สึกแล้ว! พระพะเยาเข้าคลินิกเติมโบ-ฉีดกลูต้า อัปสกิลความสวยแบบตัวแม่ หลักหมื่น ก่อนสลัดจีวรเปลี่ยนลุคเป็นสาวสวย
จากกรณีพระวัดดังแต่งหญิงอัปสกิลความงาม ที่จังหวัดพะเยา วันนี้คุณกฤต ธรรศกฤต ผู้สื่อข่าวช่อง8 ได้เดินทางลงพื้นที่ไปที่วัดหลวงราชสัณฐาน ต.เวียง อ.เมือง จ.พะเยา อีกครั้ง เมื่อเวลา 08.45 น. เพื่อสอบถามถึงข้อเท็จจริงกรณีพระเจมส์ ที่ได้ลาสิกขา ออกจากวัดไปแล้วนั้นเป็นจริงหรือไม่
เมื่อเดินทางไปถึงพบเพียงพระลูกวัด ที่กำลังทำวัตรเช้าอยู่ภายในวัดเปิดเผยว่า ท่านเจมส์ ได้ขอลาสิกขาออกจากวัดนี้ไปแล้ว ตั้งแต่เมื่อคืน 23/2/66 (ไม่ระบุเวลา) หลังจากนี้ตนทราบเพียงว่าจะกลับไปอยู่บ้านที่ อำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา ส่วนเรื่องอื่นๆ ตนไม่รู้อะไรเกี่ยวกับพระรูปนี้เลย เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามถึงเจ้าอาวาส และพระรูปอื่นในวัด ท่านบอกเพียงว่าตอนนี้ออกไปทำกิจนิมนต์ชาวบ้านกันทั้งวัด
จากข้อมูลภาพของพระเจมส์ ขณะลาสิกขา ได้รับการยืนยันจากพระลูกวัดรูปนี้ ว่าเป็นพระเจมส์จริงๆ แต่เรื่องที่เป็นข่าวตนไม่ทราบ และไม่มีข้อมูล เพราะไม่ได้มีความสนิทอะไรมากกับพระเจมส์ แม้กระทั่งเบอร์โทรของท่านก็ไม่เคยมี ส่วนตอนนี้ยอมรับว่าหลังเกิดเหตุการณ์ท่านเจ้าอาวาสนั้นเครียดมาก
สอบถามญาติโยมที่มาทำบุญภายในวัด ถึงการที่สงฆ์เข้าไปใช้บริการในสถานเสริมความงามว่ามีความเหมาะสมหรือไม่ ชาวบ้านตอบว่า “ไม่เหมาะ หากท่านมีความชอบแบบนี้ ก็ขอให้สึกออกไป ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ เพราะหากอยู่ต่อ ก็จะทำให้เสื่อมเสียศาสนา” และยังบอกอีกว่า ส่วนตัวเป็นคนชอบทำบุญ ตระเวนเข้าวัดทำบุญอยู่เป็นประจำ แต่ช่วงนี้พอมีข่าวแบบนี้มากขึ้น ชักไม่มั่นใจแล้ว ชาวบ้านรายหนึ่งกล่าว
ล่าสุดเวลา 09.50 น. ผู้สื่อข่าวช่อง8 เดินทางต่อไปที่สำนักพุทธศาสนาจังหวัดพะเยา เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงกรณีการลาสิกขาบทของพระเจมส์ และความคืบหน้าของการดำเนินการต่อจากนี้ของสำนักพุทธ โดยได้พบกับ นายณัฐรุจิ์ คำคุณเมือง นักวิชาการศาสนาชำนาญการพิเศษ เปิดเผยว่าตอนนี้ทางสำนักพุทธได้มีบทลงโทษให้พระเจมส์ลาสิกขา ซึ่งท่านก็ได้ลาสิกขาไปแล้วเมื่อวานนี้ โดยหลังจากนี้จะมีการประชุมเพื่อหาข้อสรุปเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกครั้ง ถึงมาตรการการป้องกัน เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก ซึ่งเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ก่อให้เกิดผลดีต่อพระพุทธศาสนา นายณัฐรุจิ์กล่าว