ทนายแถลงท่าที"ตะวัน-แบม" ลั่นเดินหน้ายื่นขอปล่อยตัวชั่วคราว เพื่อนทั้ง14คน ขีดเส้น 3 วัน หากไม่มีความเคลื่อนไหว จะออกจากโรงพยาบาล ไปอดอาหารต่อที่อื่น

เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2566 ที่หน้าหอผู้ป่วยพิเศษยูงทอง 2 โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ นายกฤษฎางค์ นุตจรัส หรือ ทนายด่าง ทนายความศูนย์ทนายเพื่อสิทธิมนุษยชน ให้สัมภาษณ์ถึงอาการของ น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือ ตะวัน และ น.ส.อรวรรณ ภู่พงษ์ หรือ แบม นักกิจกรรมทางการเมือง

นายกฤษฎางค์ กล่าวว่า ตนขอแถลงในฐานะทนายความของทั้ง 2 คน ซึ่งอาจมีบางส่วนเกิดความเข้าใจผิด ดดยระบุว่า "มีสื่อมวลชน เพื่อนฝูงของทั้ง 2 คนโทรมาถามว่าทั้ง 2 ท่านไปยื่นขอประกันตัวหรือ ศาลถึงให้ ความจริงน้องทั้ง 2 คน เขาได้รับการประกันตัวอยู่แล้ว ก่อนที่จะมีการอดอาหาร เขาเป็นคนขอถอนประกันตัวเอง จากศาลอาญาและศาลกรุงเทพใต้ และจึงถูกเข้าไปขังในเรือนจำ จนกระทั่งเขาประท้วงด้วยการอดอาหาร เพื่อที่จะขอเรียกร้องให้ศาลอาญาให้ประกันตัวผู้ต้องหาทางการเมืองจำนวน 8-9 รายที่ถูกขังอยู่โดยไม่ได้รับการประกันตัวมาเป็นปีเศษ นี่คือสิ่งที่เขาเรียกร้อง" นายกฤษฎางค์ กล่าว

นายกฤษฎางค์ กล่าวต่อว่า สิ่งที่เกิดขึ้นวานนี้ (7ก.พ.66) ที่ศาลอาญารัชดาและศาลอาญากรุงเทพใต้ เกิดจากการที่ รศ.นพ.พฤหัส ต่ออุดม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ได้ไปยื่นต่อศาลทั้ง 2 ซึ่งอยู่ในมือตนและเพิ่งเห็นว่าเด็กทั้ง 2 เป็นผู้ป่วยที่ได้รับส่งมาจากโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ขณะนั้นคือวันที่ 7 ก.พ. ที่ยื่นคำร้องมีอาการสาหัส วิกฤต ในคำร้องมีคำว่ามีอาการวิกฤตอาจจะเสียชีวิตได้ และมีรายละเอียดทางการแพทย์แนบไป ตรงนี้เป็นข้อมูลส่วนตัวของคนไข้ ซึ่งทางเราไม่ได้รู้เลย

นายกฤษฎางค์ กล่าวว่า ใช้คำว่าให้ถือหลักว่าเนื่องจากทั้ง 2 คนยังเป็นผู้ต้องหาที่ศาลยังไม่ตัดสิน ขอให้ถือหลักว่าเขายังเป็นผู้บริสุทธ์อยู่ ตราบใดที่ศาลยังไม่ตัดสินและตามหลักรัฐธรรมนูญว่าจะควบคุมผู้ต้องหาและจำเลยในคดีอาญาไว้เท่าที่จำเป็นเพื่อไม่ให้หลบหนี โรงพยาบาลเห็นว่าในกรณีนี้เป็นกรณีที่ศาลน่าจะใช้อำนาจปล่อยเขาโดยไม่มีเงื่อนไข เพราะว่าการรักษาพยาบาลภายใต้การควบคุมของราชทัณฑ์ มีผลต่อจิตใจของผู้ป่วย เป็นอุปสรรคในการรักษาพยาบาล

ศาลก็วินิจฉัยและมีคำสั่ง ซึ่งคำสั่งก็แนวเดียวกัน เป็นทำนองว่า เมื่อแพทย์รายงานมาเห็นว่าจำเลยจะอยู่ในภาวะวิกฤตที่อาจเสียชีวิตได้ ประกอบกับการเข้าเยี่ยมกับบุคคลใกล้ชิด ซึ่งอยู่ในความควบคุมดูแลของเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เพราะต้องเป็นไปตามระเบียบเป็นปัญหาในการเยียวยาจิตใจของจำเลย ขณะนี้ซึ่งอยู่ในภาวะวิกฤต จึงออกหมายปล่อย

นายกฤษฎางค์ กล่าวว่า คำว่าออกหมายปล่อย มีผลให้ปัจจุบันทั้งคู่ไม่ได้เป็นผู้ต้องขังในคดีอาญา เพียงแต่เป็นจำเลยในคดีอาญา ไม่ต้องประกันตัวไม่ต้องมีหลักประกัน ราชทัณฑ์ควบคุมตัวเขาไม่ได้ เขาจะไปอยู่ไหนก็ได้ ไม่มีเงื่อนไขใดๆที่ศาลจะควบคุมเขาได้ เพราะว่าปล่อยไปแล้ว แต่ว่าก็มีกฎหมายข้ออื่นห้ามไปกระทำการใดๆ

“ในประเด็นนี้น้องทั้ง 2 ให้ย้ำอีกทีว่าเขายังไม่ทราบ เขาไม่รับรู้มาก่อนเลย เขาคิดว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการในการที่เขาอดอาหาร แล้วเขาก็ไม่ได้ประท้วงศาล ไม่ได้กดดันศาล แต่ขอให้โปรดพิจารณาให้ผู้ต้องหาทางการเมือง ซึ่งติดคุกมาแล้ว บางคนอายุ 18 ปีเศษ เจอข้อหาครอบครองระเบิดวัตถุระเบิด ติดคุกอยู่ 9 เดือนเศษบ้าง 2-3 เดือนบ้าง บางคนมีครอบครัวก็ได้รับความยากลำบาก ยื่นประกันศาลก็ไม่ให้” นายกฤษฎางค์ กล่าว

นายกฤษฎางค์ กล่าวอีกว่า ตะวันและแบมเสียใจที่ศาลอาจจะเข้าใจเจตนาผิด เนื่องจากไม่ได้ต้องการประกันตัวเอง และไม่ได้ต้องการจะฆ่าตัวตาย เขามีจิตสำนึกมีความต้องการที่จะอธิบายต่อสังคม เรียกร้องมโนสำนึกของนักกฎหมายทั้งประเทศว่า สิ่งที่ทำไปถูกหรือไม่ ถ้าชนะหรือได้ผลที่ผู้คนกลับมาสนใจก็จะเป็นหลักประกันให้กับทุกๆครอบครัว เพราะว่าลูกหลานไม่ต้องถูกเอาตัวไป เอาไปขังในคุกโดยไม่มีหลักประกัน โดยไม่มีโอกาสจะต่อสู้คดี ตรงนี้เป็นหลักประกันที่ตามหลักวิชาการที่ตนเรียนมานั้นถูกต้องและตามกฎหมายทั่วไป กฎหมายก็ต้องเริ่มจากการต่อสู้ เพื่อสร้างให้มีกฎเกณฑ์ที่ดี

“ผมแถลงแทนให้เข้าใจในประเด็นเรื่องแรกก่อน เขายืนยันว่าเขาไม่รับรู้เรื่องนี้ ก็คุยกันนาน ที่ออกมาช้า ก็เอาเอกสารรายละเอียดมาให้ดูแล้วก็คุยกัน ในเรื่องอาการตะวันกับแบมยังคงอดอาหารและน้ำอยู่ แต่เพื่อให้เป็นไปตามคำขอร้องของคุณหมอ เนื่องจากสภาพเมื่อวานวันที่ 7 ก.พ. คือวิกฤตมากอย่างที่คุณหมอเขียนไปในคำร้องของศาล ตะวันกับแบมเพลียมาก ตอนนี้ยังยอมรับอยู่คือน้ำเกลือ และยังไม่ยอมรับวิตามินหรือยอมรับอาหารหรือดื่มน้ำ มีจิบน้ำตอนที่ตากแดด ทาครีมกันแดดเพื่อให้บรรเทาอาการเจ็บปวด ตอนนี้มีอาการแสบท้องและมึนหัว เมื่อคืนบอกนอนไม่หลับ ปวดตัวปวดร่างกายอย่างมาก ปวดเส้นอาจจะเพราะเขาเสียบน้ำเกลือหมอมาวัดความดัน เขายังเจ็บปวดทุรนทุราย” นายกฤษฎางค์ กล่าว

นายกฤษฎางค์ กล่าวอีกว่า วันนี้ก็ให้เขานอนเต็มที่ก่อน ตนถามว่าจะทำอะไรกันต่อไปหรือไม่ เขาบอกจริงๆเขาไม่ได้คิดอะไร สิ่งที่ศาลตัดสินมาเมื่อวาน เขาไม่ได้คิดในความรู้สึกเขาเลย คิดอย่างเดียวว่าทำไมผู้ใหญ่ถึงไม่ฟังเหตุผล ทำไมถึงไม่ยอมรับในหลักการ ทำไมไม่นั่งคุยกัน ทำไมไม่เปิดโอกาสให้ผู้คนได้ใช้สิทธิตามกฎหมายที่มีอยู่ในการประกันตัว

“เขาบอกอย่างนี้ว่า ข้อ 1 จากวันนี้ไปเขาจะขอให้ทีมงานของทนายความเราช่วยยื่นขอปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหาทางการเมืองที่ศาลไม่ให้ทั้ง 7-8 คนอีกทีหนึ่ง ซึ่งพรุ่งนี้เราจะดำเนินการให้เขา เพราะสิทธิในการประกันตัวยื่นเมื่อไหร่ก็ได้ เพราะเขายังไม่ถูกตัดสินว่าเป็นจำเลย ส่วนคนที่ศาลให้ยื่นเอกสารเพิ่มเติม 1 ท่าน เกี่ยวกับเรื่องการเรียนก็ให้ไปยื่น และคนที่ศาลสั่งสืบสอบ 4 คนก็ให้เราประสานงานให้เขา ไปเรียกร้องกรมคุมประพฤติสืบเสาะและส่งศาล ซึ่งศาลให้ภายใน 15 วัน แต่เขาขอว่าให้เสร็จภายใน 3 วันนี้ไหม โดยระหว่างนี้เขายังคงไม่ยอมรับน้ำรับอาหารและรับยาต่อไป และรอฟังสิ่งที่เราไปทำให้เขา ถ้าหากมีความก้าวหน้าขึ้นมาคงต้องว่ากันต่อไป ” นายกฤษฎางค์ กล่าว

นายกฤษฎางค์ กล่าวต่อไปว่า น.ส.ทานตะวัน และ น.ส.อรวรรณ บอกว่าถ้าภายใน 3 วันไม่ได้รับการตอบรับหรือยังไม่มีการมานั่งฟังหรือคุยกัน จะขอออกจากโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ และ ไปอดอาหารต่อที่ที่เหมาะสมต่อไป