เชียงใหม่ ขึ้นแท่นอันดับ 2 ของโลกเมืองที่คุณภาพอากาศแย่ที่สุด พ่อเมืองเชียงใหม่จ่าย 1 หมื่นบาท สำหรับผู้ชี้เบาะแสแจ้งคนเผาป่า
เช้าวันนี้ (15ก.พ.) สภาพอากาศหมอกควันไฟป่า ลอยข้ามแดน ถูกพัดพา เข้ามาในพื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่ ซึ่งมีสภาพเป็นแอ่งกระทะ จนทัศนวิสัยการมองเห็นไม่ชัดเจน แสบตาแสบจมูก ประชาชนที่อยู่ในตัวเมืองเชียงใหม่ ไม่ สามารถมองเห็นดอยสุเทพได้
จากการลงพื้นที่ของผู้สื่อข่าวจังหวัดเชียงใหม่ที่บริเวณสี่แยกหนองประทีป ถนนซุปเปอร์ไฮเวย์เชียงใหม่-ลำปาง ตำบลหนองป่าครั่ง อำเภอเมืองเชียงใหม่ พบว่ามีปริมาณ PM 2.5 ควบคุมในพื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่เป็นจำนวนมากโดยผู้สื่อข่าวได้เปรียบเทียบภาพจาก Google Street View บริเวณสี่แยกดังกล่าวหันหน้าขึ้นดอยสุเทพโดยภาพจาก Google Street View ถ่ายตอนที่ไม่มีฝุ่น PM 2.5 จะเห็นดอยสุเทพได้อย่างชัดเจน แต่ในวันนี้ฝุ่น PM 2.5 ได้บดบังดอยสุเทพ ทำให้ชาวบ้านหลายคนที่ใช้ชีวิตกลางแจ้งเริ่มแสบตาแสบจมูกแสบคอ เนื่องจากค่าฝุ่น PM 2.5 เกินมาตรฐานมาติดต่อกันนานนับสัปดาห์
ส่วนค่ามลพิษ หรือ PM2.5 ของจังหวัดเชียงใหม่ รายงานจากศูนย์ข้อมูลการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สูงสุดอยู่ที่ จุดตรวจวัดโรงพยาบาลฮอด อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ วัดค่าได้ 504 ไมโครกรัมต่อลูกบาสก์เมตร ส่วนAQI หรือดัชนีคุณภาพอากาศสูงถึง 489 ด้านเว็บไซต์ Air Visual จัดอันดับเมืองสำคัญของโลก ข้อมูลการอัปเดตเมื่อเวลา 09.00 น. ของวันนี้ (15ก.พ.)เชียงใหม่มีคุณภาพอากาศแย่เป็นอันดับ 2 ของโลก
ขณะในหลายพื้นที่ในจังหวัดเชียงใหม่ยังมีการลักลอบเผาป่ากันอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับ พื้นที่อุทยานแห่งชาติออบหลวง อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ ยังคงมีไฟป่ามากถึง และค่ามลพิษยังอยู่ในระดับสูง องค์ปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ต้องออกพ่นละอองน้ำเพิ่มความชื้น และในวันนี้ยังต้องมีการขออนุมัติผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ขอเฮลิคอปเตอร์ KA32 ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย 2 ลำ และเฮลิคอปเตอร์ mi 17 ของกองทัพบก ขึ้นบินสนับสนุนโปรยน้ำดับไฟอย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกันทางนายนิรัตน์พงษ์ สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ได้ประกาศผ่านสื่อมวลชนหากประชาชนพบเห็นการจุดไฟเผาป่าสามารถแจ้งให้กับทางเจ้าหน้าที่ของรัฐได้โดยจะมีรางวัลนำจับรายละ 10000 บาท พร้อมกับได้ออกประกาศ ห้ามเผาในที่โล่งทุกชนิด ตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ ถึง 30 เมษายน 2566