เมื่อวานนี้ (28 ก.พ.) เเม่ของเด็กชายวัย 8 เดือน ออกมาแถลงข่าวเป็นครั้งแรกหลังจากที่เธอรับสารภาพ พร้อมกับยกมือขอโทษสังคมที่ทำให้ต้องวุ่นวาย ในส่วนของการค้นหาร่างเด็กชาย ก็ยังดำเนินต่อไปเมื่อคืนนี้เจ้าหน้าที่ได้ประสานรถแบ็กโฮ เกลี่ยหน้าดินตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ขณะที่ทางมูลนิธิวินวิน บอกว่าวันนี้จะค้นหาเป็นวันสุดท้ายแล้ว

 

เพจเฟซบุ๊กของ มูลนิธิ วินวิน โพสต์รูปภาพ ลักษณะเป็นภาพวาดจุดที่แม่ของเด็กชายวัย 8 เดือนนำลูกไปทิ้งน้ำ พร้อมกับโพสต์ข้อความ ทำนองว่า วันนี้จะลงพื้นที่ค้นหาน้องเป็นวันสุดท้าย ด้วยเหตุผลหลายๆเหตุผล ทั้งเรื่องของสภาพแวดล้อม เช่นตัวเงินตัวทอง กระเเสน้ำ ที่อาจเป็นปัจจัยให้ค้นหาร่างของน้องไม่เจอ

 

แต่มีข้อความช่วงหนึ่งที่ทางมูลนิธิ วินวิน ติเรื่องการทำงานของเจ้าหน้าที่ ว่าเวลาล่วงเลยมากว่า 25 วัน ทุกการทำงานของเจ้าหน้าที่ตั้งแต่วันแรก ดูเป็นความลับไปซะหมด แม้กระทั่งเรื่องชุดสุดท้ายที่น้องใส่ในวันเกิดเหตุ ซึ่งเรื่องนี้ควรเป็นข้อมูลให้ชาวบ้านใช้ในการแจ้งเบาะแส แต่ก็เป็นความลับ

 

และที่สำคัญเหตุผลที่ต้องยุติการค้นหา คือ ปัจจัยด้านการเงิน มูลนิธิบอกว่า เกรงใจทีมงานค้นหาทุกคน ทั้งเจ้าของรถแบ็กโฮ อย่างสารวัตรแป๊ะ นักประดาน้ำ เจ้าหน้าที่อบต. หินมูล อาจารย์เจ และทีมจิตวิทยาอย่างอาจารย์หนึ่ง ที่ไม่เคยได้ค่าตอบแทนแม้แต่บาทเดียว แต่ทุกคนก็ร่วมแรงร่วมใจเพื่อนค้นหาน้อง

 

น้องเพลง ณัฐชา หน่องพงษ์ นักข่าวของเรามีโอกาสได้พูดคุยกับ มูลนิธิวินวิน เปิดใจกับน้องเพลง บอกว่า ตัวเองควักเงินส่วนตัวออกไปหลายบาท เพราะอยากหาน้องให้เจอ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่เคยประสานงานในการช่วยค้นหาน้องต่อเลย ทุกอย่างเป็นความลับหมด ทำให้ยากต่อการค้นหา หลังจากนี้ ก็คิดว่าจะยุติการทำงานแล้ว ปล่อยให้เป็นการทำงานของเจ้าหน้าที่บ้าง

 

ต่อมา น้องเพลง ทีมข่าวไปคุยกับ สารวัตรแป๊ะ เป็นสารวัตรกำนันของ ต.หินมูล ถ้าใครติดตามข่าวจะเห็นว่า สารวัตรแป๊ะนำทีมค้นหาน้องมาตั้งแต่วันแรก สารวัตรแป๊ะ บอกว่า ที่ชาวบ้านร่วมแรงร่วมใจกันมาค้นหาน้อง ส่วนหนึ่งเพราะสงสารเด็ก ทุกคนมีเป้าหมายเดียวกันคืออยากจะหาน้องให้เจอ ส่วนเรื่องงบประมาณในการค้นหา ทางผู้กำกับสภ.บางหลวง ได้ประสานมาแล้วว่ามีค่าใช่จ่ายเท่าไหร่ แต่ตัวเองไม่เอา เพราะ อยากทำด้วยใจ

 

ส่วนต้นทุนในการค้นหา ถ้าคำนวนตั้งแต่วันแรกน่าจะประมาณ20,000 บาทแล้ว เพราะเติมน้ำมันรถแบ็คโฮเต็มถังก็ถังละ 8,000บาท

 

ส่วนตัวตั้งข้อสังเกตว่า บางทีเด็กอาจจะไม่ได้เสียชีวิตก็ได้ เพราะ ถ้าหากมีเรือมารับล่ะ? แม่เด็กอาจจะมายังจุดนี้จริง แต่ไม่ได้มาโยนลูกทิ้ง กลับเอาให้คนอื่นแทน เพราะทางน้ำไม่มีวงจรปิด หรือบางทีเด็กอาจจะเสียชีวิตจริงแต่ มีโอกาสที่ตัวเงินตัวทองจะคาบเข้ารังไป เพราะสัตว์ประเภทนี้ถ้าเวลาจะกินก็จะลากไปกินในรัง ไม่กินในน้ำ

 

ขณะที่เมื่อวานนี้ แม่เด็กก็ได้ไปทำบุญร่วมกับ อาจารย์เจ และทีมมูลนิธิวินวินด้วย โดยน้ำ ขวดนม นมผง ข้าวของเครื่องใช้เด็กไปถวายพระ เพื่ออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับน้องต่อ

 

ด้านแผนการค้นหาวันนี้ตำรวจน้ำจะมีการนำเรือลงค้นหาน้องต่ออีกครั้งบริเวณท่าน้ำวัดศิลามูลเนื่องจากมีข้อมูลว่าบริเวณท่าน้ำมีถ้ำเป็นช่องขนาดใหญ่อยู่คาดว่าเด็กอาจจะถูกกระแสน้ำพัดไปติดอยู่