ชูวิทย์ ต่อสายตรงหนุ่มสิงคโปร์ เพื่อนสาวชาวไต้หวัน คนที่จ่ายเงิน 27,000 บาทให้ตำรวจ ยืนยันถูกตำรวจข่มขู่ อ้างไม่ผิดเรื่องไม่พกพาสปอร์ตก็ผิดเรื่องบุหรี่ไฟฟ้าอยู่ดี
วันที่ 30 ม.ค. 2566 เมื่อช่วง 19.05 น. ที่ผ่านมา นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้โพสต์คลิปการพูดคุยกับ "นายสกาย" หนุ่มชาวสิงคโปร์ หนึ่งในผู้เสียหายที่อยู่ในเหตุการณ์ซึ่งเป็นเพื่อนดาราสาวไต้หวัน จากการพูดคุย นายสกาย ยืนยันว่า ตนเองเป็นคนจ่ายเงินสดจำนวน 27,000 บาท ให้ตำรวจ 1 คน ภายในด่านจริง โดยขณะจ่ายเงินมีตำรวจอยู่ใกล้ๆ บริเวณดังกล่าวจำนวน 4 นาย ซึ่งที่พวกตนเองยอมจ่ายเงินให้เพราะถูกตำรวจ 1 นายข่มขู่
ตำรวจนายดังกล่าวพยายามถามว่า "ทำไมไม่ยอมเอาพาสปอร์ตตัวจริงออกมา" เนื่องจากในวันนั้น ตัวเพื่อนที่เป็นดาราสาวไต้หวันและตนเองไม่ได้นำพาสปอร์ตตัวจริงออกมา จึงโชว์วีซ่าเพื่อแสดงการเข้าประเทศ ซึ่งตนเองพยายามบอกตำรวจว่า ตนเองมีวีซ่าของสิงคโปร์สามารถอยู่ภายในประเทศไทยได้ 30 วัน แต่ตำรวจนายดังกล่าวยืนยันว่าต้องใช้พาสปอร์ตตัวจริงเท่านั้น จากนั้นตนเองจึงได้โทรศัพท์ให้เพื่อนกลับไปนำพาสปอร์ตตัวจริงที่โรงแรม เพื่อนำกลับมายืนยันกับตำรวจ
แต่ตำรวจนายดังกล่าวไม่ยอมและข่มขู่ อ้างว่า ไม่สามารถกลับไปเอาพาสปอร์ตได้ หลังจากนั้น พวกตนเองได้โต้เถียงกับตำรวจนายดังกล่าวอยู่ระยะหนึ่ง
จากนั้นตำรวจได้พูดต่อว่า "ถึงแม้ไม่มีความผิดเรื่องพาสปอร์ต แต่ก็มีความผิดเรื่องพกพาบุหรี่ไฟฟ้า" และต้องถูกดำเนินคดีเนื่องจากผิดกฎหมาย ตนเองจึงถามกลับตำรวจว่า "เรื่องบุหรี่ไฟฟ้า ตนเองยอมรับผิด แต่ตนเองก็สงสัยว่า บุหรี่ไฟฟ้ามีการวางขายหลายพื้นที่ในเมืองไทย และที่ตลาดห้วยขวางก็มีวางขาย ไม่มีความผิดมากกว่าหรือ?"
พอตนเองพูดจบประโยคนี้ ตำรวจนายดังกล่าวได้โมโหขึ้นมาทันที และสั่งห้ามไม่ให้พวกตนเองถ่ายรูปหรือบันทึกคลิปวิดีโอทุกชนิด และข่มขู่เป็นเวลากว่า 1 ชั่วโมง ก่อนที่พวกตนเองจะจ่ายเงินสดจำนวน 27,000 บาท ให้กับตำรวจนายดังกล่าวไป
โดยระหว่างการพูดคุยกัน นายชูวิทย์ พยายามติดต่อขอให้นายสกาย เดินทางมาประเทศไทย เพื่อให้ข้อมูลทั้งหมด โดยจะออกค่าใช้จ่ายการเดินทางทั้งหมดให้ และนำเงินจำนวน 27,000 บาท ที่ถูกตำรวจไทยเอาไป ส่งคืนให้
ทั้งนี้นายชูวิทย์ ได้แจ้งกับสื่อมวลชนว่า นายสกาย จะเดินทางมาประเทศไทยในวันพรุ่งนี้ เพื่อแถลงรายละเอียดทั้งหมด ซึ่งขอฝากให้ทุกคนรอติดตาม