ทดลองนำสารสีฟ้า พิสูจน์การไหลของน้ำช่วงเวลาเกิดเหตุ แม่นำร่าง "น้องต่อ" ทิ้งน้ำ ด้านผู้ใหญ่บ้านคาดหากโยนลงน้ำจริงอาจถูกสัตว์เลื้อยคลานคาบไปกิน พร้อมเร่งค้นหาเพิ่มจุดที่ชาวบ้านชี้มีกลุ่มปลาฝูงใหญ่รุมตอดบางอย่างในคลองท่อสัปดาห์ที่แล้ว
วันที่ 3 มี.ค.66 ความคืบหน้ากรณีการตามหาร่าง "น้องต่อ" เด็กชายวัย 8 เดือน ตามคำกล่าวอ้างของแม่ที่ระบุว่านำร่างลูกชายมาทิ้งน้ำบริเวณคลองท่อซึ่งใกล้กับปากอ่าวทางไหลเชื่อมต่อกับแม่น้ำท่าจีน
โดยนายประกอบ สิรารัตน์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่5 บ้านคลองท่อ และมูลนิธิ วินวิน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ลองทดสอบนำสารสีฟ้าที่เรียกว่าบลูซี โปรยลงน้ำจุดที่แม่เด็กอ้างว่านำเด็กชายวัย 8 เดือนมาทิ้ง โดยทดสอบตามเวลาจริงที่แม่เด็กให้การน่าจะประมาณ 03.30 น. ซึ่งพบว่ามืดมากมีเพียงไฟจากสะพานมีแสงสว่างไม่มาก
ทั้งนี้จากการโรยสารสีฟ้า พบว่ากระแสน้ำจากคลองท่อไหลออกไปบริเวณแม่น้ำท่าจีน แต่หากเป็นการโยนวัตถุน้ำหนักประมาณ 8-9 กิโลกรัม ซึ่งเทียบเท่ากับน้ำหนักตัวของน้องต่อ พบว่าเมื่อโยนลงไปในน้ำแล้วจะต้องจมอยู่ภายใต้น้ำซึ่งมีความลึกประมาณ 1 เมตรครึ่ง อย่างไรก็ตามในช่วงเวลากลางคืนบริเวณจุดนี้ระดับน้ำจะลง แต่หากเป็นช่วงกลางวันน้ำจะขึ้น
จากการสอบถามผู้ใหญ่บ้าน สันนิษฐานว่าหากมีการนำร่างของเด็กมาทิ้งไว้บริเวณจุดนี้จริง และยังไม่ได้ลอยขึ้นมา ก็เป็นไปได้ที่จะมีสัตว์เลื้อยคลาน เช่น งูเหลือมหรือตัวเงินตัวทองจะนำเด็กไปกิน
ส่วนประเด็นที่สอง คือหากเด็กจมลงในผิวน้ำแล้วเมื่ออิ่มตัวจะลอยขึ้นมาติดผักตบชวาแล้วอาจจะพัดไปตามกระแสน้ำ ซึ่งจากการทดลองตามเวลาจริงก็พบว่าน้ำไหลออกไปที่แม่น้ำท่าจีน
และประเด็นที่ 3 หากร่างของน้องต่อ มีการเน่าเละก็เป็นไปได้ที่จะถูกสัตว์ใต้น้ำ เช่น ปลาชะโด ปลาสวาย ซึ่งเป็นปลาที่กินเนื้อและอยู่ในคลองแห่งนี้จำนวนมาก กินไปแล้ว
ทั้งนี้ผู้ใหญ่บ้านยังไม่เชื่อในคำให้การของแม่เด็กแบบ 100% จึงอยากขอให้แม่เด็กออกมาให้ข้อมูลหรือชี้จุดที่ชัดเจน หากจะแจ้งกับผู้ใหญ่บ้านก็สามารถโทรศัพท์แจ้งได้ทันทีเพราะตอนนี้เจ้าหน้าที่ทุกคนเหนื่อยมากกับการค้นหาน้องต่อ
และยอมรับว่าการค้นหาบริเวณคลองท่อนั้น ตั้งแต่วันเกิดเหตุยังไม่ได้มีการเข้ามาค้นหาบริเวณจุดนี้เนื่องจากทุกคนมุ่งไปประเด็นเรื่องชายเสื้อเหลืองตามคำให้การของแม่เด็กที่อ้างว่ามีชายเส้นเหลืองอุ้มลูกไปจึงทำให้เวลาเนิ่นนานกว่า 1 สัปดาห์จึงจะเข้ามาค้นหาทางน้ำแต่เป็นการหาที่ริมตลิ่งแม่น้ำท่าจีน ไม่ได้เข้ามาบริเวณคลองท่อ ซึ่งเข้ามาค้นคลองท่ออย่างละเอียดเมื่อวันที่ 13 ก.พ.66 โดยใช้รถแบ็กโฮตักผักตบชวาขึ้นมาเท่านั้น ซึ่งวันนั้นพ่อและแม่เด็กก็มานั่งดูการค้นหาด้วย
อย่างไรก็ตามผู้ใหญ่บ้านยังเปิดเผยอีกว่าเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีชาวบ้านพบเห็นสิ่งผิดปกติบริเวณกลางลำคลองช่วงห่างจากบ้านที่เกิดเหตุของเด็กประมาณ 20 เมตร พบวัตถุบางอย่างลอยอยู่ในน้ำและมีกลุ่มปลาจำนวนมากรุมตอดกิน ซึ่งพยานคนนี้ก็ไม่รู้ว่าวัตถุนั้นเป็นอะไรแต่เห็นปลาฝูงหนึ่งกำลังตอดกินจำนวนมากในวันนี้ช่วงบ่ายจะมีการประสานเจ้าหน้าที่และนักประดาน้ำเข้าตรวจสอบบริเวณจุดนั้นซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าหากร่างของน้องต่อถูกกระแสน้ำพัดไปอยู่บริเวณนั้น แล้วถูกสัตว์น้ำแทะกัดแทะก็เป็นไปได้