ตำรวจสอบสวนกลางปฏิบัติการ บุกค้น บริษัทในเครือ กว่า 30 แห่ง ของ "สารวัตรซัว" จับผู้ต้องหาได้ 6 คน อายัดทรัพย์ได้ 1,400 ล้านบาท
หลังจากเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจค้นบริษัทในเครือเป็นต่อกรุ๊ป จำนวน 55 บริษัท ตั้งอยู่ในย่านรามอินทรา ซอย 5 และเป้าหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีกรวมทั้งหมด 63 เป้าหมาย ในพื้นที่ 6 จังหวัด อาทิ ชลบุรี จันทบุรี พร้อมทั้งจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ ได้ 6 คน
โดยพบว่า 1 ใน 6 ผู้ต้องหา คือนายธีรพงศ์ หรือจิ๋ว ซึ่งมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับสารวัตรซัว และนั่งเป็นกรรมการในเครือบริษัทของสารวัตรซัวหลายแห่ง ซึ่งพลตำรวจเอกดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ร่วมสอบปากคำนายธีรพงศ์ด้วยตัวเองด้วย
ขณะที่นายธีรพงศ์ ปฏิเสธกับสื่อมวลชนก่อนเข้าห้องสอบ ว่า ตัวเองไม่เกี่ยวข้องกับคดีของสารวัตรซัว และไม่รู้จักสารวัตรซัว
โดยต่อมา พลตำรวจเอกดำรงศักดิ์ เปิดเผยว่า ตำรวจมีข้อมูลทางการสืบสวน ชัดเจนว่า นายธีรพงศ์เป็นผู้ถือหุ้นหลายบริษัทที่อยู่ในเครือเป็นต่อกรุ๊ป และยังมีประวัติถูกออกหมายจับในคดีฉ้อโกงเงินแอร์โฮสเตสคนหนึ่ง โดยทางการสืบสวนพบว่า นายธีรพงศ์เข้าไปเกี่ยวข้องในลักษณะมีชื่อเป็นผู้รับเงินจากบัญชีม้า แก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่หลอกลวงเงินจากแอร์โฮสเตส คดีท้องที่ทองหล่อ เมื่อขยายผลเส้นทางการเงิน จึงพบความเชื่อมโยงของนายธีรพงศ์ มีการสั่งจ่ายเงินที่เกี่ยวข้องกับการพนันออนไลน์กว่า 300 ล้านบาทให้กับกลุ่มบุคคลอื่นๆ
ด้าน พลตำรวจโทจิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ระบุว่า กลุ่มบริษัทในเครือเป็นต่อกรุ๊ปส่วนใหญ่ จัดทำบริษัทผลิตเกม , ผลิตโปรแกรม, พัฒนาซอฟต์แวร์,จัดการบัญชี,จดทะเบียนพาณิชย์, จัดการการเงิน และทำการตลาด
ซึ่งผลการตรวจสอบเชิงลึกพบว่า มีบริษัทกว่า 30 แห่งที่อยู่ในเครือเป็นต่อกรุ๊ป มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการพนันออนไลน์ ในเบื้องต้นได้ระงับการดำเนินกิจการไว้ทั้งหมดแล้ว
สำหรับพฤติการณ์เชิงลึกของสารวัตรซัว ในอดีตเริ่มจากการเป็นเจ้าของแพลตฟอร์มหรือเว็บไซต์ขนาดเล็ก จนเริ่มขยายธุรกิจและซื้อซอฟต์แวร์สำเร็จรูปจากต่างประเทศ มาพัฒนาต่อและจัดขายให้กับกลุ่มที่ทำธุรกิจเว็บพนันออนไลน์ และมีในลักษณะแบ่งเปอร์เซ็นต์ด้วย
ข้อมูลที่พบขณะนี้ มีเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกว่า 400 เว็บไซต์ ซึ่งดำเนินการปิดไปแล้วประมาณ 200 เว็บไซต์ ในจำนวนนี้จะมีเว็บไซต์พนันออนไลน์มาเก๊า 888หรือไม่ สันนิษฐานอยู่คนละเครือข่ายกัน แต่ยังอยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผลต่อเนื่อง
ส่วนการติดตามตัวสารวัตรซัวนั้น ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า มีหมายจับร่วมกันฉ้อโกง และร่วมจัดให้มีการเล่นการพนัน แต่ตัวสารวัตรซัว ยังอยู่ในต่างประเทศ
ขณะที่การสืบสวนกรณีมีตำรวจยศ "พลตำรวจโท" นายหนึ่ง เกี่ยวข้องกับสารวัตรซัวอยู่ระหว่างการตรวจสอบ แต่ในเบื้องต้นยังไม่พบความเชื่อมโยง ทั้งพยานฐานและเส้นทางการเงินไปยังสารวัตรซัว แต่ยืนยันหากตรวจสอบพบ ไม่มีละเว้น
สำหรับผลปฏิบัติการการตรวจค้นวันนี้ ตรวจยึดทรัพย์จากผู้ต้องหาได้มากกว่า 100 รายการ อาทิ รถยนต์หรู 3 คัน , โฉนดที่ดินรวมกว่า 440 ไร่ , สมุดบัญชีธนาคารอีก 184 บัญชี , อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ 100 รายการ และยังพบยาเสพติดเป็นยาเค 30 กรัม ในการตรวจค้นที่สมุทรปราการด้วย ซึ่งรวมมูลค่าของกลางทั้งหมด กว่า 1400 ล้านบาท
ขณะที่ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ซึ่งเป็นผู้ให้ข้อมูลและเปิดประเด็นเกี่ยวกับสารวัตรซัว มาร่วมฟังการแถลงข่าวด้วย พร้อมกับเปิดเผยว่า วันนี้มาให้กำลังใจผู้บัญชาการสอบสวนกลาง และ ผบ.ตร.
พร้อมระบุว่า กลุ่มเครือข่ายของสารวัตรซัว น่าจะโดนนานแล้ว เพราะเป็นเครือข่ายระดับโรงงานผลิต และบอกว่าก่อนหน้านี้ตนเองมีหลักฐานที่สารวัตรซัว ได้มีการส่งข้อความเข้ามาถึงเครือข่าย ว่าจะย้ายฐานการผลิตไปต่างประเทศเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกดำเนินคดี