"ลุงแจ้" ยังงง! "น้องต่อ" เป็นลูก ยอมรับมีสัมพันธ์แบบไม่ป้องกัน 2 ครั้ง วอนสังคมโฟกัสเรื่องตามหาเด็กหาย ลั่นไม่คิดขโมยเด็กมาเลี้ยง ขนาดตัวเองยังเอาตัวไม่รอด เชื่อ "พุด-นิ่ม" รู้ดีว่าเด็กหายไปไหน

วันที่ 18 ก.พ.66 จากกรณีการหายตัวไปของน้องต่อเด็กชายวัย 8 เดือน 14 วันแล้ว ยังไม่พบ ความคืบหน้าหลังจากวานนี้ (17 ก.พ.66) ผลการตรวจดีเอ็นเอบุคคลต้องสงสัย พบว่า น้องต่อมีดีเอ็นเอที่ไม่ตรงกับนายพุด หรือพ่อเด็ก แต่ตรงกับชายคนสนิทของนางสาวนิ่ม นั่นก็คือลุงแจ้

วันนี้ทีมข่าวติดต่อ ลุงแจ้ ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของพ่อนางสาวนิ่ม และเคยมีประวัติสัมพันธ์ลึกซึ้งกับนิ่ม แม่น้องต่อ

ลุงแจ้ บอกว่า ตกใจกับการที่ถูกระบุว่า เป็นพ่อเด็ก ยอมรับมีสัมพันธ์กับนิ่มแบบหลั่งข้างนอก แต่คงพลาด ซึ่งเรื่องนี้ พุดน่าจะรู้มาตลอด เพราะพุดก็เคยสงสัยและนิ่มก็บอก
เรื่องความสัมพันธ์ตนเองกับนิ่ม

ตอนนี้อยากเจอตัวเด็ก หากตนเองเป็นพ่อจริงก็ค่อยมาคุยกัน แต่ขอให้เจอตัวเด็กก่อน และไม่รู้ว่าน้องต่อหายไปไหน นิ่มก็ไม่เคยปริปากพูด และการหายตัวไปไม่เกี่ยวกับตนเองแน่นอน เพราะวันที่น้องต่อหายตัวไป ตนเองอยู่ที่วัด มีกล้องวงจรปิดเห็นภาพ และเวลาที่ระบุชัดเจน

ตอนนี้อยากขอให้นิ่มและพุดออกมาบอกได้แล้วว่าน้องต่ออยู่ที่ไหน เพราะทุกคนตามหาเด็ก และเขาสองคนรู้ดีที่สุด

ส่วนกรณีการเข้าเครื่องจับเท็จ ตำรวจไม่ได้นำไปเข้าเครื่องจับเท็จเพราะตนเองพูดความจริงหมดแล้ว และตำรวจก็มาตรวจค้นบ้านทุกซอกมุม รวมทั้งบ้านญาติที่ต่างจังหวัดด้วย แต่ก็ไม่เจออะไร

เรื่องที่บอกว่าตนเองจะขโมยน้องต่อไปเพราะเป็นลูกแล้วเอามาเลี้ยงเอง ก็ตัดทิ้งไป แค่ทุกวันนี้ ตนเองยังไม่มีจะกินต้องอาศัยวัด ลูกที่มีก็ลำบากหาเช้ากินค่ำ แล้วจะเอาน้องต่อมาเลี้ยงทำไม เพียงแต่เคยช่วยเหลือนิ่ม เพราะสนิทกับพ่อ และก็มีเพศสัมพันธ์กันจริง

"แต่ขอร้องสังคมและตำรวจอย่ามาตามประเด็นตนเองเป็นพ่อน้องต่อ ขอให้ไปตามหาตัวน้องต่อก่อนไม่รู้จะเป็นอย่างไรบ้าง"

ส่วนประวัติของนิ่ม พบว่า เคยทำงานที่ร้านอาหาร และพุดก็รับรู้มาก่อน ทุก ๆ อย่างที่นิ่มทำ นายพุดรู้มาตลอดแม้กระทั่งเรื่องควาามสัมพันธ์กับชายอื่น