"เต้พระราม7" เชื่อเหมือน 4 คนที่เหลือคดีแตงโม รอดู "ปอ-โรเบิร์ต" รับสารภาพ เพื่อชิมลาง
วันที่ 3 มี.ค. 2566 จากกรณีนายปอ กับโรเบิร์ต กลับคำรับสารภาพคดีแตงโม ศาลนัดฟังคำพิพากษา 10 พ.ค.นี้ ส่วนจำเลยที่เหลืออีก 4 คนยังปฎิเสธ ศาลให้แยกสำนวนฟ้องใหม่นัด 28 เม.ย. ผู้สื่อข่าวได้สอบถามกรณีดังกล่าวกับนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ กล่าวว่า เดิมทีตนไม่คิดว่าทั้ง 2 คนจะสารภาพไว การรับสารภาพก็เป็นไปตามในคดีที่อัยการกับตำรวจสั่งฟ้องตามข้อหา ซึ่งเป็นข้อหาไม่ได้ร้ายแรง ข้อหาประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ให้การเท็จ ถ้ารับสารภาพก็ได้รับการลดโทษกึ่งหนึ่ง เพราะฉะนั้นเขาก็เยียวยาแม่แตงโมไปแล้ว เงินสด 2 ล้าน จ่ายอีกเดือนละ 30,000 บาท และอื่นๆ อีกต่างหาก ถ้าแม่แตงโมไม่ติดใจ เมื่อเขาสารภาพแล้วต้องดูว่าศาลจะวินิจฉัยอย่างไร รอลงอาญามั้ย หรือมีโทษจำคุกเลย เพราะอัตราโทษ 10 ปี อาจจะติดคุกซัก 5 ปี อาจจะไม่รอลงอาญา ไม่แน่ใจ ไม่อาจไปล่วงล้ำดุลพินิจของศาล อันนี้เรียกว่าไม่มีการต่อสู้ดีกว่า รับสารภาพเลย
ส่วนอีก 4 คน ก็ดูก่อนว่า การรับสารภาพนี้จะโดนอัตราโทษเท่าไหร่มากกว่า เหมือนส่ง 2 คนนี้มาชิมลางก่อน และดูว่าระหว่างกำลังจะสู้ต่อ สามารถยอมความรับสารภาพระหว่างสืบพยานศาลชั้นต้นได้ ปอกับโรเบิร์ตเป็นตัวอย่างของ 4 คนที่เหลือ ถ้ายอมความไปแล้วติดคุกเลย 4 คนที่เหลือก็คงไม่ยอม ต้องสู้ต่อ ถ้ารับสารภาพแล้วไม่ต้องไปอุทธรณ์หรือยื่นฎีกาแล้ว เพราะฉะนั้นอะไรก็เกิดขึ้นได้ อย่าเพิ่งชะล่าใจ พฤษภานี้จะตัดสินแล้วว่าจำคุกหรือรอลงอาญา
ส่วนในมุมของตนที่แม่แตงโมได้กล้องหน้ารถ จริงๆ กล้องหน้ารถมันอยู่ในสำนวนมาตั้งนานแล้ว กล้องหน้ารถเป็นช่วงสนทนากันซึ่งขาไปไม่มีอะไร แต่ขากลับจะมีอะไรหรือไม่มีถือเป็นพยานบอกเล่า พยานที่สำคัญจริงๆ ที่แม่แตงโมคิดจะต่อสู้ แม่ต้องเป็นโจทย์ร่วม นำพยานสืบเอง เช่น พยานเรื่องฟันของแตงโมว่าสมบูรณ์มั้ย ต้องหาคนเชี่ยวชาญด้านทันตกรรมมา และหาผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชเกี่ยวกับกะโหลกศีรษะ ว่าทำไมกรามขวาแตงโมบิ่น อีกส่วนหนึ่งคือสภาพฝ่าเท้าของแตงโม ตอนที่ตรวจสอบแล้วมีตะปูทิ่มมั้ยตรงเท้าขวา ส่วนบาดแผลอื่นๆ ควรให้หมอธวัชชัยหรือคุณหมอพรทิพย์มาเป็นพยานอีกที ถ้าคิดจะสู้จริงๆ ต้องเป็นแบบนั้น ใช้หมายเรียกของศาล ตรวจสอบว่า GPS ของเรือเป็นยังไง และ GPS ของมือถือแต่ละคนเป็นยังไง การสนทนาในมือถือก่อนเกิดเหตุครึ่งชั่วโมง และหลังเกิดเหตุ 3-4 ชั่วโมง มีการสนทนากันอย่างไรบ้าง ระหว่างคนบนฝั่งและคนบนเรือ ทีนี้จะได้หลักฐานพยานชัดเจน สมมติถ้าจะสู้จริง ไม่ใช่แบบสู้ไปเจรจาไป
โดยส่วนใหญ่พี่น้องประชาชนก็อยากรู้ว่าแตงโมตายเพราะอะไร ก็ยังไม่เชื่อว่าเป็นการฉี่แล้วตกน้ำตายเอง คุณแม่มีสิทธิ์เรียกร้องค่าเสียหาย แต่การจะเรียกร้องค่าสินไหมควรเรียกในคดีอาญาจบแล้วและสู้จนสุดแล้ว ไม่ใช่เจรจาระหว่างทางแบบนี้ มันเหมือนกับว่าถ้าเขาให้แล้วเราถอนมันก็ไม่เหมาะสม แต่ถ้าคดีนี้มันไม่มีใครรู้ใครเห็น คุณแม่จะทำอะไรก็ได้ ประชาชนต้องการความจริง มันไม่ใช่เฉพาะคดีแตงโม ยังมีอีกหลายคดีที่เป็นตัวอย่างที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมกับกระบวนการยุติธรรม เพราะกระบวนการยุติธรรมตัดสินตามเท่าที่หลักฐานมี ตัดสินเท่าที่พนักงานสอบสวนระบุว่าหลักฐานนั้นใช้ได้หรือไม่ได้เท่านั้นเอง
อยากให้คุณแม่ทำจิตใจดีๆ และหาความจริงให้กับสังคมว่าลูกคุณแม่ตายเพราะเหตุผลอะไร อย่าให้มันคลุมเครือ พยายามสู้ให้เต็มสูบจะเป็นสิ่งที่มันสำคัญ เพราะความจริงจะได้ไม่ตายไปพร้อมกับน้องเขา โดยที่ไม่มีใครรู้ใครเห็นว่าน้องเขาตายด้วยเหตุผลอะไร เรื่องนี้จะฝากคุณแม่แตงโมไว้
รูปคดี ตอนนี้ยังไม่ออกมาเป็นรูปแบบใด แต่ถ้าพลิกล็อกอาจจะไม่รอลงอาญาคือติดคุกเลย ถ้าติดเลยเกมนี้ก็ยาว ทั้ง 4 คนที่เหลือต้องสู้กันให้เต็มที่ ส่วนคุณแม่เองก็ต้องสู้ ใช่ว่าจ่ายเงินแล้ว แต่ถ้าต้องติดคุกด้วยอีก 4 คนก็คงไม่จ่าย คุณแม่ก็ต้องสู้กันต่อยาวๆ จนกว่าจะถึงศาลฎีกา ต้องใช้เวลาอีกหลายปีด้วยกัน ถ้ารูปคดีออกมาว่ารอลงอาญาปอกับโรเบิร์ต อีก 4 คนก็จะรับสารภาพตาม แต่เราไม่สามารถก้าวล่วงได้ว่าศาลจะวินิจฉัยแบบไหน เนื่องจากอัตราโทษมันสูงประมาณ 16-17 ปีด้วยกัน ถ้าลดกึ่งหนึ่งก็ 7-8 ปี อย่างน้อย 4-5 ปีต่ำๆ ตามความรู้ที่ตนมี ตามประสบการณ์ที่มี เพราะฉะนั้น 4 คนนี้จะดูว่า 2 คนแรกโดนยังไงบ้างมากกว่า และถึงจะกำหนดเกมเพื่อการต่อสู้