 ล้านบาทได้
วันที่ 27 ม.ค.66 นายธรรมราช สาระปัญญา ทนายความของครูบาไก่ หรือ นายสุวิทย์ เก่งกว่าสิงห์ นำหลักฐานภาพถ่าย มายื่นให้กับ ร้อยตำรวจเอกไพรัช เทศพาณิชย์ ที่ปรึกษาด้านการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ในฐานะโฆษกประจำสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. เพื่อขอให้ตรวจสอบเส้นทางการเงินของ นางสาว วาสนา เคลือบสูงเนิน หรือ อิคคิว นางสาวคมคาย เวกนวล หรือ บุ๋ม และว่าที่ร้อยโท ชำนาญ อาจวาที หรือ บอล ขอนแก่น อดีตโยมอุปัฏฐากของครูบาไก่ ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน
โดยนายธรรมราช กล่าวว่า ทั้ง 3 คน มีพฤติกรรมนำภาพที่ถ่ายร่วมกับพระสงฆ์ผู้ใหญ่ไปโพสต์ลงโซเชียลต่างๆ แล้วอ้างว่าจะเป็นสะพานบุญ ให้ผู้มีจิตศรัทธาโอนเงินร่วมทำบุญต่างๆ ทั้งกองกฐิน รวมถึงการสร้างอาคารต่างๆ ตามวัด แต่สุดท้ายกลับไม่ได้นำเงินไปให้วัด อีกที้งยังพบว่ามีพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ร่ำรวย หรูหราขึ้นจนผิดสังเกต เช่น โพสต์ว่ามีการซื้อทองคำ น้ำหนัก 100 บาท รวมถึงการนำเงินสดมาโปรยทาน และจัดในงานบวชของลูกชายบุ๋ม หลายล้านบาท นอกจากนี้ยังพบว่าซื้อสินค้าแบรนด์เนมอีกด้วย ซึ่งตนเองไม่เชื่อว่า จะเป็นเงินที่ได้มาจากการขายของออนไลน์
โดยนายธรรมราช ยังกล่าวอีกว่า พฤติกรรมของ 3 คนนี้จะแกล้งเข้าไปคุยกับวัดดังต่างๆ ทั้งในจังหวัดนครราชสีมา จังหวัดอุบลราชธานี และวัดของครูบาไก่ ที่จังหวัดขอนแก่น ว่าจะเป็นเจ้าภาพในการสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกให้วัด ทั้งห้องน้ำ ศาลาต่างๆ หรือจะขอเป็นเจ้าภาพกองกฐิน งานบุญต่างๆ โดยจะให้ผู้มีจิตศรัทธาโอนเงินเข้าบัญชีของทั้ง 3 คน โดยจะใช้บัญชี 15 บัญชี เวียนกันให้โอนเข้ส โดยไม่ผ่านเข้าบัญชีวัด อีกทั้งยังอ้างว่าหากใครโอนเงินร่วมทำบุญ ก็จะมอบวัตถุมงคลให้ แต่เมื่อถึงกำหนด ก็ยังไม่มีการสร้างใดๆ และไม่มีการมอบวัตถุมงคลให้กับผู้ที่ร่วมบริจาคอีกด้วย
ทั้งนี้ ยังพบว่า ทั้ง 3 คน มีพฤติกรรมแบบนี้มาตั้งแต่ปี 2563 และจากการตรวจสอบพบว่า บุ๋ม-คมคาย ยังเคยถูกออกหมายจับในคดี "ฉ้อโกงประชาชน" ที่จังหวัดชลบุรี เมื่อปี 2564 แต่ได้มีการชดใช้เงินต่าง ๆ ไปแล้ว จึงทำให้เกิดข้อสงสัยว่า เงินที่นำไปชดใช้นั้นเป็นเงินที่มาจากผู้มีจิตศรัทธาหรือไม่ จึงได้นำหลักฐานทั้งหมดมาร้องเรียนให้ ปปง. ตรวจสอบ