ตำรวจปูพรม ทั้งทางบกและทางน้ำค้นหา น้องต่อวัย 8 เดือน ที่หายตัวไปจากบ้านในจังหวัดนครปฐม 8 วันแล้ว แต่ยังไม่พบวี่แววว่าจะเจอตัวน้อง ขณะแม่เด็กระบุว่ามีความหวังว่าลูกจะมีชีวิตอยู่เพียง 50% เพราะผ่านมาหลายวันแล้ว ยืนยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องที่ลูกหาย ด้านตำรวจตั้งปม 2 ประเด็น คนนอกทำ หรือ แม่กับพ่อของเด็กทำเองเตรียมนำเข้าเครื่องจับเท็จ
วันที่ 12 ก.พ. 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมกับกู้ภัยและชาวบ้านได้ช่วยกันรื้อผักตบชวาในคลองท่อ ริมแม่น้ำท่าจีน ซึ่งห่างออกจากบ้านของน้องต่อเด็กชายวัยแปดเดือน ประมาณ 200 เมตร ที่หายออกจากบ้านไปแล้ว 8 วันแต่ยังไม่พบเพื่อทำการค้นหาน้องต่อ เพราะอาจจะเป็นไปได้ว่า เด็กอาจจะถูกอุ้มหรือถูกทำร้ายแล้วนำมาทิ้ง แต่หลังจากที่เจ้าหน้าที่ทำการลอกคลองใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมงก็ไม่พบหลักฐานหรือตัวน้องต่อแต่อย่างใด
โดยก่อนหน้านี้เมื่อช่วง 08.00 น. ของวันนี้ชุดสืบสวนและกู้ภัย พร้อมด้วยฝ่ายปกครอง ระดมกำลังกว่า 60 นาย เข้าตรวจสอบ ซึ่งมี น.ส นิ่ม และ นาย พุด แม่และพ่อของน้องต่อ ร่วมกันเข้าค้นหาน้องต่อภายในป่าหญ้าเนื้อที่กว่า 1 ไร่ ซึ่งอยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุแต่ก็ไม่พบน้อง
จนกระทั่งในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้นำอุปกรณ์พร้อมสารเคมี ในการตรวจหาคราบเลือด เข้าไปตรวจสอบภายในบ้านที่น้องต่อหายตัวไป ซึ่งมีการตรวจสอบตั้งแต่ที่นอนและบริเวณในห้องรวมไปถึง ห้องน้ำและท่อ น้ำต่างๆ ภายในตัวบ้านทั้งหมด และได้เก็บผ้าห่มของน้องต่อไปตรวจสอบ เนื่องจากพบคราบติดที่ผ้าห่ม แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นคราบอะไร โดยแม่เด็กบอกว่าเป็นคราบอ้วกที่น้องต่อเหวอะนมออกมา ส่วนการตรวจคราบตามพื้นห้องนอนและห้องน้ำไม่พบสิ่งผิดปกติ
โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ พิสูจน์หลักฐาน เคยเข้ามาตรวจสอบแล้วครั้งหนึ่งแต่มีรายงานว่าการเข้าตรวจสอบซ้ำในครั้งนี้เนื่องจากมีรายงาน จักรยานที่เป็นคนในบ้านระบุว่า วันเกิดเหตุช่วงประมาณ 05.00 น. ได้ยินเสียงน้องต่อร้องจากนั้นก็เงียบหายไปคาดว่าแม่ของเด็กจะให้นมลูกแต่ไม่ทราบว่าโดยวิธีใดอาจเป็นไปได้ ที่เด็กอาจจะสำลักนมและขาดอากาศใจ เพราะผู้ที่ให้ข้อมูลบอกต่อไปว่ายังเห็นแม่เด็กมานั่งร้องไห้อยู่คนเดียวซึ่งระหว่างนั้นพ่อเด็กก็นอนหลับไม่รู้เรื่อง ก่อนที่จะมาแจ้งในภายหลังว่าลูกได้หายตัวไป และยังมีสิ่งผิดปกติอีกอย่างหนึ่งคือขวดนมจำนวนหลายขวดของน้องต่อได้มีการถูกล้างและทำความสะอาดอย่างเรียบร้อยซึ่งโดยปกติก่อนหน้านี้แม่ของเด็กจะไม่ล้างขวดนมจะเก็บไว้หลายหลายขวดแล้วจะล้างครั้งเดียว จึงตั้งข้อสงสัยว่าแม่และพ่อของเด็กจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการที่น้องต่อหายไปหรือไม่
ทีมข่าวช่อง 8 จึงได้สอบถาม น.ส นิ่ม แม่ของน้องต่อเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว โดยเปิดเผยว่า วันเกิดเหตุน้องต่อร้องไห้จริงในช่วงเช้ามืดซึ่งตนเองก็อยู่ช่วงสะลึมสะลือ และก็ได้ให้นมน้องกินซึ่งตนเองก็ใช้มือจับขวดนมให้น้องกินแต่ไม่ได้ลืมตามาดูว่าน้องกินอย่างไร เหมือนเป็นปกติที่ตนเองทำมาทุกวันเวลาน้องร้อง
ส่วนที่ตนเองได้ล้างขวดนมทั้งหมดเพราะปกติก่อนหน้านี้มีคนตั้งข้อสังเกตว่าจะล้างขวดนม ครั้งเดียวจำนวนหลายๆขวด แม่น้องต่อระบุว่า เพราะแฟนให้ไปล้างและ เห็นว่าตำรวจจะเข้ามาตรวจสอบจึงเก็บที่นอนและทำความสะอาดให้เรียบร้อย และที่มีคนเห็นตัวเองนั่งร้องไห้ คือนั่งร้องไห้หลังจากที่ลูกตนเองหายตัวไปแล้วเป็นเพราะมีชาวบ้านด่าว่าตนเองดูแลลูกไม่ดีจึงทำให้ตนร้องไห้เสียใจ และยังคงยืนยันว่าตนเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการที่ลูกหายตัวไป
ส่วนความหวังที่คาดว่าลูกจะมีชีวิตอยู่หรือไม่นั้นตนเองมั่นใจแค่ 50% ว่าลูกจะมีชีวิตอยู่หรือไม่เพราะเวลาผ่านมาหลายวันแล้ว แต่ตนเองก็อยากให้ลูกยังมีชีวิตอยู่ พร้อมกับอยากบอกถึงคนที่เอาลูกตนเองไปถ้าจะเอามาคืนเอาไปวางไว้หน้าเซเว่นหรือตามชุมชนที่มีคนอยู่จำนวนเยอะ ๆ หากมีคนเจอได้นำเอาลูกมาคืนให้ตนเอง
ส่วนความคืบหน้าคดีมีรายงาน จากตำรวจชุดสืบสวนคลี่คลายคดีว่า อยู่ระหว่างปรึกษากับกองพิสูจน์หลักฐาน เพื่อตั้งคำถามเตรียมที่จะเอาพ่อและแม่ของน้องต่อที่หายตัวไปเข้าเครื่องจับเท็จในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งตำรวจได้วางแนวทางการสืบสวนไว้ 2 ประเด็น คือมีคนนอกมาอุ้มน้องออกไป ส่วนประเด็นที่สองคือแม่และพ่อของเด็กมีส่วนรู้เห็นแต่จะเป็นการอุ้มนำไปให้ใครหรือเพื่อวัตถุประสงค์อย่างอื่นนั้นอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน แต่ตำรวจให้น้ำหนักไปทางประเด็นที่สองมากกว่า เพราะจากการตรวจสอบในพื้นที่เกิดเหตุไม่เคยมีประวัติที่มีการลักพาตัวเด็กแต่อย่างใด
นอกจากนี้ยังมีรายงานอีกว่าในวันจันทร์ที่ 13 กุมภาพันธ์นี้ พลตำรวจเอกสุรเชษฐ หักพาล ได้เรียกชุดคลี่คลายคดีเข้ารายงานความคืบหน้าคดี ที่สโมสรตำรวจ หลังจากกำชับให้ทำคดีนี้เป็นพิเศษเพื่อไม่ให้เป็นเหมือนคดีน้องชมพู่ ที่เกิดเหตุมาก่อนหน้านี้