2 สามีภรรยาร้อง! แก๊งทวงหนี้โหดบุกร้านข่มขู่พร้อมอาวุธ ทำลายข้าวของเสียหาย หลังค้ำประกันให้หลานกู้เงิน 15,000
วันที่ 26 ก.พ.66 จากกรณีที่มีแก๊งเงินกู้โหดยกพวกบุกบ้านทวงนี้พร้อมอาวุธครบมือ ทุบกระจกหน้าร้านทำลายข้าวของหน้าร้านพังยับ ต่อมา นางสาววาสนา อายุ 37 ปี ต.เวียงชัย อ.เวียงชัย จ.เชียงราย พร้อมด้วยสามี ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.เวียงชัย จากกรณีที่มีแก๊งเงินกู้โหดยกพวกขู่ พร้อมทำลายเข้าของหน้าร้านได้รับความเสียหาย
นางสาววาสนาเล่าว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 24 ก.พ.66 เวลา 19.40 น. แก๊งเงินกู้ราว 8 คน มาจอดรถจักรยานยนต์อยู่บริเวณข้างร้าน โดยยสามีผู้เสียตนเอง สวมเสื้อสีส้ม ได้ยืนพูดคุยกับแก๊งเงินกู้สักพักใหญ่ แต่ไม่ลงตัว จึงเดินเข้าร้านไป จนกระทั่งพวกแก๊งเงินกู้ถือไม้ขว้างเข้าไปที่กระจกหน้าร้านหลายครั้ง ทำให้กระจกแตก และเกิดเสียงดัง อีกทั้งจะมีการทำร้ายสามี ตนเองจึงเรียกสามีให้เข้าไปในร้าน เพราะในร้านมีกล้องวงจรปิด เพื่อที่จะสามารถบันทึกวิดีโอไว้เป็นหลักฐานได้ กระทั่งสามีตนเองถือมีดออกมา บอกให้หยุด แต่ทางแก๊งเงินกู้ก็ไม่กลัวยังมีการตะโกนข่มขู่ สุดท้ายก็ได้แยกย้ายหนีไป
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามยังสามีผู้เสียหาย ทราบว่า เหตุเกิดจากหลานชายได้ไปกู้แก๊งทวงนี้จำนวน 15,000 บาท ต้องจ่ายต้นดอกจ่ายวันละ 750 บาท ต้น 550 ดอก 200 บาท จ่ายไปแล้ว 3,000 บาท ยังค้างอีก 12,000 บาท ซึ่งตนเองเป็นผู้ค้ำประกัน พวกแก๊งทวงนี้จึงมาทวงทุกวัน ตนเองก็ต้องจ่ายให้ทุกวัน วันละ 200-300 บาท ในส่วนของหลานชายได้หนีหายไป กระทั่งช่วงหลัง ๆ แก๊งเงินกู้มาทุกเช้าทุกเย็นสร้างความรำคาญให้ตนเอง คนที่มาซื้อสินค้าก็กลัวไปด้วย จึงไม่มีใครกล้าที่จะมาซื้อสินค้า จึงเกิดปากเสียงกัน จนเกิดเป็นเหตุดังกล่าวขึ้น
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังห้องเช่าที่เกิดเหตุ เป็นห้องเช่า 4 ห้อง ห้องที่เกิดเหตุอยู่ตรงกลาง มีร้านเสริมสวยและทำเล็บอยู่ด้านข้าง ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม น.ส.บี (นามสมมติ) ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ในวันที่เกิดเหตุ เห็นพวกแก๊งเงินกู้มาทวงเงินตั้งแต่เช้ามานั่งเฝ้าที่หน้าร้าน พอหัวค่ำพบว่ามีแก๊งทวงหนี้มาจอดรถจักรยานยนต์ มีชายกลุ่มวัยรุ่นราว 8 คน มาจอดอยู่ข้างร้าน พร้อมทั้งถือไม้ไผ่ และค้อนครบมือ พอพูดคุยกันสักพักใหญ่ ก็เกิดปากเสียงกัน จนกระทั่งมีการท้าทายกัน กลุ่มแก๊งเงินกู้จะทำร้ายเจ้าของร้าน 2 สามีภรรยา
ซึ่งทางตำรวจยังอยู่ในระหว่างเรียกตัวฝ่ายแก๊งเงินกู้โหดเข้ามาเจรจาต่อรองชดใช้ค่าเสียหาย