ครูบาไก่ปิดวาจา ขณะที่ญาติโยมลูกศิษย์ลูกหาโต้เรื่องขุดพระ ยืนยันไม่ได้เป็นการอวดอุตริ
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2566 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังวัดป่าโสรโย (วัดป่าบ้านขุมดิน) บ้านขุมดิน ต.กุดเค้า อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น โดยพบว่าที่ศาลาการเปรียญ เป็นที่ตั้งตู้โชว์และจุดที่เก็บพระพุทธรูป รวมถึงวัตถุโบราณที่ครูบาไก่ขุดพบ มีชาวบ้านมาทำบุญที่วัดและพากันชมพระพุทธรูปและวัตถุโบราณ ที่โชว์อยู่
โดยชาวบ้านมีการพูดคุยถึงการที่มีคนออกมาวิพากษ์วิจารณ์ครูบาไก่ ประธานพักสงฆ์วัดป่าปฐมเทวารามหรือวัดป่าปฐมเทวาราม บ้านป่าผุ ต.สวนหม่อน อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ว่าอวดอุตริ พระพุทธรูปและวัตถุโบราณที่ขุดขึ้นมาได้เป็นของปลอม ให้กรมศิลปากรตรวจสอบ ชาวบ้านต่างยืนยันตรงกันว่าครูบาไก่ ไม่เคยอวดอุตริ และไม่เคยพูดว่าพระพุทธรูปและวัตถุโบราณที่ขุดขึ้นมาได้เป็นของแท้หรือของจริง เพราะไปตามกิจนิมนต์ของญาติโยมและประชาชนที่เลื่อมใสศรัทธา
นางอนงค์ อายุ 66 ปี ชาวบ้านขุมดินที่ติดตามครูบาไก่ไปทุกครั้งที่มีญาติโยมนิมนต์ครูบาไก่ กล่าวว่า เห็นครูบาไก่มาตั้งแต่จบป.6แล้วมาบวชเณรที่วัด ช่วงบวชเณร ป่วยบ่อย กระทั่งมาเล่าให้ฟังว่า ฝันเห็นหลวงพ่อบัวขาว และสถานที่ต่างๆ ที่เต็มไปด้วยวัตถุโบราณ จึงเชื่อว่า หลวงพ่อบัวขาวมาให้พร จนหายป่วยและตั้งใจปฏิบัติธรรม
"จากนั้นก็มีชาวบ้านที่มีญาติพี่น้องป่วย บางคนเป็นอัมพฤกษ์เดินไม่ได้ บางคนทำมาหากินลำบาก อาศัยอยู่บ้านไม่ได้ มานิมนต์เณรไก่ไปที่บ้าน เพื่อทำพิธีเสริมสิริมงคล ให้ครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุข ซึ่งเณรไก่ จะบอกกับชาวบ้านตลอด และบอกทุกครั้งที่มานิมนต์ว่า จะดีขึ้นจริงหรือเปล่า และไม่ค่อยมีความสบายใจ เพราะเกรงว่าจะแก้ไขให้ชาวบ้านไม่ได้ ซึ่งเมื่อชาวบ้าน ที่นิมนต์เณรไก่ไปแล้วทำให้ชีวิตครอบครัวดีขึ้น บางคนญาติหายป่วย ก็บอกต่อกันปากต่อปาก จนกลายเป็นคำล่ำลือหนาหูว่า เณรไก่ หูทิพย์ ตาทิพย์ จึงมาการติดตามเณรไก่ไปทุกที่ และเณรไก่จะบอกกับคนที่นิมนต์ว่าที่บ้าน หรือที่ดิน มีปัญหาอะไร มีอะไรอยู่ใต้ดิน โดยเณรไก่จะวาดรูปสิ่งที่อยู่ใต้ดินให้ดู ทั้งยังบอกว่าสิ่งที่อยู่ใต้ดินนั้น จะโผล่ขึ้นมาเวลาใด จะหยิบเอง หรือให้เจ้าของบ้านและญาติพี่น้องหยิบขึ้นมา" นางอนงค์ กล่าว
“ส่วนกรณีที่มีคนออกมาโจมตีและกล่าวหาว่า อวดอุตรินั้น ไม่เคยเห็นเณรไก่หรือครูบาไก่โอ้อวดอะไร และเมื่อไปรับกิจนิมนต์ที่ไหน ชาวบ้านจะตามไปดูแลกันจำนวนมาก และเมื่อมีการขุด ชาวบ้านถามก็จะตอบเพียงว่า เป็นพระอะไร ปางอะไร หรือวัตถุโบราณชนิดใด ไม่เคยคุยโม้โอ้อวด อวดรู้ และหากว่าเป็นข่าวแล้วจะมีหน่วยงานราชการมาตรวจสอบว่าของแท้ของปลอมหรือไม่นั้น ชาวบ้านไม่ปิดกั้น แต่ขอให้มาตรวจที่วัดและตั้งไว้ที่วัดตามเดิม เพราะทุกชิ้นมีคุณค่าทางจิตใจกับชาวบ้านและเจ้าของสถานที่ที่ขุดพบวัตถุเหล่านั้น”
ด้านนางชุติมา อายุ 50 ปี ชาวบ้านขุมดิน ม.4 ลูกศิษย์ครูบาไก่ กล่าววว่า ในเรื่องของการตรวจสอบวัตถุโบราณที่ครูบาไก่ ขุดขึ้นมาตั้งแต่ช่วงบวชเณรนั้น มีกรมศิลป์และหน่วยงานทางราชการที่เกี่ยวข้องอีกหลายหน่วยงานเข้ามาตรวจสอบ เพราะมีคนร้องเรียนให้มาตรวจสอบว่าพระพุทธรูปและวัตถุโบราณที่ครูบาไก่ขุดขึ้นมาได้เป็นของจริงหรือของปลอม โดยกรมศิลปากรสอบถามข้อมูลเพราะการขุดทุกครั้ง ตนเองอยู่ในเหตุการณ์ด้วย ซึ่งทุกครั้งที่ทำการขุด จะมีการทำทะเบียนประวัติไว้ว่าขุดจากที่ใด ได้พระ หรือวัตถุโบราณชนิดใด จากนั้นก็นำมาไว้ที่วัดโสรโยแห่งนี้ เพื่อลงข้อมูลว่าพระพุทธรูปองค์ใดพบเวลาใดสถานที่ใด
"ได้ให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ไปทั้งหมดแล้ว โดยทางเจ้าหน้าที่บอกกับชาวบ้านว่าที่ครูบาไก่ขุดพบนั้นบางชิ้นมีอายุ 300 ปีหรือ 200 ปีบ้าง 100 ปีบ้าง 500 ปีก็มี แต่ชาวบ้านและพระที่วัดมีมติร่วมกันว่าอยากให้เก็บพระพุทธรูปและของโบราณเหล่านี้เอาไว้ที่วัดเพื่อให้ชาวบ้านในพื้นที่ได้สักการะบูชาเพราะชาวบ้านในพื้นที่บ้านขุมดินนี้ต่างศรัทธาและเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา"
นางชุติมา กล่าวอีกว่า ในเรื่องของการอวดอุตรินั้นครูบาไก่เคยถูกตรวจสอบไปแล้ว เพราะมีการร้องเรียนไปก่อนหน้านี้ ซึ่งพระผู้ใหญ่ที่เข้าไปร่วมสังเกตการณ์ ก็มองว่าอาจจะเกิดความไม่เหมาะสมในวันข้างหน้า จึงขอให้ทางครูบาไก่เลิกรับกิจนิมนต์ในการขุดหาพระ
ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่พักสงฆ์วัดป่าปฐมเทวาราม หรือวัดป่าปฐมเทวาราม พบว่ามีประชาชนเดินทางมาทำบุญที่วัดตามปกติ แต่ครูบาไก่ไม่ได้มาพบกับสื่อมวลชน งดให้ข่าว งดให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน งดถ่ายภาพ เพราะอยู่ในช่วงปิดวาจา หลังจากครูบาไก่ขอขมาคณะสงฆ์อำเภอมัญจาคีรี รวมทั้งพระอุปัชฌาย์ และพระผู้ใหญ่ไปแล้วก็ให้เตรียมเข้ากรรม ปิดวาจา จึงไม่มีการพูดคุย ในกรณีการขุดพระและวัตถุโบราณในช่วงบวชเณรที่ผ่านมา แต่น่าตาครูบาไก่ยังสดใส