วันที่ 16 ก.พ.66 ภายหลังการอภิปรายของนางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.พรรคก้าวไกล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ลุกขึ้นชี้แจง โดยเริ่มจากคดีตู้ห่าวว่าพฤติกรรมเหล่านี้เกิดมานานพอสมควรก่อนปี 2557 ตัวตู้ห่าวเข้ามาตั้งแต่ปี 2554 ก่อนที่ตนเองจะเข้ามา เมื่อตนเองทราบก็สั่งการให้มีการสืบสวนสอบสวน พร้อมยืนยันว่ารัฐบาลนี้ไม่มีการขายบ้านแถมสัญชาติแน่นอน หากตรวจสอบดี ๆ ก็จะทราบว่าภรรยาตู้ห่าวก็เกี่ยวข้องกับอดีตรัฐมนตรีของบางพรรค ซึ่งทันทีที่ทราบเรื่องตนเองก็สั่งการให้ตำรวจดำเนินการโดยทันที ตนเองทำถูกต้องแต่อาจไม่ถูกใจไม่ทันใจทุกคน ทุกอย่างอยู่ในขั้นทางกฎหมาย
สำหรับการออกหมายเรียกนายอุปกิต ปาจรียางกูร สมาชิกวุฒิสภา หลังถูกโยงว่าเกี่ยวข้องพ่อค้าอาวุธ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ได้สืบสวนสอบสวน จับกุมผู้กระทำผิดและขยายผลได้หลายราย กรณีอภิปรายว่ามี ส.ว. เข้าไปเกี่ยวข้อง ตำรวจก็ได้ดำเนินการตามกฎหมายแล้ว ส่วนการเพิกถอนหมายจับเป็นดุลพินิจของตุลาการ เรื่องนี้ตนเองไม่ขอก้าวก่าย ยืนยันไม่ได้ช่วยเหลือใคร ที่ตนเองพูดแบบนี้เพราะไม่ใช่การปฏิบัติหน้าที่ของฝ่ายบริหาร เป็นหน้าที่กระบวนการยุติธรรม ไม่มีใครเอื้อประโยชน์หรือช่วยเหลือได้เพราะเป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย
นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงกรณีผับจินหลิง และธุรกิจจีนสีเทาว่าพนักงานสอบสวนได้ขยายผลติดตามจับกุมผู้กระทำผิด ส่วนกรณีที่ระบุว่ามีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องก็มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนมีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน รายใดมีความผิดอาญาด้วยก็ดำเนินคดีไปตามกฎหมายส่วนที่ระบุว่าไปคนทำงานนั้น เป็นเรื่องของการแต่งตั้งโยกย้ายภายใต้อำนาจของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติที่พิจารณาตามหลักเกณฑ์
ส่วนกรณีหยู ชิน ฉี ตั้งสมาคมปลอมเพื่อทำวีซ่านำทุนจีนสีเทาเข้าประเทศ โดยมีเจ้าหน้าที่ สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองหรือ ตม. ช่วยเหลือเรื่องนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้สอบสวนแล้ว หากพบเจ้าหน้าที่ร่วมกระทำผิดก็ดำเนินการทางวินัยและอาญาไม่มียกเว้น พร้อมยืนยันว่าตนไม่เกี่ยวข้องอย่างเด็ดขาด ทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน
นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงกรณี ถูกอภิปรายเรื่องการทุจริตคอร์รัปชัน ว่าอดีตรัฐมนตรีหลายคนก็มีปัญหาเรื่องการคอร์รัปชัน หลายคนติดคุก ไปต่างประเทศก็มี แต่รัฐบาลของตนที่เข้ามาตั้งแต่ปี 2567 ยังไม่มีรัฐมนตรีคนไหนติดคุกสักรายนี่คือข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น
ส่วนเรื่อง กอ.รมน. ที่นางอมรัตน์อภิปราย ตนไม่เห็นจะมีปัญหาอะไรกับใคร คนๆ เขาก็ไม่เห็นมีปัญหา มีแต่นางอมรัตน์ที่มีปัญหา และเท่าที่ตนสังเกตก็มีปัญหากับกฎหมายทุกฉบับ
ก่อนจะชี้แจงต่อว่า กอ.รมน. เป็นหน่วยงานที่จัดตั้งขึ้นมาภายใต้กฎหมายและมีนายกรัฐมนตรีเป็น ผอ.รมน. ก่อนหน้านั้น นายกฯ ทุกคนก็เป็น ผอ.รมน. ก่อนหน้านี้ตนก็ปฏิบัติการภายใต้นายกฯ ก็ไม่เห็นนายกจะมีปัญหาอะไร
ส่วนเรื่องการนิรโทษกรรม เมื่อถามตนเอง ตนเองก็บอกว่าไม่เห็นด้วย ก็เป็นเรื่องของสภา ก่อนย้ำว่านางอมรัตน์มีปัญหากับกฎหมายทุกฉบับ ปลุกปั่นให้เด็ก ๆ อายุ 14 ออกมาได้อย่างไร แล้วก็มาแอบอยู่ข้างหลังโดยไม่โดนคดีอะไรทั้งสิ้น ถึงโดนก็ยังมีสิทธิ์คุ้มครอง เมื่อพูดมาตนเองก็ต้องพูดกลับไปอย่าโกรธกัน
ส่วนเรื่องสถานการณ์พรรคใต้ ต้องพูดอย่างระมัดระวัง เพราะเกี่ยวพันกับหลายประเทศ จำเป็นต้องมีกลไกเข้าไปแก้ปัญหาเพิ่มเติม เมื่อยุติปัญหาได้ก็ถอนกำลังกลับ ตนเองระมัดระวังอย่างที่สุดในเรื่องนี้ เพราะมีประเด็นเรื่องประวัติศาสตร์ ศาสนา และชาติพันธุ์ด้วย
ส่วนเรื่องยาเสพติดที่บอกว่าตนไม่รับผิดชอบขอให้กลับไปดูว่าทำงานอะไรมาบ้าง หากอ้างว่ามีคนร่วมมือและได้ผลประโยชน์ก็แจ้งมา จะสอบสวนดำเนินคดีลงโทษกันไปตามกฎหมาย รัฐบาลพยายามจะแก้ ต้องมีวิธีการใหม่ ๆ มาสู้ ไม่ใช่ฆ่าคนทิ้งไปเฉย ๆ 2,000 -3,000 คน ปัญหายาเสพติดมีความซับซ้อนส่งผลต่อความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคมของประเทศ ซึ่งได้กำหนดให้เป็นวาระแห่งชาติ หากยังมีคนชั่วอยู่ก็ยังมีคดีแบบนี้จึงควรทำตามกฎหมายให้ดีที่สุด คนเลวก็จะถูกกำจัดไปตามกฎหมาย
นายกรัฐมนตรียัง ระบุว่า ต้องใช้กฎหมายให้ถูกต้อง พร้อมขอบคุณทุกคนที่ทำให้บ้านเมืองมีความรัก ความสามัคคี ไม่แตกแยก เพราะเราคือประเทศไทย ถ้าเราแบ่งกันแบบนี้วันหน้าจะเดินไปไม่ได้ ตนเองไปต่างประเทศไม่เห็นเขารังเกียจตนสักคน มีแต่การชื่นชม โดยเฉพาะการแก้ปัญหาโควิด-19 นี่คือสิ่งดี ๆ ที่เกิดขึ้นแต่ท่านมองไม่เห็น เห็นแต่สิ่งไม่ดี บางอย่างก็ไม่เข้าใจ ไม่ร่วมมือ ไม่เคารพกฎหมายกฎหมาย หากวันหนึ่งท่านมีอำนาจขึ้นมา จะไม่มีกฎหมายเลยหรือไม่ ประชาธิปไตยที่ถูกต้อง ต้องมีสิทธิ เสรีภาพ มีหน้าที่โดยไม่ละเมิดสิทธิคนอื่น เด็กหลายคนถูกบิดเบือนไปขอให้รับผิดชอบด้วย
ทั้งนี้ในช่วงที่นายกรัฐมนตรีชี้แจง มีการขึ้นสไลด์ ที่ข้อความระบุว่า "รัฐบาลนี้ไม่มีขายบ้านแถมสัญชาติ พรรคเพื่อไทยเรื่องคอร์รัปชัน ยังจะกล้าพูดเหรอ? รัฐมนตรีหลายคนก็มีปัญหาเรื่องคอร์รัปชัน มีรัฐมนตรีติดคุกตั้งหลายคนบางคนไปต่างประเทศ" และ "ตั้งแต่ปี 57 ไม่มีรัฐมนตรีติดคุกสักราย"