"ชูวิทย์" ซัด "ตม." ทำจีนเทาพาเหรดกันเข้าไทย แปลงวีซ่าตามใจชอบ แนะตม.ขึ้นกับกระทรวงมหาดไทย ลั่น "บิ๊กโจ๊ก" ต้องตั้งข้อหา 112 "หยู ซินฉี"ด้วย

จากกรณีนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.พรรคก้าวไกล ออกมาแฉกรณีสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ยุ่งเกี่ยวกับขบวนการฟอกเงิน ว่าข้อมูล "จีนเทาเข้าสภา" โดยเปิดทุนจีนสีเทาตัวใหม่ ฟอกเงินหากินในประเทศไทย สร้างความเสียหายให้กับประเทศเป็นอย่างมาก พร้อมทั้งแฉทุนจีนสีเทาอีกรายคือ "หยู ซินฉี" ที่มีทั้งการแอบอ้างและอวดอ้างความใกล้ชิดสถาบันที่เทิดทูนของคนไทย ไปใช้ในการหลอกลวงคนจีนเข้ามาในประเทศไทย จัดตั้งสมาคมเก๊ อ้างไปถึงความสัมพันธ์กับเบื้องสูง รุนแรงถึงกระทั่งอ้างว่าได้ตำแหน่ง "สมาชิกราชวงศ์กิตติมศักดิ์" เพื่อใช้หาผลประโยชน์

ล่าสุด (18 ก.พ.66) นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้ออกมาโพสต์ข้อความเพิ่มเติมถึงเรื่องนี้โดยระบุว่า "ตม. โดดเด่น จีนเทา แปลงวีซ่า
ข้อมูลชุด “หยู ซินฉี” ที่เก็บไว้ชุดสุดท้าย ถูกส่งต่อให้ใช้อภิปรายในสภา ได้ผลตามคาดการณ์ไว้ เพราะ “ดาวสภา” ส.ส. โรม แสดงการปกป้องสถาบันจากการแอบอ้างของจีนเทา ฉายา “ดร.ฉี” ได้ดีเยี่ยม"

"ทันทีที่ผมพูดเปรยช่วงก่อนหน้านี้ มันขนสมาคมหนี ส่งคนไปดูอยู่เสนา ป้ายหายทันที ผมแกะรอยจึงพบว่าไปอยู่ที่หมูบ้านที่ส่งให้ตำรวจไปจับ โดนไป 3 ข้อหา พรบ.คอม, เรี่ยไร และตั้งสมาคมเถื่อน ไอ้ฉี เป็นจีนเทาอีกจำพวก ที่สร้างเรื่องราวของตัวเองว่าเป็นผู้สร้างสัมพันธ์จีนไทย เก่งอย่างโน้นอย่างนี้ บรรยายสรรพคุณในเว็บไซต์ภาษาจีน"

"ข้อหาที่ 4 บอกได้เลยว่า บิ๊กโจ๊กต้องตั้ง “ม.112” อันนี้ชัดเจนกว่าไปตั้งให้เด็กนักศึกษาเพราะเอาตัวเองไปใกล้ชิด และเขียนไว้ว่าได้มอบของขวัญให้ผู้ที่คนไทยรักเทิดทูน ทั้งที่ไม่เป็นความจริง เหตุเกิดที่งาน “เมาริดกลาง” กรุงเทพฯ ต่างหาก"

 

"ไอ้ฉี ใช้ “วีซ่าท่องเที่ยว” แล้วมาแปลงเป็น “วีซ่าเกษียณ” ที่ชลบุรี ทั้งๆ ที่ตัวอยู่กรุงเทพแท้ๆ เหมือนกับที่ “จีนเทา” รู้ว่าต้องไปทำวีซ่า นักศึกษา อาสาสมัคร แถวอีสาน ส่วนวีซ่าเกษียณทำแถวภาคกลาง ชลบุรี ฉะเชิงเทรา"

 

 

"บรรดา “จีนเทา” รู้ได้อย่างไร? ก็มาจากการฮั้วกันของ เอเย่นต์ กับ ตม. เพราะค่าหัวในการทำมีการจัดสรรทั่วถึงรายหนึ่ง ราคา 200,000 บาท ในราคานี้รวมถึงการไม่ต้องไปพบ ตม. ด้วยตัวเอง และเงินขั้นต่ำที่ระบุไว้ว่าต้องมีหากจะมาทำวีซ่าประเภทเกษียณอายุ แสดงในบัญชี 800,000 บาท ก็โกหกทั้งเพ เพราะเป็นการบริการของเอเย่นต์ เอาเงิน 800,000 บาท เข้าบัญชีไว้ในวันแสดงให้ ตม. ดู เสร็จแล้วถอนออกจากบัญชีทันที แค่ให้เห็นชื่อผู้ขอวีซ่ากับสมุดบัญชีมีเงิน 800,000 บาท ไม่ได้ดูเลยว่าฝากมานานหรือยัง"


"เรื่องบานปลายมาถึงขนาดนี้ ทั้ง ตม. อีสานที่ผมเคยแฉไปช่วงตู้ห่าว ฉาวโฉ่มาถึง “ไอ้ฉี” แอบอ้างเอาสถาบันมาหากินกับคนจีน ทุกคนล้วนผ่านกระบวนการ “โดดเด่น” ของ ตม. ทั้งสิ้น ทำให้จีนเทาพาเหรดกันเข้าเมืองไทย ด้วยผลประโยชน์ของ ตม. แต่เสียหายกับประเทศแปลงวีซ่าได้ตามใจชอบ อยู่กรุงเทพไปทำวีซ่านักเรียนที่ สกลนคร ขอนแก่น ทำท่าเอาขนมให้เด็กกิน ก็ได้วีซ่าอาสาสมัคร"

 

"ทำมาหากินแอบอ้างสถาบันก็ขอวีซ่าเกษียณ เงินไม่มีจริง แค่จ่าย 200,000 ก็เรียบร้อยโรงเรียนจีนเทา ประเทศไหนเขาทำแบบนี้กันบ้าง? และไม่เคยพบเห็นประเทศอื่นว่า ตม. ไปขึ้นกับตำรวจเพราะเป็นงานความมั่นคง ตำรวจงานมากอยู่แล้ว โลกเปลี่ยนไป แต่ก่อน หลายอย่างขึ้นอยู่กับตำรวจจนงานท่วมหัว แนะนำว่า ตม. ต้องไปขึ้นกับกระทรวงมหาดไทย เพราะหากปล่อยแบบนี้ไป ได้ จีนเทา อินเดียเทา รัสเซียเทา สารพัดเทาเข้ามาประเทศไทย"

 

"ตม. ไทย เปิดประตูอ้าแขนรับสารพัดต่างชาติเทา แต่บ้านเมืองจะมีอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับต่างชาติยังไงไม่สน เพราะปล่อยเข้าแล้วเป็นอันหมดเรื่อง แถมต่อให้อีกต่างหากด้วยวิธีการพิสดารในราคา 200,000 บาท แบ่งสรรปันส่วนกันลงตัวตลอด จนต่างชาติเทาๆ ทั้งหลายแผลงฤทธิ์อย่างที่ผมเอามาแฉ รัฐบาลช่วยยกเครื่อง ตม. ออกจากตำรวจทีเถอะ เพราะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอยู่แล้ว ทุกวันนี้ รายได้ ตม. โดดเด่นเสียเหลือเกิน"