นักท่องเที่ยวตะลึง "พะยูนเมืองตรัง" โผล่ขึ้นมาลอยตัวให้ได้ยลโฉมอย่างใกล้ชิด โดยไม่ตื่นกลัว ไม่หนี หรือตกใจเหมือนเมื่อก่อน ขณะที่หน่วยงานอนุรักษ์เร่งคุมเข้ม หลังจากที่ทัวร์พะยูนกำลังยอดฮิต
พะยูน สัตว์อนุรักษ์ชื่อดังคู่จังหวัดตรัง กำลังได้รับความสนใจอย่างมากในช่วงไฮซีซั่นนี้ เนื่องจากพวกมันจะโผล่ขึ้นมาลอยตัวให้นักท่องเที่ยวได้ยลโฉมอย่างใกล้ชิด โดยไม่ตื่นกลัว ไม่หนี หรือตกใจ รวมทั้งมีความคุ้นเคยกับผู้คนมากกว่าทุกปีที่ผ่านมา จนกลายเป็นหนึ่งในโปรแกรมทัวร์ที่นักท่องเที่ยวให้ความนิยมอย่างมาก ถึงแม้จะมีค่าใช้จ่ายค่อยข้างสูง ทั้งนี้ หากนักท่องเที่ยวลงเรือจากท่าเรือหาดยาว จะต้องเสียค่าใช้จ่ายให้กับเรือหางยาว พร้อมคนขับ ซึ่งจะเป็นไกด์ไปในตัว ลำละ 2500-3500 บาท แต่หากถ้านักท่องเที่ยวลงเรือที่เกาะลิบง จะเสียค่าใช้จ่ายลำละ 1200-1500 บาท
โดย นายสุริยะ หาดเด็น หรือบังยัด ผู้ประกอบการเรือทัวร์เกาะลิบง เล่าว่า ช่วงนี้สามารถเดินทางมาชมพะยูนได้ทุกวัน โดยเฉพาะช่วงเช้า ซึ่งจะมีสภาพอากาศแจ่มใส เนื่องจากกำลังเข้าสู่หน้าร้อน ทำให้ท้องทะเลสงบ ไร้คลื่นลมแรง น้ำทะเลจึงสวยใสอย่างมาก และส่วนหนึ่งมาจากสถานการณ์โควิดในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้มีการปิดแหล่งท่องเที่ยวทางทะเล ธรรมชาติจึงได้หยุดพักฟื้นเต็มที่ รวมทั้งพะยูน ส่วนจุดที่เหมาะต่อการชมพะยูนและมีโอกาสได้เจอมากที่สุดก็คือ บริเวณหมู่บ้านบาตูปูเต๊ะ หมู่ที่ 4 ตำบลเกาะลิบง และหน้าเขาโต๊ะเต๊ะ หรือเขามุกดา รวมที่เกาะมุกด์
อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการควบคุมมิให้เกิดปัญหาในการล่องเรือชมพะยูน สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 7 โดยผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนล่าง และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม จึงได้ลงพื้นที่เกาะมุกด์ อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง เพื่อประชุมกับแกนนำชุมชน และชาวบ้าน ที่ประกอบกิจการเรือประมง และเรือท่องเที่ยวในพื้นที่
เนื่องด้วยในช่วงนี้ได้มีพะยูนเข้ามาหากินและโชว์ตัวอย่างต่อเนื่องทุกวัน ทำให้มีจำนวนนักท่องเที่ยวเข้ามาดูพะยูนเยอะขึ้น และเริ่มมีธุรกิจเรือนำเที่ยวชมพะยูนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงได้กำหนดกติกา 5 ข้อ ดังนี้ 1.ให้เรือทุกลำไม่ว่าจะเป็นเรือนำเที่ยว หรือเรือของชาวบ้าน จะต้องชะลอความเร็วเมื่อเข้าสู่บริเวณพื้นที่แหล่งหญ้าทะเล 2.ห้ามทำการประมงทุกชนิดบริเวณพื้นที่แนวหญ้าทะเล 3. 4.ห้ามทอดสมอเรือบริเวณแนวหญ้าทะเล 4.ห้ามให้อาหารปลาในบริเวณดังกล่าว และ 5.การเที่ยวชมพะยูน ห้ามใช้เรือวิ่งไล่ต้อน ต้องขึ้นยืนดูบนสะพานท่าเทียบเรือเท่านั้น