เปิดหมดเปลือก "ฟิล์ม รัฐภูมิ" เคลียร์ทุกประเด็นการเมือง หลังย้ายพรรคบ่อย บอกไม่สนใจแค่อยากทำตามนโนบาย ลั่นอย่าด่าอย่าว่ากันเลย

21 ก.พ. 66 นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือฟิล์ม ทีมโฆษกพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์เปิดใจกับทีมข่าวช่อง 8 เปิดเส้นทางการเมืองโดยระบุว่า ลงเล่นการเมืองคือจะบอกว่าอย่างแรกเลยไม่มีใครแยกฝั่งไหน เพราะว่าทุกคนอยู่ฝั่งประชาชน ที่ย้ายพรรคเพราะด้วยอุดมการณ์ต่างๆ และได้โอกาสจากผู้ใหญ่ได้มาแสดงบทบาทนี้ และตั้งใจจะผลักดันในเรื่องของซอฟต์พาวเวอร์ และวัฒนธรรมที่เกี่ยวกับวงการบันเทิงของเรามาใช้ คือจะพูดเสมอว่าถ้ามีโอกาสเราก็อยากจะตอบแทนสังคมและประชาชน โดยการหาช่องทางใหม่ๆ ในการหาเงินเข้าประเทศ ซึ่งมันเป็นสองเรื่องนี้ที่ตั้งใจว่าจะทำให้จีพีของประเทศไทยดีขึ้นแน่นอน

 

ย้ายพรรคบ่อย จนถูกมองว่าไม่น่าจะใช้เส้นทางที่ดี?
-ที่เราย้ายหลายที่มันส่งผลบั่นทอนให้กับเรานะ คือเราไม่ได้มองเรื่องนั้นเลย ต้องบอกว่าบางกลุ่มเขามองว่าเราอาจจะมีความสามารถ เพราะหลายพรรคก็จะต้องการดึงเราไปร่วมงานด้วย เลยคิดว่าทางไหนที่มีโอกาสที่จะดึงเราไปทำงานได้ ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี ไม่ได้เป็นทุกพรรคที่จะผลักดันในสิ่งที่เราต้องการนำเสนอ แต่สิ่งที่เราอยากจะนำเสนอก็คือมีการดันแพลตฟอร์มและเทคโนโลยีต่างๆ

 

ความตั้งใจของเราคืออะไรถึงกลับมาเล่นการเมือง?
-อยากจะบอกทุกคนว่าจุดยืนเราแข็งแรงมาก แล้วก็คือสิ่งเดียวเลยคืออยากให้ชีวิตของพ่อแม่พี่น้องดีขึ้น และวันนี้เราได้รับโอกาสที่มากกว่าคนอื่น แต่ก็ยังขอยืนยันคำเดิมว่าทำไมถึงเปลี่ยนกลายพรรค คืออยากให้มองมาที่ตัวเรามากกว่าว่าต้องเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น เพิ่มโอกาสในการทำงาน อยากจะพูดคำเดิมนะว่ามันดีกว่าไหม ถ้าเราคิดช่วงทางในการหาเงินให้ประเทศไทย และคิดว่าบ้านเราเด่นเรื่องอะไร เราก็ใช้เรื่องนั้นมาขับเคลื่อน อย่างบ้านเมืองเราแข็งแรงเรื่องวัฒนธรรมการท่องเที่ยว แต่ไม่มีใครทำเรื่องนี้ให้มันเด่นขึ้นมาเลย จึงอยากส่งออกสิ่งนี้ออกไปให้ชาวโลกได้รู้ เพื่อเป็นการหารายได้กลับมาประเทศ

 

คนภายนอกมองว่าดารามาเล่นการเมือง ก็เป็นเหมือนไม้ประดับ?
-จากที่หลายคนมองว่าเป็นเหมือนไม้ประดับนั้น คือเรามองว่าขึ้นอยู่กับว่าเขาแสดงศักยภาพให้ประชาชนเห็นมากน้อยแค่ไหน แต่อย่างผมอยู่มานานแล้วตั้งแต่ปี 60 ศักยภาพของเราเลยทำให้คนเชื่อมั่นและเชื่อใจได้ เลยไม่ใช่แค่จะมาเป็นไม้ประดับในวงการอย่สงเดียว


จริงๆ เบื้องหน้าคนมองว่าเราไปกลายพรรคเพราะอะไร แต่เบื้องหลังทุกพรรครู้จักกันหมด ทุกคนมีนโยบายที่แตกต่างกัน ที่จะทำเพื่อประเทศชาติและสังคม เราไม่อยากให้มาวิจารณ์ว่าแตกต่างกันแบบไหน แต่อยากให้มองว่าเป็นหนึ่งโครงการของเรา ที่มันตรงกับสิ่งที่เราอยากจะทำมากกว่า

 

การเตรียมพร้อมในการลงสู้ศึกการเมืองครั่งนี้?
-คือไม่มีอะไรมาก แค่ต้องการดันนโยบายที่อยากซัพพอร์ตประชาชน เราเชื่อว่าทุกคนไม่อยากกลับไปทำงานในแบบเดิมๆ ตามแบบแผนดั้งเดิม อย่างเช่น ทำไมเราเรียนจบมาแล้ว ไม่ไปทำสิ่งที่มันต่อยอดได้ เพราะยุคนี้มันมีสิ่งเทคโนโลยีที่รองรับเราได้ และมันเป็นช่องทางการได้เงินกลับมาด้วย มันก็จะดีกว่าที่สนับสนุนและซัพพอร์ตกัน

 


หลายคนคิดว่าเราอาจจะโดนซื้อตัวหรือเปล่า?
-เราจะบอกว่าเราเป็นแค่จิตอาสาในเรื่องของการเมือง เราแค่อยากจะมาทำในสิ่งที่ดีที่สุดให้กับประเทศชาติ อย่าคิดว่าเราถูกซื้อตัว ให้เปลี่ยนเป็นส่งกำลังใจเชียร์ดีกว่า ว่าเราได้รับโอกาสจากพรรคที่ใหญ่ขึ้น คล้ายการเป็นนักกีฬาแหละ ว่าถ้าเราทำดีก็ต้องถูกทีมต่างๆ ดึงตัวไป

 


มองการแข่งขันในสังคมการเมืองยังไง?
-กลางเมืองนั้นเป็นประชาธิปไตยของทุกคน อย่าเอาอารมณ์เข้าไปร่วมกับมัน แต่มันก็เป็นเรื่องปกติของประชาธิปไตยก็เหมือนกันที่จะต้องอยู่บนพื้นฐานที่สามารถคุยกันได้ อย่าด่าอย่าว่ากันเลย อยากให้ทุกคนเปิดใจให้เป็นสมัยใหม่ เพราะเชื่อว่าทุกคนมีอดีต เราเองก็มีอดีตที่ผ่านมา แต่อนาคตต้องมีการปรับเปลี่ยนหลักการไปสภาพเพื่อไปสู่ความเจริญ ความไม่ขัดแย้งกัน มันต้องเป็นช่องทางเดียวกันที่เป็นประโยชน์ ทุกคนอย่าเอาอารมณ์มาร่วมกัน ทุกคนเปิดใจฉันเริ่มต้นใหม่แล้วมองไปที่นโยบายของแต่ละพรรค ถ้ามันมีสิ่งที่ต้องกับใจเรา มันก็จะดีกับทุกคน