หนุ่มหลอนยาคลั่งถือมีดบุกขึ้นอาคารโรงเรียนในโคราช ลั่น "พวก_ึงจะไปไหน" อ้างเด็กท้าทายให้ขึ้นไปหา นักเรียนพากันหนีเข้าห้องเรียน-ล็อกประตู
วันที่ 10 ก.พ.66 ผู้สื่อข่าวช่อง 8 ลงพื้นที่มาที่โรงเรียนเทศบาล 3 บ้านม่วง อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา โดยได้สอบถามครูและนักเรียนที่เห็นเหตุการณ์ ขณะที่ชายคลั่งถือมีดบุกเข้าโรงเรียน
โดยนักเรียนชายชั้นมัธยมปีที่ 2 เล่าว่า ช่วงเวลาประมาณ 14.45 น. ขณะนั้นกำลัง นั่งทำงานส่งอาจารย์อยู่ภายในห้องเรียน จู่ ๆ ได้ยินเสียงเพื่อนตะโกนบอกว่า มีชายคุ้มคลั่งถือมีดบุกขึ้นมาที่ชั้น 3 ของอาคารเรียน คาดจะมาแทงคนในโรงเรียน ตนเองจึงได้ออกมาดูครู่หนึ่ง เห็นเด็กกำลังวิ่งลงมา และผู้ก่อเหตุก็เลยพูดขึ้นว่า "พวกมึงจะไปไหน" ตนเองก็รีบวิ่งลงไปชั้นล่างเช่นกัน ก่อนที่ชายคลั่งถือมีดปลายแหลมจะเดินลงจากอาคารเรียนแล้วก็หนีไปทางด้านหลังโรงเรียน โดยลักษณะของชายคนนี้มีอาการคลุ้มคลั่งและน่ากลัวมาก ทำให้เด็กหลายคนขวัญเสีย สาเหตุที่ชายคลุ้มคลั่งคนนี้ก่อเหตุไม่ทราบ ส่วนเรื่องที่ว่ามีเด็กไปตะโกนท้าทาย ยืนยันว่าไม่มี เพราะเวลาว่างเด็กก็จะเล่นเกมและพักผ่อนกันเท่านั้น
ขณะเดียวกันทางครูที่โรงเรียนให้ข้อมูลว่าบ้านผู้ก่อเหตุทราบว่าอยู่ห่างจากโรงเรียนแค่ 50 เมตร ผู้สื่อข่าวจึงได้ตามไปดู พบว่าบ้านหลังดังกล่าว เป็นบ้านปูนชั้นเดียว และที่บ้านมีผู้อาศัยอยู่กัน 3 คนรวมผู้ก่อเหตุ และทุกคนมีอาการทางประสาทหมด
สอบถามนางเพ็ญเพื่อนบ้าน เล่าว่า ในวันที่เกิดเหตุไม่ทราบมารู้ตอนที่ทางตำรวจมาที่บ้านจึงได้ทราบว่าเพื่อนบ้านบุกเข้าไปที่โรงเรียนถือมีดไปขู่นักเรียน ส่วนบ้านหลังดังกล่าวอยู่กัน 3 คน โดยทุกคนมีอาการทางประสาทจริง ขณะที่นายเขียวผู้ก่อเหตุ ปกติเป็นคนพูดจารู้เรื่อง นาน ๆ ครั้งถึงจะเห็นเอะอะโวยวายทำลายข้าวของแต่ก็ไม่บ่อย ส่วนในเรื่องสาเหตุที่นายเขียวบุกไปที่โรงเรียน อ้างว่าเด็กนักเรียนตะโกนท้าทาย โดยปกติในช่วงเวลาว่างก็จะเห็นเด็กวิ่งเล่นตะโกนเสียงดังกันเป็นปกติทุกวันอยู่แล้ว แต่ตนเองก็ไม่ได้สนใจว่าเด็กได้ตะโกนท้าทายหรือด่านายเขียวไหมเพราะส่วนตัวก็เห็นว่าเด็กเล่นกันเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวไปตรวจสอบบริเวณด้านหลังของบ้านผู้ก่อเหตุพบว่าด้านหลังของบ้านผู้ก่อเหตุจะใช้เป็นที่พักผ่อนโดยจะมีการเลี้ยงไก่ด้วย โดยพื้นที่ดังกล่าวอยู่ติดกับรั้ว ห่างกันไม่เกิน 50 เมตร เวลาที่เด็กเล่นกัน เสียงก็จะดังมาถึงที่บ้านผู้ก่อเหตุ ซึ่งอาจจะทำให้ผู้ก่อเหตุเข้าใจผิด ว่ามีคนด่าและข่มขู่
ด้านนายวงศพัทธ์ ชอบบัว หลานชาย เผยว่า ก่อนหน้านี้ผู้ก่อเหตุก็ปกติและเปิดร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ที่ตลาดบัวใหญ่ จนกระทั่งเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา ร้านเจ๊งจึงทำให้ผู้ก่อเหตุหันไปเสพยาเสพติดและดื่มเหล้าทุกวัน ส่วนในเรื่องที่ว่ามีเด็กมาท้าทาย ตนเองมองว่าอาจจะหูแว่วไปเอง แต่บางครั้งก็ได้ยินเด็กตะโกน เรียกพี่เขียว ๆ บ้าง แต่ก็ไม่มีใครเคยตะโกนด่าทอหรือท้าทายแต่อย่างใด
ขณะที่นายพิทักษ์ พิมพ์ทอง ผอ.โรงเรียนเทศบาล 3 บ้านม่วง เผยว่า ช่วงที่เกิดเหตุโชคดีมากที่ครูทุกคนมีสติและรีบล็อกประตูห้องเรียนเพราะก่อนหน้านี้ เคยซักซ้อมถึงมาตรการป้องกันเหตุแบบนี้มาแล้ว จึงทำให้ทุกคนได้เรียนรู้และหลังจากนี้จะมีมาตรการป้องกันโดยการเพิ่มกล้องวงจรปิดรอบโรงเรียน และอาจจะมีการจ้างเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมาดูแลความเรียบร้อยภายในโรงเรียน
จากการสอบถามเจ้าหน้าตำรวจ โดยต้องหารับสารภาพว่า เสพยาบ้าก่อนไปก่อเหตุ จำนวน 5 เม็ดส่วนสาเหตุแรงจูงใจ อ้างว่า ถูกเด็กนักเรียนตะโกนท้าทาย ลงมาจากชั้น 3 ของอาคาร 3 บอกให้ขึ้นไปหา ด้วยอารมณ์โมโหและถูกยั่วยุ จึงเดินไปหยิบมีดและปีนข้ามกำแพงรั้วโรงเรียนไปก่อเหตุ ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหา บุกรุกอาคารสำนักงานที่เก็บรักษาทรัพย์ที่อยู่ในความครอบครองผู้อื่นโดยไม่มีเหตุอันควร โดยมีอาวุธมีดพกพาติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ และเสพยาเสพติดให้โทษ ประเภท 1 (ยาบ้า) และได้ฝากขังไปเมื่อเช้านี้ (10 ก.พ.66)