รุนแรงเทียบเท่าระเบิดนิวเคลียร์! แผ่นดินไหวตุรเคีย-ซีเรีย ยอดเสียชีวิตพุ่ง 41,000 คน สร้างความเสียหายนับ 1.3 หมื่นล้าน
วันที่ 15 ก.พ.66 ความคืบหน้ากรณีแผ่นดินไหวที่ประเทศตุรเคียและซีเรีย ขนาดความรุนแรง 7.8 แมกนิจูด ล่าสุด ผู้นำตุรเคียระบุว่าของเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ที่เกิดขึ้นเมื่อวันจันทร์ของสัปดาห์ที่แล้วมีความรุนแรงไม่ต่างจากระเบิดนิวเคลียร์นับร้อยลูก หลังจากจำนวนผู้เสียชีวิตที่รวมถึงพื้นที่ประสบภัยในซีเรียได้เพิ่มขึ้นเกิน 40,000 คนแล้ว
ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ในส่วนของประเทศตุรเคีย ขณะนี้มีจำนวนอยู่ที่ 35,418 คน และ ซีเรียมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5,800 คน ทำให้ขณะนี้จำนวนผู้เสียชีวิตรวมทั้งสองประเทศเพิ่มขึ้นมากกว่า 41,000 คนแล้ว
โดยระหว่างการแถลงข่าวในกรุงอังการา เมืองหลวงของตุรกี ประธานาธิบดี เรย์ซิป เทย์ยิป เออร์โดอาน ระบุว่า แผ่นดินไหวใหญ่ทั้ง 2 ครั้งเมื่อวันจันทร์ สร้างความเสียหายอย่างมหาศาลเป็นเพราะเกิดขึ้นใต้พื้นดินที่ค่อนข้างตื้น
พร้อมเปรียบเทียบ ความรุนแรงของภัยพิบัติดังกล่าว กับพลังการทำลายล้างของระเบิดนิวเคลียร์นับร้อยลูก
ภัยพิบัติครั้งนี้ เกิดขึ้นในพื้นที่ที่กินวงกว้างกว่าดินแดนของหลายประเทศ โดยเกิดขึ้นใกล้ๆกับผิวโลก ลึกลงไป 7 กิโลเมตร ซึ่งเป็นระดับที่ตื้นกว่า เหตุแผ่นดินไหวครั้งอื่น ๆ ในประวัติศาสตร์ ทำให้ความรุนแรงเพิ่มขึ้น โดยมีพลังงานเทียบเท่ากับระเบิดนิวเคลียร์อานุภาพสูงหลายร้อยลูก
แผ่นดินไหวครั้งใหญ่อื่น ๆ เกิดขึ้นในทะเล แล้วจึงส่งผลกระทบต่อพื้นที่บนบก แต่แผ่นดินไหวที่คาห์รามานมารัส เกิดขึ้นโดยตรงใต้ผืนดินของพื้นที่อยู่อาศัยจำนวนมาก
นอกจากนี้ ประธานาธิบดี เออร์โดอาน ยังระบุว่าผลกระทบจากแผ่นดินไหวทำให้อาคารบ้านเรือนหลายแสนหลังถูกทำลาย ซึ่งส่วนใหญ่สร้างก่อน ปี 1999 ที่ยังไม่มีกฏเกณฑ์ที่เคร่งครัดเกี่ยวกับการก่อสร้าง แต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นเวลานี้เป็นสิ่งที่ย้ำเตือนถึงความจำเป็นในการบังคับใช้หลักเกณฑ์มาตราฐานด้านการก่อสร้าง
ขณะที่ นาย อันโตนิโอ กูร์เตียเรซ เลขาธิการสหประชาชาติประกาศเรียกร้องนานาชาติให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ซีเรีย ที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวเช่นกันเป็นจำนวนเงิน 397 ล้านดอลลาร์ หรือ 13,000 ล้านบาท
โดย กูเตียเรซ ระบุว่าขณะนี้สหประชาชาติและพันธมิตรด้านมนุษยธรรมกำลังทำงานประสานกัน เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยชาวซีเรียจำนวนเกือบ 5 ล้านคน ด้วยการจัดหาปัจจัยที่จำเป็นด้านการบรรเทาทุกข์ ทั้งสถานที่รองรับผู้อพยพ ระบบสาธารณสุข อาหาร และ การดูแลความปลอดภัย