"นายกฯ"อารมณ์ดีทั้งวัน เปิดงานกองทุนหมู่บ้าน ขอต่อยอดเพิ่มมูลค่า บอกต้องรัก สามัคคีอย่าขัดแย้งกัน พร้อมปรับตัวตามเทรนด์ ทำท่าวัยรุ่นY2Kถ่ายรูปร่วมชาวบ้าน
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิดงาน “ก้าวสู่ทศวรรษที่ 3 กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง” ณ ศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี
โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เราต้องการให้ประเทศไทยเดินหน้าไปให้ได้ ด้วยฐานราก รัฐบาลจำเป็นต้องดูแลให้ทุกคนมีกำลังทั้งในการผลิตการซื้อการขาย แต่รายได้ทั้งหมดเป็นผลดีกับประชาชน วันนี้ย้อนมาดูกองทุนหมู่บ้านที่ตั้งมาเป็นศตวรรษที่ 3 ซึ่งตั้งมาตามเจตนารมณ์เดิม เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชน สิ่งสำคัญที่สุดคือวันนี้ตนต้องการให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนประเทศ
กองทุนหมู่บ้านเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้จีดีพีเพิ่มมากขึ้น และทำให้คนกลับภูมิลำเนา วันนี้เป็นการประกาศเจตนารมณ์ว่าเราต้องร่วมกันทำสิ่งเหล่านี้ให้แต่ละจังหวัดมีรายได้ที่สูงขึ้น มีงบประมาณท้องถิ่นมากขึ้น เพื่อพัฒนาท้องถิ่นให้ได้
โครงการนี้ตั้งมา 30 ปี ต้องมีปัญหาแน่นอน แต่เราต้องไม่ท้อทำให้ดีขึ้นไปเรื่อยๆ โดยพื้นฐานของความสุจริตใจ ตนพยายามขับเคลื่อนเรื่องเหล่านี้มอบหมายให้แต่ละกองทุนปรับวิธีการให้ตรงเป้าเกิดผลเร็วที่สุด สิ่งสำคัญคือปัญหาหนี้สินครัวเรือนวันนี้มีโครงการช่วยเหลือเรื่องหนี้สินหลายกระทรวงก็ทำอยู่ มีโครงการแก้หนี่หลายโครงการฝากทุกคนช่วยติดตาม
สำหรับจุดแข็งของกองทุนหมู่บ้าน คือทำให้ทุกคนอยู่ได้ด้วยตัวเอง พัฒนาหมู่บ้านได้ เริ่มต้นจากหมู่บ้านละ 1,000,000 จะทำอย่างไรให้ 13 ล้านคนในโครงการดีขึ้น ถ้า 13 ล้านคนนี้ไม่ดีขี้น ก็เท่ากับวัตถุประสงค์กองทุนไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ต้องทำทุกอย่างให้เข้มแข็งขึ้น ใช้ดิจิทัล เทคโนโลยีมาช่วยเพื่อเพิ่มมูลค่าในการผลิตแปรรูป จำหน่าย วันนี้เส้นทางการคมนาคมขนส่งดีขึ้นกว่าเดิมหลายคนอาจมองไม่เห็นว่าทำอะไรมาแล้วบ้างนี่คือโอกาสที่ทำให้ทุกคนเกิดความเท่าเทียม การใช้เส้นทางต่างๆเพื่อลดภาระลดการเดินทางนี่คือสิ่งที่ได้ไปแล้ว
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวอีกว่า เมื่อสักครูได้คุยกับรเานที่มาแสดงสินค้าว่าขายหรือไม่ ทราบว่ามาขาย 3วัน ก็ขอให้ขายให้หมด พร้อมแซวว่าวันสุดท้ายก็ลดราคาบ้างถ้าได้กำไรพอแล้ว นอกจากนี้ยังล่าว่าการได้พบนายกรัฐมนตรีของประเทศมาเลเซียเมื่อวานนี้ ก็ได้รับคำชื่นชมว่าประเทศไทยประเทศไทยมีอะไรดีหลายอย่างโดยเฉพาะเรื่องอาหาร
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการเลี้ยงโคในโครงการกองทุนหมู่บ้านว่า เราเคยมีโครงการเลี้ยงวัว ต้องมาทบทวนทั้งหมด และนำมาแก้ไข วัวกองทุนหมู่บ้านชุดนี้ต้องทำให้ดี ได้ไปแล้วไม่ใช่สามวันดีสี่วันไข้ห้าวันตาย วัวกินหญ้าอยู่แล้ว มีคอกให้หน่อยตนว่าเขาก็มีความสุข ยังไงเขาก็เป็นสิ่งมีชีวิตมีบุญคุณกับเรา ขอให้ดูแลเขาให้ดีที่สุดแล้วกัน
นายกรัฐมนตรียังทิ้งท้ายว่าวันนี้ตนมาเพื่อแสดงความยินดี มาติดตามผลงาน รัฐบาลพยายามอย่างยิ่งยวดในการทำให้ประชาชนมีรายได้สูงขึ้นเพราะนี่คือหนึ่งในยุทธศาสตร์ในเรื่องการลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเป็นธรรม ถ้าไม่มียุทธศาสตร์ก็เดินหน้าไปเรื่อยๆ ไม่มีใครทำสำเร็จด้วยคนคนเดียว ต้องรวมกลุ่มกันช่วยกันทำในสิ่งที่ดีงาม จะได้มีผลไปถึงทุกคนไม่ใช่แค่ตัวคนเดียว ต้องเดินหน้าไปด้วยกัน จับมือกันเดินโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังวันนี้ต้องทำให้ได้
สิ่งสำคัญที่สุดคือความรัก ความสามัคคีและปรองดอง อย่าทำให้มีปัญหาระหว่างกัน ประชาชนต้องรักกัน อยู่บนพื้นฐานของความผูกพัน ความรัก ความสามัคคี สายเลือดเดียวกัน เลือดคนไทยที่ไม่เคยยอมแพ้ใคร เราต้องสู้กันต่อไปเพื่อประเทศชาติที่รักของเรา เพื่อความสุขของประชาชนถ่ายทอดสู่ลูกหลาน ถ้าเราไม่ทำวันนี้ใครจะทำอยู่ที่พวกเราจะช่วยกันได้อย่างไร
หลังเปิดงานนายกรัฐมนตรี ได้เยี่ยมชมบูธแสดงสินค้า ชิมอาหารต่างๆ โดยมีกลุ่มกองทุนหมู่บ้านชาวสุราษฎร์ธานีบอกให้ “นายกฯสู้ๆ เป็นกำลังใจให้” หลังจากนั้นนายกได้ยกนิ้วโป้ง(เยี่ยมๆ) ให้กับชาวบ้าน จากนั้น นายกฯทำท่าสัญลักษณ์วัยรุ่นวายทูเค (Y2K ) ส่งให้ชาวบ้านที่มาให้กำลังใจ คาดว่าเป็นนายกรัฐมนตรีจำท่ามาจากการถ่ายรูปกับกลุ่มยุวทูตในงานช่วงเช้าที่นายกไปเป็นประธาน
หลังจากนั้นนายกฯได้เยี่ยมชมบูธต่อ จนมาถึงนิทรรศการโครงการวัวล้านตัว โดยได้ลูบหัววัว และเคาะหัววัวเบาๆ พร้อมสอบถามกับเจ้าหน้าที่ถึงโครงการดังกล่าวและการเลี้ยงวัว ระหว่างนี้มีชาวบ้านมาขอถ่ายรูปกับนายกรัฐมนตรี โดยนายกฯได้ย่อเข่าถ่ายรูปด้วยพร้อมแซวชาวบ้านว่า “พอฉันย่อก็ย่อตามฉัน” เรียกเสียงหัวเราะจากคนที่มาถ่ายรูปด้วย
เป็นที่สังเกตว่าวันนี้นายกรัฐมนตรีอารมณ์ดีตั้งแต่เช้าและมีท่าถ่ายรูปใหม่ๆแนวน่ารัก เช่น ท่าวายทูเค ดอกไม้บาน
โดยก่อนเดินทางกลับ ผู้สื่อข่าวถามนายกรัฐมนตรีว่า ท่าที่ถ่ายรูปกับประชาชนคือท่าอะไร นายกรัฐมนตรีจึงหันมาตะโกนใส่ว่า “วายทูเค” พร้อมทำท่าให้ดูด้วย