สลด"อดีตพลเอก" ปลิดชีพตัวเอง คาบริษัทนำเข้าและส่งออกยางรถยนต์ ย่านพุทธบูชา
4 มี.ค. 66 เวลา 08.35 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ราษฎร์บูรณะ รับแจ้งมีเหตุผู้ได้รับบาดเจ็บจากการถูกยิง ภายในซอยพุทธบูชา จึงรีบรุดจัดกำลัง พร้อมประสานอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู เร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุพบเหตุเกิดภายในบริษัทนำเข้าและส่งออกยางรถยนต์ ลักษณะเป็นอาคาร สูง 4 ชั้น จุดเกิดเหตุอยู่ภายในห้องประชุมชั้นที่ 2 ตรวจสอบภายในห้องพบผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชาย 1 ราย ทราบชื่อต่อมาชื่อ พลเอก ภัสสร อิศรางกูร ณ อยุธยา อายุ 66 ปี อยู่ในสภาพนั่งพิงพนักเก้าอี้สีดำ ในลักษณะมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืน บริเวณหน้าอกเหนือราวนมด้านซ้าย 1 นัด ทะลุหลัง มีเลือดไหลออกมาเป็นจำนวนมาก และด้านล่างข้างเก้าอี้ตัวดังกล่าวพบกับปืนลูกโม่ขนาด .38 สีดำตกอยู่ 1 กระบอก ในสภาพการแต่งกายสวมใส่เสื้อเชิ้ตเเขนยาวสีม่วง กางเกงขายาวสีเขียวขี้ม้า สวมใส่รองเท้าแตะแบบสวมสีดำ อยู่ในลักษณะนั่งหายใจรวยรินหมดสติถามตอบไม่ได้ อาสาสมัครจึงทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นภายในที่เกิดเหตุอย่างเร่งด่วนและรีบประสานต่อทางศูนย์การแพทย์ฉุกเฉินในระบบเอราวัณทันที เเละเมื่อเจ้าหน้าที่การแพทย์ฉุกเฉินมาถึงที่เกิดเหตุ ให้การช่วยเหลือโดยการทำ CPR และให้การปฐมพยาบาลอย่างสุดความสามารถพยายามยื้อชีวิตผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างเต็มกำลังและเต็มที่จนถึงที่สุดแล้วก็ไม่สามารถยื้อชีวิตเอาไว้ได้ ต่อมาไม่นานผู้ได้รับบาดเจ็บเสียชีวิต เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำการประสายต่อที่ แพทย์นิติเวชศิริราช และ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานให้เข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
และจากการสอบถามนาย เฉลิมศักดิ์ เจริญสุข อายุ 39 ปี บอกเล่าว่า ตนมาส่งแฟนที่ทำงานพอกลับออกไปสักพัก แฟนโทรมาบอกว่า มีคนโดนปืนลั่นเลยรีบมาตรวจสอบและแจ้งอาสาและกู้ชีพมาช่วยเหลือ พอมาถึงก็พบว่ามีคนได้รับบาดเจ็บจากกระสุนปืนที่หน้าอกซ้าย นอนหายใจรวยรินอยู่กับพื้นภายในห้อง พออาสาและกู้ชีพมาถึงก็เร่งปฐมพยาบาลโดยการปั้มหัวใจ แต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ ทางกู้ชีพยืนยันเสียชีวิตแล้ว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบจากสภาพแวดล้อมภายในสถานที่ดังกล่าวแล้วเเละตรวจสอบจากอาวุธปืนที่พบในที่เกิดเหตุ พบเป็นปืนลักษณะเป็นปืนลูกโม่ ยี่ห้อสมิท ขนาด .38 สีดำ พบลูกกระสุนอยู่ในรังเพลิง 6 นัด ใช้ยิงไปแล้ว 1 นัด จึงนำเก็บเอาไว้เป็นหลักฐานประกอบสำนวนคดี ส่วนสาเหตุของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุที่แน่ชัด ต้องรอผลชันสูตรศพ อีกครั้งก่อนที่จะสรุปผลได้ จึงมอบหมายให้อาสาสมัครนำร่างผู้เสียชีวิตไปตรวจสอบอย่างละเอียดที่นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช และจะให้ญาตินำเอกสารไปติดต่อขอรับร่างผู้เสียชีวิตนำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป