สืบนครบาล รวบโจรแสบใช้ภาพ "พ.ต.อ." เป็นโปรไฟล์ โพสต์ตุ๋นเช่าวัตถุมงคล เสียหายกว่า 2 ล้านบาท พบประวัติคดีอื้อ
วันที่ 8 ก.พ. 2566 เมื่อเวลา11.00 น.พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น.พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น.สั่งการให้ พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่างพ.ต.อ.นิวัตน์ พึ่งอุทัยศรี พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าว บก.สส.บช.น. จับกุมนายเดโช ทองประเสริฐ อายุ 37 ปี ชาวสระบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงพระนครเหนือ ที่20/2566 ลงวันที่ 12 ม.ค.66 ข้อหานำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จฯโดยหลอกลวงผู้อื่นฯ พร้อมหมายค้นศาลจังหวัดสระบุรีที่ 18/2566 ลงวันที่ 7 ก.พ.66 เข้าทำการตรวจค้นจับกุมได้ที่ห้องพักเลขที่ 210 ชั้น 2 ภายในโรงแรมใกล้กันเพลส สระบุรี เลขที่ 66 ซอย 1 ถนนเทศบาล 4 ตำบลปากเพรียว อำเภอเมืองสระบุรี จ.สระบุรี
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนออนไลน์ได้รับเรื่องร้องเรียนผ่านเพจ'สืบสวนนครบาล IDBM' ได้มีคนร้ายใช้รูปโปรไฟล์หลอกให้เช่าพระเครื่องและวัตถุมงคล ผ่านเฟซบุ๊กชื่อบัญชี'พีท ท่าพระจันทร์'พร้อมกับแอบอ้างใช้รูปตำรวจ ในชื่อ'พ.ต.อ.อนันตชัย วงษ์คณิต'และบัญชี'ผมจะมึง เข้าคุก'เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ มีประชาชนหลงเชื่อ มูลค่าความเสียหายกว่า 2 ล้านบาท จากการสืบสวนทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายเดโช ทองประเสริฐ อายุ 37 ปีเคยถูกจับแต่กลับมาก่อเหตุโดยเปลี่ยนชื่อเฟซบุ๊กใหม่ อาทิ ชื่อบัญชี Wisa Audtho(โจ๊ก พระประแดง) ,ไพรัช เซ็งปากน้ำ, Pee Mora Dok Thai, แจ๊คท่ามหาราช และเอก มรดกไทย โดยบัญชี ผมจะลาก มึงเข้าคุก ได้ใช้ชื่อตำรวจ พ.ต.อ.อนันตชัยฯ ไปประกอบบัญชีม้าใช้หลอกเหยื่อเช่าพระเครื่องวัตถุมงคลสร้างความน่าเชื่อถือจนเหยื่อหลงเชื่อจำนวนมาก กระทั่งออกหมายจับและติดตามไปจับกุมตัวไว้ได้
สอบสวนนายเดโชฯ รับสารภาพว่าก่อเหตุจริงโดยขณะถูกจับกุมได้สร้างบัญชีปลอมนำรูปบุคคลอื่นมาเป็นโปร์ไฟล์ โพสต์ขายพระและเครื่องรางวัตถุมงคลต่าง ๆ กว่า 150 กลุ่ม อาทิกลุ่มหลวงพ่อเดิมพระเครื่องและเครื่องราง ,กลุ่มชมรมวัตถุมงคล อจินไตย,กลุ่มหลวงปู่ศักดิ์ หลวงปู่ญาท่านเสาร์ ,กลุ่มชมรมคนรักหลวงปู่นอง ธมุมโชโต ,กลุ่มศิษย์หลวงพ่อชำนาญ วัดชินวรารามวรวิหาลฯ โดยจะเข้าไปโพสต์หลอกเช่าบูชาพระเครื่องในราคาที่ถูกกว่าราคามาตรฐานที่ลงขายในกลุ่มพระเครื่องต่าง ๆ เมื่อมีผู้สนใจก็จะให้ลูกค้าโอนเงินค่าวางมัดจำมาก่อน จากนั้นผู้ต้องหาจะทำนิ่งเฉยไม่ส่งวัตถุมงคลให้ รวมทั้งปรับลดราคาค่ามัดจำวัตถุมงคลให้มีราคาถูกลงเพื่อให้ลูกค้าสนใจรีบโอนเงินค่ามัดจำเร็วขึ้น กระทั่งมีการนำภาพตำรวจยศ พ.ต.อ. มาทำเป็นภาพประกอบชื่อบัญชีม้าสำหรับรองรับเงินที่หลอกได้จากผู้เสียหายจึงถูกออกหมายจับ
พบประวัติเคยถูกดำเนินคดีลักษณะเดียวกันจำนวน 7 ครั้งประกอบด้วย ปี 2562 ถูกจับกุมข้อหา “ฉ้อโกง” ท้องที่ สภ.พระนครศรีอยุธยา, ปี 2562 ถูกจับกุมข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกง” ท้องที่ สภ.ธัญบุรี, ปี 2563 ถูกจับกุมข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จฯ สภ.รัตนาธิเบศร์, ปี 2563 ข้อหา “ตัวการในการกระทำความผิดฐานนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จฯ, ปี 2563 ถูกจับกุมข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกง” ท้องที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ , ปี 2565 ถูกจับกุมตามหมายจับศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ที่ จ.249/2562 ลงวันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ.2562 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ข้อมูลอันเป็นเท็จฯและร่วมกันฉ้อโกง ” นำส่ง สภ.สภ.กมลาไสย และเดือนเมษายน ปี 2565 ถูกจับกุมหมายจับศาลจังหวัดปัตตานี ที่ จ.178/2565 ลงวันที่ 12 เมษายน พ.ศ.2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จฯแต่ยังไม่เข็ดหลังได้รับการพิจารณาโทษรอลงอาญาในความผิดล่าสุด เมื่อกลับออกมาใช้ชีวิตในสังคมก็ยังคงก่อเหตุในลักษณะเดิมซ้ำซาก ไม่สำนึกในความผิดที่ได้กระทำแต่อย่างใด ตั้งแต่ปี 2562 ถึงปัจจุบัน มีมูลค่าความเสียหายรวมกว่า 2,000,000 บาท จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวแจ้งเตือนภัยไปยังพี่น้องประชาชนว่าในสังคมปัจจุบัน มิจฉาชีพมีเล่ห์เหลี่ยมกลโกงมากมายหลายรูปแบบ ขอให้ประชาชนได้โปรดใช้สติในการใช้ชีวิตในสังคม อย่างหลงเชื่อกลโกง หรือสินค้าที่มีราคาถูกเกินกว่าราคาและคุณภาพที่ควรจะเป็น เนื่องจากมิจฉาชีพมักใช้ความโลภเห็นแก่ผลกำไรมาเป็นจุดล่อใจให้ประชาชนหลงกล ควรมีสติวิเคราะห์ถึงพฤติกรรม กลโกง หากไม่แน่ใจ หรือสงสัยว่าบุคคลที่เข้ามาเสนอผลประโยชน์ เสนอขาย หรือชักชวนลงทุนในด้านต่างๆ นั้นจะเป็นมิจฉาชีพหรือไม่ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ หรือแจ้งเบาะแสการกระทำความผิด มายังเพจ “สืบสวนนครบาล IDMB” ได้ตลอด 24 ชม. แม้จะเป็นคดีที่มีความเสียหายไม่มาก แต่หากเป็นคดีที่ประชาชนเดือดร้อน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.