"บิ๊กป้อม" ลงพื้นที่เปิดตัวได้เพียงสัปดาห์ "ชัยภูมิเดือด" ว่าที่ผู้สมัครพปชร. โร่แจ้งความถูกพังป้ายนับสิบ
14 ก.พ. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการเมืองที่ใกล้จะมีการเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งใหม่ขึ้นทั้งในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ และทั่วประเทศ หลังเมื่อวันที่ 6 ก.พ.66 ที่ผ่านมาพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หรือ บิ๊กป้อม รองนายกรัฐมนตรี นำหัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำองค์กรท้องถิ่น ผู้นำชุนชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ทางเดินทางลงพื้นที่ต่อเพื่อไปดูสถานการณ์น้ำในสถานที่จริง บนพื้นที่โครงการก่อสร้างบ่อกักเก็บน้ำเพื่อการเกษตรด้วยเทคโนโลยีวัสดุปูบ่อกักเก็บน้ำด้วยยางพารา ที่บ้านกุดโง้ง ม.4 ต.บุ่งคล้า อ.เมือง จ.ชัยภูมิ เพื่อตรวจติดตามโครงการก่อสร้าง ช่วยแก้ปัญหาภัยแล้งอย่างยั่งยืน ภายใน (สระดอนตูม)
การลงพื้นที่ครั้งนั้นมีการเปิดตัว นางจิตราภรณ์ กล้าแท้ เป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ เขต 1 ทั้งนี้หลังจากผ่านไปได้เพียงสัปดาห์ นางจิตราภรณ์ ได้มอบอำนาจให้นางมธุษร พรประไพ อายุ 46 ปี ไปพบพนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งความ ว่า ว่าเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2566 ผู้มอบอำนาจ ได้ทราบทางสื่อออนไลน์แจ้งว่ามีหนังสือโดยอ้างว่าเป็นหนังสือจากพรรคพลังประชารัฐ ลงนามโดย พลเอกวิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ โดยเนื้อหาในหนังสือขอให้ผู้มอบอำนาจเก็บป้ายโฆษณาหาเสียงที่ประชาสัมพันธ์ไว้ อ้างว่าผู้มอบอำนาจไม่ใช่ผู้แทนในนามของพรรคพลังประชารัฐ
ซึ่งการกระทำดังกล่าวยังไม่ทราบหลักแหล่งที่มาของหนังสือและสอบถามทางพรรค ไม่มีส่วนรู้เห็นจากหนังสือดังกล่าว เกรงว่าจะทำให้ผู้มอบอำนาจ ซึ่งเป็นว่าที่ผู้สมัครพรรค เขต 1 ชัยภูมิ จะได้รับเสียหายเสื่อมเสียต่อชื่อเสียงและทำให้ประชาชนเข้าใจคาดเคลื่อนในเหตุดังกล่าว
รวมทั้งได้มีมือมืดที่มีการเข้ามาแอบพังทำลายป้ายหาเสียงของ นางจิตราภรณ์ กล้าแท้ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 ชัยภูมิ ในนามพรรคพลังประชารัฐ ในขณะนี้ได้รับความเสียหายอีกจำนวนมากในเขตพื้นที่ ต.หนองนาแซง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ อีกด้วย ซึ่งนางจิตราภรณ์ กล่าวว่า ตนเองก็ได้เดินทางมาแจ้งความลงบันทึกประจำวันที่ ต่อ พ.ต.ท.จิตติพัฒน์ คำรังศรี พนักงานสอบสวนสภ.เมืองชัยภูมิ ไว้เป็นหลักฐานในครั้งนี้ด้วย ซึ่งอยากให้การเมืองใน จ.ชัยภูมิ ใช้นโยบายมาแข่งขันแบบสร้างสรรค์กันดีกว่า ไม่อยากให้เป็นแบบนี้ ซึ่งก็อยากขอความเป็นธรรมให้ตนเองด้วย และการมาแจ้งความครั้งนี้เองก็ได้ติดต่อไปที่พรรคพลังประชารัฐ ที่ก็แจ้งให้มาแจ้งความไว้ก่อนเพื่อให้ทางพรรครวบรวมเอกสารตรวจสอบดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายเพิ่มเติมต่อไปด้วย