บุกทำเนียบ "ชูวิทย์" หอบข้อมูลสารพัดโกงไปให้หมื่นล้าน "นายกฯ" ทำนายดวงการเมืองกลียุค แฉตัวละครใหม่หลานนักการเมืองนามสกุลดัง

21 ก.พ. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้เดินทางไปที่ทำเนียบรัฐบาล หอบข้อมูลสารพัดโกงไปให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

 

นายชูวิทย์ เปิดโต๊ะดูดวงโหราศาสตร์ความเป็นไปชะตาของบ้านเมืองข้างทำเนียบรัฐบาล ก่อนได้รับมาเชิญเข้าพบนายกฯ พร้อมกับนำป้ายขนาดใหญ่ซึ่งแสดงให้เห็นข้อมูลในเปิดประกวดราคาก่อสร้าง "รถไฟฟ้าสายสีส้ม"
 
สำหรับการประกวดจัดหาผู้รับเหมาเข้ามาดำเนินการก่อสร้าง "รถไฟฟ้าสายสีส้ม" ของ รฟม. โดยมีกระทรวงคมนาคมเป็นเจ้ากระทรวงที่ดูแลนั้น มีความไม่ชอบมาพากลอยู่หลายจุดโดยเฉพาะในขั้นตอนการประกวดราคา การปรับเปลี่ยนหลักเกณฑ์ร่างขอบเขตการทำงาน (TOR) ภายหลังจากที่มีการเปิดซองราคาไปแล้ว

จนนำไปสู่การฟ้องร้องศาลปกครอง หลังตั้งข้อสังเกตว่าโครงการดังกล่าวเกิดการฮั้วกับเอกชน เพื่อที่จะรับเงินทอนและนำเงินไปเป็นทุนสำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้าของพรรคการเมืองบางพรรค? 

โดยแบ่งการประกวดราคา "รถไฟฟ้าสายสีส้ม" ออกเป็น 5 สถานี คือ
 
-สถานีโกง  การปรับเปลี่ยนหลักเกณฑ์ TOR ทั้งที่เปิดขายซองประกวดราคาไปแล้ว โดยรูปแบบเดิมเป็นการให้คะแนนค่าก่อสร้าง และเงินตอบแทนที่รฟม.จะต้องคืนให้แก่เอกชน 
 
-สถานีทุจริต  มีการร้องศาลปกครอง โดยในชั้นต้นไม่ให้เปลี่ยนหลักเกณฑ์แต่ในชั้นสูงสุดที่ประชุมใหญ่มีมติ 27:23 ให้สามารถเปลี่ยนหลักเกณฑ์ได้ 
 
-สถานีฮั้ว  ในกระบวนกำหนด TOR รอบใหม่หลังจากที่การประกวดราคาครั้งแรกถูกล้มไปนั้นมีการปรับ TOR ใหม่ให้เฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น เพื่อให้บางบริษัทเข้าหลักเกณฑ์เพียงบริษัทเดียว
 
-สถานีเงินทอน  พบว่า 30,000 ล้านบาทเข้ากระเป๋าใคร โดยพบว่ามีการโอนเงินไปยังประเทศสิงคโปร์ผ่านธนาคารเอกชนระหว่างประเทศ 
 
-สถานีปลิว เปิดประมูลรอบสองกำหนดหลักเกณฑ์ใหม่ ต้องเคยเป็นบริษัทที่เป็นคู่สัญญาสัมปาทานกับรัฐบาลเท่านั้น ทำให้เหลือบริษัทเดียว 
 
ซึ่งเกิดการล็อกสเปกแบบน่าเกลียด ผมโทษใครไม่ได้ แม้แต่รัฐบาลผมก็โทษไม่ได้ เพราะรัฐบาลก็ต้องการลงสมัครพรรคการเมืองเพื่อหวนคืนกลับมามีอำนาจอีกครั้ง

ยกตัวเองโครงการใหญ่ที่เขาเอาเงินพวกเราไป เงินไป 70,000 ล้านแล้วมีเงินเข้าไปจ่ายค่าคอม 30,000 ล้าน โครงการรถไฟฟ้าสายส้มเป็นตัวอย่างโครงการรับเพียงตัวอย่างเดียว แสดงให้เห็นว่าระบบการทำงาน”พัง”

 

นายชูวิทย์ยืนยันว่าตนเองมีหลักฐานทั้งหมดแต่ไม่สามารถบอกได้ทั้งหมด นอกจากนี้นายชูวิทย์บอกด้วยว่าได้นำหลักฐานอีกมากมาย โดยเฉพาะเรื่องการพนันออน์ไลน์หลานนักการเมืองนามสกุลดัง "รอดรัศมี" เป็นมือขวาหน้าเสื่อในการทำงาน ต่อมานายชูวิทย์ ได้เข้าไปยังพื้นที่ทำเนียบรัฐบาลเพื่อพบกับตัวแทนพล.อ.ประยุทธ์ โดยเจ้าตัวจะมอบหลักฐานให้พล.อ.ประยุทธ์เพื่อดำเนินการต่อไป