"กองทัพอากาศ" จัดเครื่องบิน Airbus 340-500 นำส่งสิ่งของพระราชทานไปยังสาธารณรัฐตุรกี ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตพุ่ง 4.1 หมื่นราย
วันที่ 16 ก.พ.66 พลอากาศเอกอลงกรณ์ วัณณรถ ผู้บัญชาการทหารอากาศ พร้อมด้วย นาวาอากาศเอกหญิงพรรณประภา วัณณรถ นายกสมาคมแม่บ้านทหารอากาศ และ นายนฤชัย นินนาท รองอธิบดีกรมการกงสุล กระทรวงต่างประเทศ รับฟังการบรรยายสรุปแผนการบิน พร้อมให้กำลังใจนักบินและเจ้าหน้าที่ของกองทัพอากาศที่ปฏิบัติภารกิจบินนำส่งสิ่งของพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีไปยังสาธารณรัฐตุรกี เพื่อนำไปช่วยเหลือและบรรเทาทุกข์แก่ประชาชนชาวตุรกีที่ประสบเหตุภัยพิบัติแผ่นดินไหว เมื่อวันพุธที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 21.30 น. ณ ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง
ทั้งนี้ กองทัพอากาศ จัดเที่ยวบินพิเศษ เครื่องบินลำเลียงแบบที่ 19 (Airbus 340-500) ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง ในคืนวันพุธที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 23.20 น. ไปยังสนามบินอังการา สาธารณรัฐตุรกี ใช้เวลาบิน 10 ชั่วโมง 15 นาที โดยปฏิบัติภารกิจบินนำส่งสิ่งของพระราชทาน ได้แก่ เครื่องปั่นไฟขนาดเล็กซึ่งมีความจำเป็นในสถานการณ์ปัจจุบัน ถุงนอนกันหนาวที่กันความเย็นได้ถึงอุณหภูมิติดลบ 24 องศาเซลเซียส เต็นท์นอนขนาดใหญ่ สำหรับ 5-6 คน ผ้านวมกันหนาว อาหารแห้ง นม และน้ำดื่ม
โดยในเที่ยวบินขากลับ จะรับคนไทยที่มีความประสงค์จะเดินทางกลับประเทศ ซึ่งในเบื้องต้นได้รับแจ้งจากกระทรวงการต่างประเทศว่ามีจำนวน 38 คน และลำเลียงร่างผู้เสียชีวิต จำนวน 1 ร่าง โดยมีกำหนดออกเดินทางจากสนามบินอังการา สาธารณรัฐตุรกี ในวันพฤหัสบดีที่ 16 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 09.00 น. (เวลาท้องถิ่น) และเดินทางถึง ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง ในเวลา 21.10 น. (เวลาประเทศไทย)
ทั้งนี้ กองทัพอากาศจัดชุดแพทย์จากกรมแพทย์ทหารอากาศ และสถาบันเวชศาสตร์การบินกองทัพอากาศ ร่วมเดินทางไปกับเที่ยวบินนี้ เพื่อดำเนินการตรวจสุขภาพขั้นต้นและเฝ้าระวังสุขภาพระหว่างการเดินทางให้แก่คนไทยที่เดินทางมากับเที่ยวบินดังกล่าว พร้อมทั้งจัดหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ร่วมรักษาความปลอดภัยในการปฏิบัติภารกิจด้วย
สำหรับเครื่องบินลำเลียงแบบที่ 19 (Airbus 340-500) เป็นเครื่องบินที่สามารถบินเดินทางระยะไกล สามารถบรรทุกบุคคล อุปกรณ์ และสัมภาระได้จำนวนมาก สามารถแยกพื้นที่ (Zoning) ให้ผู้ประสบภัยและผู้เสียชีวิต รวมทั้งผู้ติดเชื้อโควิด-19 ร่วมเดินทางได้พร้อมกัน อีกทั้งยังง่ายต่อการส่งแผนการบินข้ามเส้นน่านฟ้าหลายประเทศ เนื่องจากมีการจดทะเบียนในรูปแบบอากาศยานพลเรือน