"ครูบาไก่" เร่งรวบรวมข้อมูล-หลักฐาน เตรียมแจ้งความอีกคิวพร้อมพวกและเพจดัง กล่าวหาเสพเมถุน-ประพฤติไม่เหมาะสม
วันที่ 29 ม.ค.66 ความคืบหน้ากรณีอิคคิวพร้อมพวก อดีตโยมอุปัฏฐากวัดครูบาไก่นำเรื่องราวออกมาเปิดเผยกล่าวหาว่าครูบาไก่เสพเมถุนและประพฤติตนไม่เหมาะสมขณะครองผ้าเหลือง ซึ่งยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ
ล่าสุดเมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (29 ม.ค.66) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังที่พักสงฆ์วัดป่าปฐมเทวาราม บ้านป่าผุ ต.สวนหม่อน อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น หรือวัดครูบาไก่ โดยพบว่าวันนี้เป็นวันพระ โดยมีบรรยากาศมีญาติโยมมาทำบุญถวายภัตตาหารเช้าอย่างเนืองแน่นกว่าทุกวันบริเวณบนศาลา โดยมีครูบาไก่พร้อมพระลูกวัดและสามเณร รับภัตตาหาร ให้ศีลให้พรแก่ญาติโยมและลูกศิษย์ลูกหาที่มาทำบุญที่วัดในวันนี้
ก่อนที่ภายหลังครูบาจะฉันภัตตาหารแล้วเสร็จก็ได้กลับมายังกุฏิเพื่อเซ็นเอกสารหลักฐานที่ทางนายธรรมราช สาระปัญญา ทนายความของครูบาไก่ ซึ่งนอนอยู่ที่กุฏิครูบาไก่เมื่อคืนนี้ด้วย พร้อมทั้งญาติโยมอีกหลายคนมานอนที่กุฏิครูบาไก่ด้วยเช่นกัน ซึ่งในกรณีดังกล่าวนั้น ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับครูบาไก่ ซึ่งขอไม่ให้สัมภาษณ์ โดยให้ทนายความเป็นผู้ให้ข้อมูลแทน เพราะได้ชี้แจงผ่านทางสื่อไปหมดแล้ว
จากการสอบถาม ทนายธรรมราช ทนายความของครูบาไก่เปิดเผยว่า หลังจากรวบรวมเอกสารหลักฐานต่าง ๆ ในการเข้าแจ้งความตั้งแต่เมื่อวาน (28 ม.ค.66) ที่ผ่านมาจากครูบาไก่ ซึ่งได้ข้อมูลหลักฐานที่เพียงพอจะเข้าแจ้งความเอาผิดผู้ที่กล่าวหาครูบาไก่ โดยจะเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.มัญจาคีรี ให้ดำเนินคดีเอาผิดกับอิคคิวและบุ๋มพร้อมพวก รวมทั้งเพจเฟซบุ๊กชื่อ "อีซ้อขยี้ข่าว2" ด้วย โดยจะแยกเป็น 2 คดี 3 กรรม คือ คดีแรกเอาผิดกลุ่มของอิคคิวพร้อมพวก 3 กรรม 3 วาระ ที่อิคคิวและพวกให้ร้ายใส่ความทางคณะสงฆ์ โดยกรรมแรกคือวันที่ 14 ม.ค.66 ที่กลุ่มของอิคคิวนำข้อมูลข้อเท็จจริงมาเปิดเผย ต่อมา ในวันที่ 21 ม.ค.66 หลังไป ร้องเรียนตรวจสอบการเงินที่ ปปป.แต่เหมือนจะร้องผิดหน่วยงานจึงไปร้องที่ ปปง. และเมื่อวานที่ผ่านมา วันที่ 28 ม.ค.66 ให้สัมภาษณ์ข้อเท็จจริงยืนยันคำเดิมที่ให้ข้อมูลกับสื่อ ซึ่งในเบื้องต้นเท่านี้ก่อน แต่เดี๋ยวจะมีเพิ่มเติมอีกภายหลัง ซึ่งอยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานอีก
และในคดีที่ 2 จะเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีกับ เพจอีซ้อขยี้ข่าว2 ตามความผิด พ.ร.บ.คอมฯ ซึ่งนำภาพที่ไม่ได้รับอนุญาติจากเจ้าของภาพไปเผยแพร่ โดยเป็นความผิดตามมาตรา 14 (1) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย แก่ประชาชน อันมิใช่การกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา ไม่เกิน 5 ปี ไม่เกิน 100,000 บาท
ซึ่งในช่วงเช้านี้หลังจากที่รวบรวมเอกสารหลักฐานต่าง ๆ พร้อมให้ครูบาเซ็นมอบอำนาจเสร็จก็จะเข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรมัญจาคีรีจังหวัดขอนแก่นทันที