"รังสิมันต์ โรม" เปิดหลักฐานเพิ่ม ชี้ ส.ว.ทรงเอ แสดงทรัพย์สินเป็นเท็จ ปมขายโรงแรม 8.15 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เตรียมยื่น ป.ป.ช.สอบสัปดาห์นี้ จี้ "ผบ.ตร." อายัดที่ทำการพรรค "รทสช." ลั่น ไม่กังวลปมถูกฟ้อง แค่ลูกไม้หวังให้กลัว

นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล แถลงข่าวต้องสงสัยถึงความไม่ชอบมาพากลในการขายโรงแรมอัลลัวร์ รีสอร์ทซึ่งตั้งอยู่จังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา  ระหว่างนายอุปกิต ปาจารียางกูร สมาชิกวุฒิสภา และ นายชาคริส  เนื่องจาก "ส.ว.อ." แจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช.อ้างว่า  ได้ทำสัญญาซื้อขายกิจการโรงแรม กับนายชาคริส เมื่อวันที่ 9 พ.ค.2562 ในราคา 8.15 ล้านดอลลาร์สหรัฐ  แต่ปรากฏว่า เดือน มิ.ย.2563 นายชาคริส ยังถือหุ้นในอัลลัวร์รีสอร์ทเท่าเดิม คือ 1,500 หุ้น ประกอบกับยังมีคำให้การของนายชาคริส ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ยอมรับเคยตกลงซื้อกิจการโรงแรมอัลลัวร์รีสอร์ทจริง แต่ไม่ได้มีการทำสัญญาซื้อขายจริงเพราะตนเงินไม่พอ และนายชาคริต ยังให้การว่า "ส.ว.อ." ขายกิจการให้กับบุคคลอื่นไปแล้ว ในราคาเพียง 300 ล้านบาท

นายรังสิมันต์ จึงตั้งคำถาม ว่า หนังสือสัญญาซื้อขายระหว่าง "ส.ว.อ." กับนายชาคริส เป็นเอกสารเท็จใช่หรือไม่ และรายได้ที่เข้าบัญชีกัมพูชาของ"ส.ว.อ." กว่า 8.15 ล้านดอลลาร์ มาจากไหน เป็นเงินจากใคร และได้มาจากเรื่องอะไร ที่สำคัญการกระทำเช่นนี้ ถือเป็นการจงใจยื่นแสดงรายการบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ ป.ป.ช.ทราบหรือไม่ ซึ่งหากพบว่าผิดจริง ป.ป.ช. ต้องเสนอเรื่องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อวินิจฉัย "ส.ว.อ." จะต้องพ้นจากตำแหน่ง ส.ว. ถูกเพิกถอนสิทธิรับสมัครเลือกตั้งตลอดไป และอาจถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งสูงสุด 10 ปี โดยภายในสัปดาห์นี้ ตนจะยื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช. ต่อไป

นายรังสิมันต์ ยังขอเรียกร้องต่อเรื่องนี้ใน 3 ข้อ

1. วันที่ 28 กุมภาพันธ์นี้ จะเป็นวันปิดสมัยประชุมสภาฯ ทำให้เอกสิทธิ์และความคุ้มกันของ ส.ส.และ ส.ว. หมดไป จึงขอถาม ผบ.ตร. ในฐานะพนักงานสอบสวนระดับสูงสุด ว่า หลังจากตนเปิดหลักฐานไปหมดแล้ว ตำรวจจะดำเนินการอย่างไรต่อ "ส.ว.อ."

2. ถ้าข้อเท็จจริงชี้ว่า ทรัพย์สินต่างๆ ของ ส.ว.อ. ได้มาจากการฟอกเงินหรือยาเสพติด​ จะต้องมีการยึดอายัดทรัพย์สินเหล่านั้นตามหลักปฏิบัติ ตำรวจจะกล้ายึดอาคารและที่ดิน ที่ตั้งของพรรครวมไทยสร้างชาติ หรือไม่ และ

3. ที่ผ่านมา พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พยายามปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ ส.ว.อ. แต่ตอนนี้ในฐานะประธาน ก.ตร. เป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดของตำรวจ ตนขอตั้งคำถามว่า ทำไมตำรวจที่รับผิดชอบคดีจับกุม ทุนมินลัต จึงถูกย้าย เป็นเพราะ พล.อ. ประยุทธ์รู้ใช่หรือไม่ ว่าตัวเองอาจหนีความรับผิดชอบไม่ได้

เมื่อถามถึงตอนนี้มีหลายฝ่ายทั้งพรรครวมไทยสร้างชาติ และสมาชิกพรรคเศรษฐกิจไทย จะไปยื่นฟ้องดำเนินคดีกับนายรังสิมันต์ ทั่วประเทศนั้น นายรังสิมันต์ กล่าวว่า อย่างแรกการทำหน้าที่ของตน ตนทำหน้าที่ ส.ส. ตามที่ให้ไว้ในรัฐธรรมนูญ หากยืนยันว่าไม่จริง ทำไมไม่ตอบคำถามให้ชัดเจน ให้นำพยานหลักฐานมาแสดงต่อสังคมให้ชัดเจน วันนี้สิ่งสำคัญคือต้องตอบคำถามให้ได้ว่าผู้มีอำนาจ ไปยุ่งกับยาเสพติด ทุนสีเทาหรือไม่ และตนเชื่อว่าสังคมมองออกว่าการฟ้องร้องกลับ เพื่อต้องการให้ผู้ที่ออกมาเปิดเผยกลัวที่จะต้องสู้คดี ต้องขึ้น สน. สภ.จำนวนมาก ซึ่งเรื่องนี้

"สำหรับผมเลยจุดนั้นมานานแล้ว ลูกไม้แบบนี้ใช้กับผมไม่ได้ ผมพร้อมในการสู้คดี และผมก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าประเทศนี้ ถ้ายังมีกระบวนการยุติธรรมอยู่จริง ให้มันรู้กันไปว่าคนที่ออกมาเปิดโปงแบบผม ที่ต้องการจัดการกับคนที่ค้ายาเสพติด คนเปิดโปงแบบผมติดคุกก็ให้มันรู้กันไป ผมไม่ถนัดเรื่องของการฟ้องปิดปาก แต่ผมก็ต้องใช้กระบวนการนี้เพื่อป้องกันตนเอง"

นายรังสิมันต์ ยังเตือนไปถึง สมาชิกพรรคเศรษฐกิจไทย หากใครจะใช้สิทธิ์ตามที่ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย ให้สัมภาษณ์ ขอให้คิดให้ดี

เมื่อถามว่ามองอย่างไร ต่อกรณีคดีที่นายอุปกิตฟ้องร้องถึงดำเนินการอย่างรวดเร็ว นายรังสิมันต์ ยอมรับว่าเร็วที่สุดเท่าที่โดนดำเนินคดีมา ที่ผ่านมาโดนมาเยอะ แต่ไม่เคยเร็วขนาดนี้ ตนเข้าใจว่ากระบวนการในศาลก็เป็นไปตามปกติ ย้ำว่าดูเร็วไปนิดหนึ่ง พร้อมระบุว่า พร้อมต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ตัวเอง มั่นใจในพยานหลักฐาน เพราะเอกสารที่รวบรวมกันมาวันนี้ไม่ใช่เอกสารปลอม

"คดีนี้ 100 ล้าน คดีเก่ารวมๆกันก็ 100 ล้าน รวม 200 ล้าน ค่าตัวมากที่สุดในพรรคตอนนี้แล้ว"

นายรังสิมันต์ ระบุว่า วันนี้เป็นความท้าทายมาก หากกระบวนการยุติธรรมเป็นไปตามสิ่งที่ควรจะเป็น ตนไม่จำเป็นต้องมาพูดอภิปรายนายอุปกิตเลย แต่ปรากฏว่าไม่ได้เป็นไปตามนั้น มันมีพลังงานบางอย่างที่อยู่ด้านหลัง ผมกำลังบอกว่า เราจะปล่อยให้ประเทศของเราเป็นแบบนี้ไม่ได้ ตนเป็นฝ่ายค้าน ตนเหลือเวลาอีกไม่กี่วัน ตนก็ต้องทำหน้าที่ หากเราเห็นขบวนการเหล่านี้ แล้วไม่ทำอะไรเลย เราจะต่างอะไรกับการเป็นส่วนหนึ่งในขบวนการเหล่านี้ ก่อนจะตั้งคำถามว่าผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจะอยู่อีกกี่เดือน

"ผบ.เด่นจะอยู่อีกกี่เดือน ท่านฝากผลงานให้ลูกหลานได้จดจำไหม วันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจเจอกับความท้าทายหลายอย่าง ทั้งข่าวฉาวแทบทุกวัน เรายังจะปล่อยให้คนที่มีความชัดเจนทั้งพยานหลักฐานที่ชี้ชัดมากว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินที่มาจากยาเสพติด และเราก็ปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นโดยไม่ทำอะไรเลย แล้วจะต่างอะไรกับขบวนการค้ายา"

เมื่อถามว่า ส.ว.ควรจะมีการตรวจสอบจริยธรรมกันเองหรือไม่ นายรังสิมันต์ ตอบว่าตนก็รู้สึกไม่ค่อยอยากจะพูดถึงเท่าไหร่ เพราะพูดมาเยอะแล้ว แต่ ส.ว. หลายท่านเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ ชอบพูดตลอดเวลาว่าเป็นคนดี เป็นคนไม่โกง เป็นคนที่จะเข้ามาทำให้สภานี้สูงขึ้น

" เนี่ยเหรอครับ แล้วทำอะไร ยื่นเรื่องจริยธรรมได้เลย ไม่ต้องให้ผมยื่น เพราะวันนี้หลักฐานมันชัดแล้ว หากคิดว่า ส.ว.ไม่ควรมีคนแบบนี้ก็ควรไปดำเนินการ แต่ไม่เห็นมีอะไรเลย ส.ว.ทุกคนเงียบหมด แต่เวลาพูดเชียร์พล.อ.ประยุทธ์หรือท้าทายประชาชนเก่งเหลือเกิน พอเป็นพวกเดียวกันเกี่ยวข้องกับเรื่องเทาๆ ก็เงียบสนิท"