พบ 3 วาฬบรูด้า "แม่วันดี เจ้าวันรุ่ง และสมาชิกใหม่" ที่เขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี

ตามที่ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ได้พบสัตว์ทะเลหายาก ”วาฬบรูด้า” จำนวน 2 ตัว เมื่อวันที่ 1 ก.พ.66 ที่ผ่านมา กำลังหากินอยู่ในบริเวณทางด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ ของเกาะนายพุด จึงบันทึกภาพถ่ายเพื่อตรวจสอบรายชื่อโดยเปรียบเทียบอัตลักษณ์กับฐานข้อมูลการจำแนกประชากรวาฬบรูด้าในอ่าวไทย โดยใช้ภาพถ่าย (Photo Identification)ของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง นั้น
 
เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ เจ้าหน้าที่ได้สำรวจพบวาฬบรูด้าเข้ามาหากินในพื้นที่รวมจำนวน 3 ตัว เมื่อตรวจสอบอัตลักษณ์กับฐานข้อมูลการจำแนกประชากรวาฬบรูด้าแล้วโดย 2 ตัวแรกพบว่าเป็นแม่วันดีกับเจ้าวันรุ่ง ซึ่งเป็นลูกที่เกิดเมื่อวันที่ 5 กันยายน 2564 ส่วนอีกตัวยังไม่สามารถระบุอัตลักษณ์ได้
 
นายสาธิต ตันติกฤตยา นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการพิเศษ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง เปิดเผยว่า จากฐานข้อมูลในอดีตพบว่ามีวาฬบรูด้าเข้ามาหากินในพื้นที่เฉลี่ย 1-2 ตัวต่อปี จนกระทั่งเกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 (COVID-19) จึงมีการประกาศปิดการท่องเที่ยวและพักแรมในอุทยานแห่งชาติ ในช่วงปี 2563-2564 ทำให้ระบบนิเวศและทรัพยากรทางทะเลในพื้นที่อุทยานแห่งชาติได้รับการฟื้นฟู ซึ่งในช่วงต้นปีจะเป็นฤดูกาลที่วาฬบรูด้าเข้ามาหากินอย่างต่อเนื่อง โดยช่วงเดือนกุมภาพันธ์ - มีนาคม 2564 พบวาฬบรูด้าเข้ามาหากินในพื้นที่รวม 4 ตัว คือ แม่วันดี เจ้าวันหยุด เจ้าอิ่มเอม และเจ้าเปรมปรีดิ์ และในช่วงเดือนมกราคม - กุมภาพันธ์ 2565 พบวาฬบรูด้าเข้ามาหากินในพื้นที่รวม 6 ตัว คือ เจ้าเปรมปรีดิ์ เจ้าสาคู เจ้าเมษา แม่สดใสและลูกชื่อเจ้าแสนดี และอีกตัวไม่ทราบชื่อ
 
"ส่วนในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2566 พบแม่วันดีกับเจ้าวันรุ่ง 2 แม่ลูกวาฬบรูด้า เข้ามาหากินโชว์ความน่ารักในพื้นที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง พร้อมเพื่อนอีก 1 ตัว จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ติดตามว่าจะมีวาฬบรูด้าเข้ามาหากินเพิ่มเติมหรือไม่และจะเวียนว่ายหากินอยู่ในพื้นที่นานเท่าไหร่" นายสาธิต กล่าว
 
ด้านนายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า การที่พบวาฬบรูด้าสัตว์ทะเลหายากกลับเข้ามาหากินในพื้นที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง อ.เกาะสมุย ในช่วงทุกต้นปีสามารถยืนยันชี้วัดได้ถึงความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติในแถบทะเลเกาะสมุยแล้ว ยังสะท้อนให้เห็นถึงกระแสการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ที่จะดึงดูดให้นักท่องเที่ยว ผู้ประกอบการท่องเที่ยว ประชาชนในพื้นที่ทุกฝ่ายให้ร่วมกันปฏิบัติตามกฎระเบียบ ตลอดจนข้อแนะนำของเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติในการเดินเรือ และการประกอบกิจกรรมท่องเที่ยวอื่นๆ เพื่อช่วยกันดูแลสัตว์ทะเลหายาก ซึ่งเป็นทรัพยากรล้ำค่าของท้องทะเลอ่าวไทยให้ยั่งยืนตลอดไป
 
ขอบคุณภาพ : อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง