ระเบิดบึ้ม! ไฟไหม้เรือเฟอร์รี่พลังงานไฟฟ้า เผาวอด 3 ลำ เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อหาสาเหตุอย่างละเอียดต่อไป
วันที่ 21 ก.พ. 2566 เหตุการณ์ไฟไหม้เรือเฟอร์รี่ สำหรับใช้ท่องเที่ยวทางทะเล ที่จอดอยู่ริมแม่น้ำ วัดท้องคุ้ง อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยไฟได้ลุกไหม้เรือที่จอดอยู่เสียหายจำนวน 3 ลำ ซึ่งเป็นเรือที่จอดอยู่แถวที่ 2 ใกล้กับตู้ชาร์จไฟฟ้า จึงมีการตั้งข้อสังเกต ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะเกี่ยวกับไฟฟ้าลัดวงจรหรือไม่
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่กู้ภัย ได้นำรถน้ำเข้ามาในพื้นที่ พร้อมระดมฉีดน้ำดับเพลิง เพื่อไม่ให้ลุกลามไปยังเรือลำอื่น เนื่องจากท่าเรือตรงนี้ มีเรือเฟอร์รี่จอดอยู่ทั้งหมด 9 ลำ ในลักษณะจอดเรียงเป็นแถวหน้ากระดาน แถวละ 6 ลำ ซึ่งใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง เพลิงจึงสงบ เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ แต่เนื่องจากสภาพอากาศบริเวณจุดเกิดเหตุมีลมแรงเป็นระยะ จึงทำให้เกิดการปะทุอยู่เรื่อยๆ เจ้าหน้าที่จึงต้องมีการสแตนบายรถดับเพลิงไว้ในพื้นที่ตลอดเวลา
คนงานก่อสร้างโบสถ์วัดท้องคุ้งอำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ เล่าว่า เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา ขณะนอนอยู่ในเต็นท์ที่พักริมน้ำ ซึ่งอยู่ติดกับท่าเรือที่เกิดเหตุ เขาได้กลิ่นเหม็นไหม้ ในใจคิดว่า ปลั๊กพ่วงที่เขาต่อมาเกิดไฟไหม้ จึงได้ลุกออกมาดู แล้วเดินสำรวจรอบๆ เต็นท์ ซึ่งก็ไม่พบความผิดปกติ จึงจะเดินไปล้างหน้าที่ริมแม่น้ำ แต่ระหว่างเดินไป ก็หันไปเห็นเปลวเพลิงกำลังลุกไหม้เรือเฟอร์รี่ พร้อมกับมีควันสีดำพวยพุ่งขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง เขาจึงรีบร้องตะโกนบอกเพื่อนคนงานที่นอนอยู่ในบริเวณใกล้เคียงอีกประมาณ 10 คน ว่าไฟไหม้เรือ ทำให้ทุกคนรีบวิ่งมาดู
ขณะที่คนงานอีกคน ที่นอนอยู่ด้านหลัง ข้างๆ เมรุเผาศพ ได้หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายคลิปเหตุการณ์ไว้ได้ เขาบอกว่า ตอนนั้นตกใจมาก เพราะระหว่างที่กำลังยืนดูเหตุการณ์ก็มีเสียงระเบิดดังขึ้น 2 - 3 ครั้ง ซึ่งเมื่อไฟเริ่มโหมไหม้มากขึ้น เขากับเพื่อนๆ ก็รีบพากันออกจากบริเวณนี้ เพราะเกรงจะไม่ปลอดภัย
ส่วนคนงานอีกคน บอกว่า ตอนเกิดเหตุ ตัวเองนอนอยู่ในเต็นท์เช่นเดียวกัน แล้วก็ได้กลิ่นเหม็นแปลกๆ ซึ่งตอนแรกเข้าใจว่าเป็นกลิ่นเหล้า ที่เพื่อนคนงานอาจทำหก แต่ผ่านไปสักระยะเมื่อกลิ่นรุนแรงมากขึ้น ก็คิดว่าไฟไหม้เต็นท์ตัวเองหรือไม่ จึงรีบลุกออกมาดู แล้วพบว่าเกิดเหตุไฟไหม้เรือที่จอดอยู่ คนงานบอกว่า ขณะเกิดเหตุ ไม่พบเห็นมีคนบนเรือวิ่งหนีตาย แต่มีพนักงานรักษาความปลอดภัยของท่าเรือ พยายามแจ้งเตือนคนที่ท่าเรือว่า ไฟไหม้ ก่อนจะมีการโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่เข้าดำเนินการ
สำหรับเรือเฟอร์รี่ ที่เกิดไฟไหม้เป็นของบริษัท ไมน์ สมาร์ท เฟอร์รี่ ซึ่งเช่าจอดในท่าเรือเอกชนที่เกิดเหตุ ซึ่งหลังจากนี้ ตำรวจพร้อมกองพิสูจน์หลักฐานจะเข้าเก็บหลักฐานพร้อมตรวจสอบเรือที่เกิดเหตุอย่างละเอียด เพื่อหาสาเหตุของการเกิดไฟไหม้ครั้งนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต เพราะทราบว่าขณะเกิดเหตุไม่มีคนอยู่บนเรือ และบริเวณใกล้เคียง
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากเป็นท่าเรือเอกชน จึงไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าบันทึกภาพทำข่าว ผู้สื่อข่าวจึงทำได้เพียงสังเกตการณ์อยู่ที่บริเวณศาลาริมน้ำของวัดท้องคุ้ง เท่านั้น ซึ่งก็พบเห็นว่า มีเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เดินทางเข้ามายังจุดเกิดเหตุเป็นจำนวนมาก แต่ไม่มีการชี้แจงรายละเอียดใด ๆ มีเพียงบริษัทเจ้าของเรือ ซึ่งเป็นผู้ผลิตเรือเฟอร์รี่ ไฟฟ้าเท่านั้น ที่เชิญสื่อมวลชนเข้ารับฟังคำชี้แจงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
โดยนางสาววิมลมาศ วงศ์มกรพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไมน์ โมบิลิตี รีเสิร์ช จำกัด เปิดเผยว่า รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และทางบริษัทอยู่ระหว่างการตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริง แต่เบื้องต้นเชื่อว่าสาเหตุไม่ได้เกิดจากระบบชาร์จไฟ หรือ แบตเตอรี่ของเรือ แน่นอน เพราะเรือลำที่คาดว่าเป็นต้นเพลิงได้จอดอยู่ด้านนอกสุด ไม่ติดกับแท่นชาร์จไฟฟ้า ซึ่งหลังจากเกิดเหตุไฟไหม้แล้วจึงได้ลุกลามเข้ามายังเรือด้านใน ซึ่งก็ไม่ได้มีการชาร์จไฟฟ้าแต่อย่างใด นอกจากนี้จากการตรวจสอบเบื้องต้น ยังพบว่า ไฟได้เริ่มลุกไหม้จากด้านบนของเรือ ซึ่งเป็นส่วนของห้องขับ เบาะนั่ง และโครงสร้างผนัง
นางสาววิมลมาศ สันนิษฐานว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อาจเกิดจากการดำเนินการ หรือ บุคคล ที่เข้าไปภายในเรือ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดอย่างละเอียด
สำหรับบริษัท ไมน์ โมบิลิตี รีเสิร์ช จำกัด เป็นบริษัทผลิตเรือไฟฟ้า ที่มาเช่าท่าเรือเอกชนที่เกิดเหตุเพื่อจอดเรือ ในระหว่างทดสอบระบบ เพื่อเตรียมส่งมอบให้กับลูกค้า ส่วนเรือลำที่เกิดเหตุทั้ง 3 ลำ ก็เป็นเรือที่อยู่ระหว่างทดสอบระบบเพื่อเตรียมส่งมอบ ซึ่งทางบริษัท ยืนยันว่า ที่ผ่านมาในการต่อเรือ ไม่เคยเกิดปัญหาเกี่ยวกับระบบชาร์จไฟหรือแบตเตอรี่มาก่อน อีกทั้งยังให้ความสำคัญที่สุดในเรื่องความปลอดภัย ด้วย