โฆษก ตร. ยืนยันคดีรีดไถเงินชาวต่างชาติ 27,000 บาท จะชัดเจนภายใน 1-2 วันนี้
วันที่ 1 ก.พ. 2566 พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวภายหลังเข้าร่วมสอบปากคำ นายสกาย นักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ เพื่อนของอันหยูชิง ที่ก่อนหน้านี้ได้ร่วมแถลงกับนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ กรณีถูกตำรวจตั้งด่านรีดไถเงิน 27,000 บาท
พล.ต.ต.อาชยน กล่าวว่า สกายได้ให้ข้อมูลในฐานะพยาน ซึ่งข้อมูลที่ได้รับวันนี้ ถือว่าเป็นประโยชน์ต่อการสืบสวน ทางพนักงานสอบสวนได้สอบถามและบันทึกถ้อยคำทั้งหมดแล้ว และมีการชี้ตัวบุคคลที่อยู่ในด่าน แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่า มีตำรวจกี่นาย หรือเป็นตำรวจชุดที่มีคำสั่งย้ายให้ไปช่วยราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการกองบังคับการตำรวจนครบาล 1 หรือไม่
ทั้งนี้ ต้องตรวจสอบกับพยานหลักฐานที่ตำรววจมีจึงจะสามารถแจ้งข้อหาเรียกรับผลประโยชน์กับตำรวจที่เกี่ยวข้องได้ ซึ่งคาดว่าใช้เวลา 1-2 วันนี้คดีน่าจะชัดเจนได้ ส่วนกรณีที่กล่าวถึงชายไม่สวมเครื่องแบบตำรวจเข้าไปยุ่งเกี่ยว ตรวจค้นกลุ่มนักท่องเที่ยว ยังอยู่ในระหว่างพิสูจน์ทราบว่าเป็นใคร ถ้าเป็นตำรวจอยู่ในสังกัดใด
พล.ต.ต.อาชยน กล่าวต่อว่า การพิจารณาว่าจะดำเนินคดีกับนายสกาย ในข้อหาจ่ายสินบนหรือไม่ ต้องให้ทางคณะกรรมการสอบสวนพิจารณา จากคำให้การของนายสกาย การถูกเรียกรับดังกล่าวเป็นการให้โดยสมัครใจ หรือ ขู่บังคับ พนักงานสอบสวนต้องพิจารณาคำให้การดังกล่าวให้ชัดเจน เพราะจะมีผลต่อสถานะของนายสกาย ว่าจะเป็นพยานหรือฐานะอื่น
ทั้งนี้ นายสกาย ถือว่าเป็นพยานคนสำคัญในคดีเพราะเป็นผู้อยู่ในเหตุการณ์ที่สื่อสารกับตำรวจโดยตรง และเป็นเจ้าของเงิน 27,000 บาท ที่ตำรวจเรียกไป นอกจากนี้ นายสกายยังเป็นคนเดียวในกลุ่มที่สื่อสาร ฟังและพูดภาษาไทยได้ดี
ระหว่างที่โฆษก ตร. ให้สัมภาษณ์กับสื่อ นายชูวิทย์ ได้เดินเข้ามา และฝากคำแนะนำถึงตำรวจกรณีนักท่องเที่ยวต่างชาติรายอื่นๆ ที่พกบุหรี่ไฟฟ้าหรือสูบบุหรี่ไฟฟ้า เพราะการขายบุหรี่ไฟฟ้าเป็นที่โจ่งแจ้งในไทย ขอตำรวจทำแค่ตักเตือนก็น่าจะเพียงพอแล้ว ไม่ต้องจับดำเนินคดี ซึ่งโฆษก ตร. ก็รับคำแนะนำนี้ไว้ และจะไปเสนอ ผบ.ตร.พิจารณา
นอกจากนี้ นายชูวิทย์ ยังถามว่า การตั้งด่านแต่ละครั้งต้องได้ยอดส่งให้นายจริงไหม โฆษก ตร. บ่ายเบี่ยงที่จะตอบคำถามนี้ แต่บอกว่า หากพบว่ามีการตั้งด่านเพื่อเรียกรับผลประโยชน์สามารถร้องเรียนมาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้