ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ โพสต์เฟซบุ๊กสะท้อนกรณีตำรวจตำรวจทั้ง 3 ราย ที่มีข่าวพัวพันกับการพนันออนไลน์ ซัดเป็นเรื่องน่าเศร้าของตำรวจที่ผู้ใหญ่มักนิยมชมชอบ "ตำรวจรวยสีเทา" ไม่ทำงานให้ประชาชน
วันที่ 12 ก.พ. 2566 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้โพสต์เฟซบุ๊ก กล่าวถึงพฤติกรรมของตำรวจ 3 นายที่เชื่อมโยงกับการพนันออนไลน์ โดยระบุข้อความว่า
"ตำรวจสีเทา มั่วซั่ว โดดเด่น
.
หลังกระชากหน้ากากคนอย่าง “สารวัตรซัว” ให้คนเห็น มีอาชีพเป็นตำรวจ แต่มีธุรกิจต่างประเทศลงทุนที่เขมร ทั้งคาสิโน บ่อนออนไลน์ และตั้งศูนย์เซิร์ฟเวอร์
.
ในประเทศมีธุรกิจเป็นสิบบริษัท ตลาดสดร่วมทุนกับลูกคนดังสีเทาย่านฝั่งธน ส่วนออฟฟิศใหญ่โตอยู่แถวรามอินทรา
.
ความร่ำรวยขยายงานไม่หยุดยั้งของสารวัตรซัว ล้วนเอาเวลาราชการตำรวจมาทำ
.
หากอ้างว่าทำนอกเวลา ต้องไม่มีเวลาเหลือให้นอน เพราะเกินมนุษย์ปกติที่หากินสุจริตจะทำได้
.
แถมยังมีเวลาบินไปปอยเปต ไปสิงคโปร์ ไปลอนดอนเป็นว่าเล่น นี่ก็เวลาราชการทั้งนั้น
.
นายซัวคงเติบใหญ่ทั้งธุรกิจเทาๆ และอาชีพตำรวจไปพร้อมกัน จนวันหนึ่งได้เป็นนายพลตำรวจที่ไม่ได้ทำงาน ไม่เคยเหยียบไปที่สำนักงานเสียด้วยซ้ำ
.
แล้วคนที่เป็นตำรวจอาชีพจริงๆ คนไหนจะไปสู้ได้?
.
นอกจากการเอาเปรียบใช้ยศตำรวจบังหน้า ได้เงินเดือนจากภาษีประชาชนแล้ว ยังเอาเวลาราชการเบียดบังไปขยายธุรกิจสีเทา ถึงขนาดไปซื้อ “อาบอบนวด” ของนายกำพล วิคตอเรีย ผู้ต้องหาหนีคดีค้ามนุษย์ ที่ชื่อ “โคปา คาบานา” ย่านรัชดา
.
แล้วเปลี่ยนชื่อเป็น “ลาลิซ่า” โดยใช้ลูกน้องเด็กบ้านนอก ลูกชาวนาสุพรรณไปถือหุ้นแทน
.
หากไล่สอบย่อมรู้ว่าเป็น “นอมินี” แม้จะรีบเปลี่ยนชื่อหลังเรื่องดัง
.
นายซัวใช้นอมินีบังชื่อตัวเองหมดในธุรกิจเทาๆ และพยายามให้ทุกคน “WFH” (work from home) ในช่วงนี้ เพื่อเลี่ยงการถูกบุกตรวจค้น
.
คำถามตกผลึกมาว่า “สังคมไทยต่อสู้ระวังกับคนร้ายทั่วไปไม่พอ ยังต้องมาคอยระแวงกับคนที่ใช้เครื่องแบบหากินอีกหรือ?”
.
แม้ไม่ได้ใช้อาวุธปล้น แต่ใช้สมองปล้นเงินในกระเป๋าเยาวชนไทยแทนด้วยการพนันออนไลน์
.
ตำรวจ 200,000 กว่านาย ที่เป็นตำรวจอาชีพจะรู้สึกอย่างไร กับการทำงานที่หลังขดหลังแข็ง ต้องเสี่ยงกับโจรขโมยปกป้องทรัพย์สินของประชาชน
.
ยิ่ง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เสี่ยงกับระเบิดของโจรใต้เข้าไปอีก
.
นี่เป็นระบบ “ความไม่เท่าเทียม เหลื่อมล้ำ” ในสังคมข้าราชการทุกวันนี้
.
ตำรวจบางคนทนไม่ไหว ฝืนใจไม่อยู่ ตัดสินใจก้าวล้ำข้ามเส้นแบ่งไปอยู่ฝั่งสีเทาเสียดีกว่า
.
หรือไม่ก็ยิงตัวตายหนีปัญหาหนี้สิน
.
แต่หากเทามานานแบบนายตำรวจชั้นนายพล อย่าง “นายพล จ” ที่ทำท่าตรวจโรงพัก สร้างภาพเข้มงวด ตรวจความสะอาด แต่เรื่องสกปรกแล้วได้เงินกลับเงียบ
.
จัดระเบียบใหม่พนันออนไลน์ จ่ายเงินใต้โต๊ะ หลังจับทางถูกตั้งนโยบายแบ่งประเภทจ่าย
.
รายเล็ก 50,000 รายกลาง 100,000 รายใหญ่ 200,000 ต่อเดือน จนพนันออนไลน์เฟื่องฟู ตัวเลขจับกุมน้อย ยึดอายัดได้จิ๊บจ้อย
.
ส่วนรายครั้งสร้างเรื่องเองว่า “ช่วงนี้ทางผู้ใหญ่เขาเข้มงวด”
.
ให้ลูกน้องร่างคำสั่งแต่ไม่มีลายเซ็นไว้ขู่ว่าต้องตรวจเว็บ
.
หากอย่างนี้หมายถึงเคลียร์หนักแน่นอน เหมือนน้ำประปาไหลแรง เอาถังใบใหญ่ๆ วางรอไว้ได้เลย
.
ที่ฮือฮาสุดทั้งวงการ เพราะนอกจากนายพล “จ” กินบนอากาศ (พนันออนไลน์) แล้ว ยังตามไปกินในทะเล (น้ำมันเถื่อน) อีกดอก
.
ได้เบิ้ลสองภาค ไม่มีเล็ดลอด
.
ก็เขี้ยวขนาดไปตรวจห้องน้ำในโรงพักโชว์ ในติ๊กต็อกหาดูได้ ตำรวจเขาขำกลิ้ง เก่งเหลือหลายหาจุดขายไปอวดจนได้
.
แต่ทีเรื่องงานเป็นเรื่องเป็นราวไม่ทำ เดินสายตีกินเอาเงินเข้ากระเป๋าอย่างเดียว
.
ส่วนตำรวจรุ่นใหม่ เด็กๆ เลือกทำอาชีพ “พนันออนไลน์” ได้ขับรถซุปเปอร์คาร์ มีเงิน มียศ อย่าง “มาเก๊า 888”
.
เป็นตำรวจ ตม. แค่คนเดียว แต่ถึงขนาดผู้บัญชาการ ตม. ยังออกโรงมาปกป้อง ให้สัมภาษณ์ยียวนว่า “ทำงานโดดเด่น” สวนถามนักข่าวสาวว่า “มีสามีหรือยัง?” จะได้เข้าใจ
.
หากได้สามีรวย มียศจะสบาย ส่วนจะไปเกี่ยวพันกับเรื่องเทาๆ อย่าไปสน
.
แม้จะมาขอโทษขอโพยทีหลัง แต่ย่อมเห็น “วิสัยทัศน์” ครั้งแรกแล้ว รู้ซึ้งถึงเซลล์สมอง
.
แต่ทีกับลูกน้องที่ไม่โดดเด่นเป็นโขยงกว่า 100 คน ที่โดน “บิ๊กโจ๊ก” ฟันเรื่องวีซ่าของจีนเทา ไม่เคยสัมภาษณ์ปกป้องช่วยว่าที่ทำไปเพราะผู้ใหญ่สั่ง เงินก็ได้ตามน้ำเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่โดดเด่นของ ตม. มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว
.
เป็นเรื่องน่าเศร้าของตำรวจ ที่ผู้ใหญ่มักนิยมชมชอบ ชื่นชม “ตำรวจรวยสีเทา” ไม่ทำงานให้ประชาชน ขโมยเวลาราชการ กลับไปทำร้ายสังคม สร้างความร่ำรวยให้ตัวเอง ปลูกฝังค่านิยมผิดๆ เพราะสามารถดูแลผู้ใหญ่ได้
.
แต่กับอีกคนทำงานแทบตาย ใช้เหมือนหมูเหมือนหมา กลับถูกทิ้งกลางทาง
.
หากไม่อย่างนั้น คนอย่างสารวัตรซัวคงไม่ได้เติบโตมีเงินเป็นหมื่นล้านได้หรอกครับ
.
ไม่ต้องรอให้คนไม่มีหัวนอนปลายเท้าอย่างผมมากระทุ้ง จนความโดดเด่นเหม็นเน่าคลุ้งขึ้นมา"