เบาได้เบา ! "แกนนำเสื้อแดงตรัง" เดือดซัด"จตุพร" หยุด "เนรคุณ" และควร " หุบปาก" ไม่ควรออกมาวิพากษณ์วิจารณ์ผู้มีพระคุณให้ข้าวให้น้ำกิน พร้อมระบุหากยังไม่หยุด ประกาศตนเองพร้อมจะออกมา อ่านข่าว :

จากกรณีนายจตุพร พรหมพันธุ์ อดีตประธาน นปช. ได้ออกมาพูดวิพากษ์วิจารณ์โจมตีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีถึงเรื่องราวเหตุการณ์ต่าง ๆ สมัยที่ยังทำงานร่วมต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตยจนทำให้เกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ มากมายตามมา

 

31 ม.ค. 66 นายรัตน์ ภู่กลาง แกนนำเสื้อแดง จ.ตรัง กล่าวถึงกรณีที่นายจตุพรออกมาวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้ว่านายจตุพรกับกับตนเองก็เป็นคนที่มีความคิดร่วมอุดมการณ์เดียวกันตลอดมา และต่อต้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ตลอดมาเหมือนกัน โดยนายจตุพรเป็นเหมือนคนที่มีจิตวิญญาณ และเป็นผู้นำที่ดีรวมถึงนายณัฐวุฒิด้วย ต่อมานายจตุพรก็ไปร่วมกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ซึ่งเป็นนักการเมืองฝ่ายตรงข้ามแนวคิดและอุดมการณ์แตกต่างกัน ตนเองรู้สึกแปลกใจ แต่ที่แปลกใจที่สุด นายจตุพร ได้กล่าวคำที่ไม่เพราะ ใช้คำหยาบต่อคนที่มีบุญคุณคือ นายทักษิณ ซึ่งทางพรรคก็เคยช่วยเหลือเงินทองอุดหนุนดูแลกันมา เป้าหมายที่ตนเองได้เป็นแกนนำคนเสื้อแดงนั้น เพราะมองเห็นว่านายทักษิณ ชินวัตร เป็นคนที่รักประเทศ ช่วยคนจนให้ได้อยู่ดีกินดี เช่น โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค สามารถช่วยรักษาคนจนได้ สมัยนายทักษิณฯทำได้ผล ในกรณีที่ทางนายจตุพรฯได้พูดเหลวไหลหลายเรื่องหลายอย่างนั้น ตนเองเห็นว่าไม่เป็นการสมควร ที่ได้มีชื่อเสียงทุกวันนี้เพราะนายจตุพรฯเป็นคนเสื้อแดง มาถึงเวลานี้ตนเองคิดว่านายจตุพร พรหมพันธ์ เป็นคน “เนรคุณ” และนายจตุพรควรหุบปากหยุดพูดเรื่องนี้ได้แล้ว

 

นายรัตน์ กล่าวอีกว่า เมื่อพูดถึงนายสุเทพ คนใต้ตอนนี้ยากจนสุดๆ ชาวบ้านที่นายสุเทพฯได้ทำไว้ โดยเฉพาะที่จังหวัดตรังเดือดร้อนสุดๆแทบไม่มีอันจะกิน ซึ่งในตอนนั้นนายสุเทพฯคิดแต่จะเอาชนะไม่ได้คิดจะปรับปรุงแก้ไขบ้านเมืองแต่อย่างใด ผิดกับนายทักษิณฯซึ่งสามารถทำยางพาราให้ขึ้นถึงกิโลกรัมละ 200 บาท ชาวสวนได้สร้างบ้าน ได้ซื้อรถ อยู่กินอุดมสมบูรณ์ แต่ตอนนี้คนใต้รู้แล้วว่าการได้ผู้นำที่เก่ง เป็นเรื่องสำคัญ หากว่านายทักษิณฯได้กลับมาเมืองไทยอีกสักครั้งหนึ่ง และตนเองคิดว่าเป็นสิ่งสำคัญสำหรับทุกคนที่จะต้องมีนายทักษิณมาแก้ปัญหาบ้านเมือง ซึ่งนายทักษิณฯเป็นคนที่เก่งมีความคิดแปลกแหวกแนว และทำให้ชาติไทยเจริญรุ่งเรือง

 

ตนเองจึงอยากขอร้องนายจตุพร ว่าหากเบาได้อยากให้เบา ถ้ายิ่งหยุดได้ก็อยากให้หยุด ซึ่งไม่จำเป็นต้องไปเกาะแกะใคร ซึ่งตัวคุณเอง (นายจตุพร) ก็เก่งอยู่แล้ว อย่าได้ติเตียนคนที่มีบุญคุณ ถือเป็นบาปหนัก ขออย่าได้ก็ทำต่อ แต่หาพูดถึงนายทักษิณอีก ตนเองก็จะออกมา เพื่อที่จะยืนยันว่าคุณนั่นแหละผิด และนายจตุพรยังมาอ้างว่าโดนหลายคดีตอนที่เป็นเสื้อแดง ตนเองก็โดนด้วย โดยศาลชั้นต้นตัดสินให้ตนเองติดคุก 1 ปี ศาลอุทธรณ์ตัดสินจำคุก 1 ปี ไปหลุดตอนศาลอาญาก็ไม่ติดคุก เพราะเราทำเพื่อประชาชนทำเพื่อชาวสวนยาง แล้วตัวเองก็แก้ไขได้จนเสร็จสิ้น แล้วตนเองเป็นคนเสื้อแดงคนเดียวที่ไม่ติดคุก ขอให้นายจตุพรฯหยุดการกระทำที่ไม่ถูกต้อง ทั้งนี้ หากเมืองไทยไม่มีเพื่อไทยความรุ่งโรจน์จะไม่มี

 

 

สำหรับการเลือกตั้ง เขต 1 ของจังหวัดตรัง ซึ่งเป็นเขตที่ตนเองเคยลงสมัคร ตอนนี้ก็ได้ลาออกแล้วให้เลขานุการของตนเองสมัครแทนคือ นายปกิต ยอดสนิท ส่วนการคัดเลือกตัวผู้สมัครในเขตที่เหลืออีก 3 เขตของ จ.ตรังนั้น ตอนนี้ยังไม่ทราบถึงรายละเอียดในการส่งตัวผู้สมัครของพรรค คงต้องรอทางพรรคอีกครั้ง ส่วนโอกาสในชัยชนะ ส่วนตัวคิดว่าคงไม่ชนะ เพราะหลายพรรคตั้งหน้ากันไปที่ 20-30 ล้าน แต่คงได้คะแนนบ้าง และทางพรรคเพื่อไทยไม่ค่อยจะเออออสักเท่าไหร่ โดยเฉพาะจ.ตรังไม่ค่อยจะสนใจเท่าไหร่ มีเพียงส่งแต่ลิ่วล้อเล็ก ๆ มาติดต่อ ขอให้มีเพียงคนลงสมัคร จริง ๆ ตรงนี้พรรคเพื่อไทยคิดผิด ความจริงตรงไหนที่อ่อนแอเราต้องเอาให้แข็งแรง ตนจึงอยากฝากบอกพรรคเพื่อไทยถึงตรงนี้ด้วย อยากให้สนใจภาคใต้ให้มากกว่านี้ เพราะมองว่าเป็นโอกาสของพรรคเพื่อไทยเช่นกัน ที่จะทำอะไรเพื่อคนใต้ เพื่อฐานคะแนนเสียง เพราะภาคใต้กำลังอ่อนแอ ควรที่พรรคเพื่อไทยจะเข้ามาให้ความสำคัญดึงคะแนนเสียง โดยเฉพาะปัญหาพืชผลทางการเกษตรที่กำลังตกต่ำในยุคนี้ พรรคเพื่อไทยเคยทำได้ในอดีตที่ยางพาราราคาสูงที่สุด