วันที่ 8 ก.พ.66 ที่ สภ พระประแดง นายไพฑูรย์ เปาเจริญ อายุ 43 ปี โชเฟอร์รถซูบารุ ได้เข้าพบ ร.ต.อ.ชาย พลศรี รอง สว.สอบสวน สภ .พระประแดง สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 7 ก.พ.66 เวลา 18.20 น. ได้ขับรถรับผู้โดยสารออกมาจากตลาดประชาอุทิศ 61 และ ได้มาส่งผู้โดยสารบริเวณหน้าห้างแห่งหนึ่ง พอส่งผู้โดยสารลงรถเสร็จแล้วก็มีกลุ่มวัยรุ่นประมาณ 5-6 คน เข้ามารุมทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บและรถได้รับความเสียหายแล้วกลุ่มชายดังกล่าวก็ได้เดินหลบหนีไป ตนเองจึงได้เดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.พระประแดง  จากนั้นทางที่ตำรวจจึงได้ทำหนังสือส่งตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลราษฎร์บูรณะ เบื้องต้นผู้ได้รับบาดเจ็บมีบาดแผลที่หน้าอก 1 แผล และ มีรอยพกช้ำบวมที่โหนกแก้มข้างขวา ที่ปากมีรอยแตกอีกด้านในและที่ศีรษะปูดบวม ส่วนทางด้านผู้ก่อเหตุพอทราบตัวแล้ว 1 คน ซึ่งเป็นคนที่คอยเก็บค่าจอดรถภายในวิน วินดังกล่าวตั้งอยู่บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้า ซึ่งเป็นพื้นที่ของห้างดังกล่าว   

 

ทางด้าน พ.ต.อ.ประเสริฐสุข เฮงสุวรรณ์ ผกก.สภ.พระประแดง ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่หาข้อมูลกลุ่มก่อเหตุและตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุ รีบติดตามตัวกลุ่มก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว เพราะขณะก่อเหตุเป็นช่วงตอนเย็นมีประชาชนจำนวนมากที่ยืนรอรถโดยสาร ทำแบบไม่แกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง

 

ทางด้านนาย ไพฑูรย์ เปาเจริญ  อายุ 43 ปี ผู้บาดเจ็บเล่าว่า ตนวิ่งรับส่งผู้โดยสารจังหวะบางทีตนไม่ได้ขึ้นข้างบน บางทีตนไปกับครอบครัว กลับตนก็ไม่ได้วิ่ง ที่นี้เขาบอกว่าเช่าครึ่งวันหรืออะไรตนก็ไม่รู้ มีพักหลักตนเสียเงินให้คนที่มาเก็บ (คนที่มีเรื่อง) ตลอดเลยเป็นค่าบริการจอดรถบริเวณในห้าง เขาเก็บทุกวันวันไหนที่วิ่งวันละ 40 บาท ก่อนหน้านี้แต่นานมาแล้วตนก็จ่ายพักหลังตนไม่ได้จ่าย เพราะตามข้อกำหนดของเขาคือถ้าไม่ได้วิ่งก็ไม่ต้องจ่าย ตนไม่ได้วิ่งแต่มีบางคนก็มีการมาลงเบอร์ให้แทน เพราะคนที่มาลงให้อาจจะเห็นว่าตนขับรถผ่านไปคิดว่าตนวิ่งเลยลงให้ บางทีตนวิ่งจริงแต่ตนวิ่งไปทำธุระกับครอบครัว ไม่ได้รับผู้โดยสาร ถ้าตนลงมาแล้วเจอผู้โดยสารก็จะบอกให้ไปขึ้นที่วิน  ก่อนหน้าตนก็เคยมีปัญหากับเขามาก่อนก็เรื่องค่าบริการจอดรถ 40 บาท และก็เรื่องที่ตนเสียงดัง จนกระทั่งเมื่อวานเวลาประมาณ 18.20 น. ตนวิ่งอยู่ข้างล่างไม่ได้ขึ้นไปจอดบนห้างเลย และก็ไม่ได้เสียงดังอะไรกับใครเลย ผู้โดยสารก็เป็นรุ่นลูกทั้งนั้นเลย ตนก็ต้องให้เขาเลือกกันเองว่าจะขึ้นแดงหรือจะขึ้นเขียว ก่อนเกิดเหตุตนเห็นกลุ่มผู้ก่อเหตุนั่งอยู่ตรงหน้าร้านค้าตรงห้างบริเวณต้นโพธิ์ประจำ ตนก็ไม่รู้ว่ามาจากตรงไหนยังไง กลุ่มที่ก่อเหตุมากันประมาณ 5-6 คน มีอาวุธติดมือมาด้วย ทั้งมีดดายหญ้า มีด ไม้ ก่อนจะเดินเข้ามาก่อเหตุตนก็พยายามจะหลบ พยายามเดินหน้าถอยหลังเพื่อจะหนี แต่ติดรถตู้ ดีไม่ถอยไปชนคนอื่นเขาด้วย ตนก็ระวังเหมือนกันไม่อยากเอาเรื่องตนเองทำให้คนอื่นเขาบาดเจ็บ ตอนนั้นเพิ่งจะมาส่งผู้โดยสารเลยไม่มีผู้โดยสารขณะเกิดเหตุ หลังเกิดเหตุตนได้เดินทางเข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันเอาไว้แล้ว และไปตรวจร่างกายเรียบร้อยแล้ว

 

เพื่อนร่วมวิน นาย เอ อายุ 51 ปี เล่าว่า ที่คนเจ็บขึ้นไม่ได้เพราะเขาไม่ให้ขึ้น ตนเห็นได้ข่าวว่าเกี่ยวกับเรื่องค่าจอดรถไม่ได้จ่ายเขาแล้ว และได้ยินมาอีกว่าไปชกอะไรเขาก่อน เขาจ่ายค่าจอดรถอะไรยังไงกันตนก็ไม่รู้ เวลาเขามาเก็บเห็นคนเจ็บบอกว่าเขาไม่ได้ขึ้น เพราะกฎของเขาคือ ถ้าลูกค้าใครขึ้นมา ต้องเสียค่าวินทุกวัน แต่ช่วงเช้าพวกเราจะต้องอยู่ข้างล่างกันก่อนก็ยังไม่เสีย แต่ถ้าใครขึ้นมาก็คือว่าต้องเสียค่าจอด วันละ 40 บาท ซึ่งคนที่เก็บเป็นเจ้าหน้าที่พนักงานของบห้าง เขามีการจัดระเบียบแล้วเก็บค่าจอด ตนที่นี้คนเจ็บบอกว่าเขาไม่ได้ขึ้น แต่ว่าวินมันจะมีการลงเบอร์เอาไว้ว่าใครขึ้นมาจอดเขาจะลงเบอร์ไว้แล้วจะมีคนมาเก็บช่วงประมาณ 3-4 โมงเย็น ที่ตนรู้มาคือคนเจ็บไม่จ่ายเขาอะไรเขาเนี่ยแหละ ก่อนหน้าที่คนเจ็บก็เคยมีปัญหามาแล้ว เมื่ออาทิตย์ 2 อาทิตย์นี้เอง แล้วไงไม่รู้คนเจ็บเป็นคนใจร้อนไปชกต่อยเขาได้ยังไง เห็นเขาว่ากันอย่างนั้น ตนไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ คนเจ็บเป็นคนแบบพูดจากระโชกโฮกฮาก นักเลง ทางนี้เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร ตนก็ไม่ค่อยอยากจะยุ่งกับคนเจ็บหรอก เขาเป็นคนอารมณ์ร้อน จนกลุ่มผู้ก่อเหตุน่าจะหมั่นไส้ แต่มุมมองของตนกลุ่มผู้ก่อเหตุก็ไม่น่าจะทำถึงขนาดนั้นเลย ความจริงควรจะพูดจากัน แต่ค่าจอดรถตนมองว่าเราก็ควรเสียให้เขาเพราะเราใช้พื้นที่เขา