ป้าเชื่อ "น้องต่อ" ยังมีชีวิตอยู่ สังเกตจากแม่ไม่รู้ร้อนรู้หนาว "อ.เจ" ชี้วันนี้วันแรงสิ่งศักดิ์สิทธิ์เปิดให้หาเจอ

จากกรณีการหายตัวไปของ "น้องต่อ" เด็กชายวัย 8 เดือน ซึ่งหายตัวภายในบ้านพัก ซึ่งต่อมา "นิ่ม" แม่ของน้องต่อได้สารภาพว่าได้ทำลูกตกจนเสียชีวิตและนำไปทิ้งเพื่อปกปิดความผิด แต่กรณีนี้ยังไม่จบง่ายๆ เมื่อมีคนบางส่วนไม่เชื่อ

ล่าสุด (4 มี.ค.66) อาจารย์เจ จักรรินทร์ ผู้ที่เคยชี้เบาะแส ในคดีแตงโม เข้าไปยังจุดที่มีการ ขุดดินขึ้นมาจากคลองท่อ เผยว่า วันนี้เป็นวันแรง และใกล้จะเป็นวันพระใหญ่ (มาฆบูชา ) โดยดูจาก วันและเวลาแล้ว และหลังจาก ทำพิธีมาตั้งแต่แรกๆ พื้นที่บริเวณน้ำเปิดทางให้หมดแล้ว หากน้องจะขึ้นมาก็สามารถขึ้นมาได้ ไม่มีอะไรดื้อไว้ ซึ่ง อาจารย์เจพูดมาตลอดว่าน้องน่าจะไม่มีชีวิตแล้ว แต่ตอนนี้ สัมผัสได้ว่ามีครึ่งท่อน ในเร็ววันนี้ ยังไงเจ้าหน้าที่ก็ค้นหาเจอร่างน้องแน่นอน

ส่วนตัววันนี้รู้สึกหนักบ่าข้างขวาเป็นพิเศษเหมือนมีใครมาเกาะมาพิมพ์ตลอดเวลา น้องน่าจะสื่อสารอะไรบางอย่าง

จากนิมิต สัมผัสได้ว่า น้องต้องการที่อยู่ โดยอาจารย์เจ พร้อมทำพิธีเชิญน้องขึ้นมาจากน้ำ (อาจจะต้องหารูปปั่นเด็ก หรือกุมาร มาเป็นตัวแทนน้อง แต่ อาจารย์เจ ยังไม่อยากทำพิธีช่งงนี้ เพราะกลัวว่า ชาวบ้านจะว่างมงาย หรือจะหาว่า สะกดวิญญาณเด็ก


อาจารย์เจ บอกอีกว่า อยากให้ดูพิกัด ตรงหลังบ้านพุด(พ่อเด็ก) ซึ่งสามารถเดินไปยังริมน้ำได้ จุดดังกล่าว อาจจะเป็นไปได้หรือไม่ เพราะเป็นจุดที่ใกล้บ้านพุด แต่ด้วยความที่แม่เด็กไม่ได้รับสารภาพในจุดดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงยังไม่ทำการค้นหา

 

ขณะที่ รัศมี แสงสว่าง ป้าของเด็ก เผยว่า จนถึงวันนี้ตนก็ยังไม่เชื่อว่าแม่เด็กพูดความจริง และตนก็ไม่ได้ติดต่อกับแม่เด็กเลย ส่วนตัวเชื่อว่าหลานยังมีชีวิต (ถ้าคิดในทางที่แย่ที่สุด คือ การส่งตัวเด็กไปขายแล้ว ตอนนี้เด็กน่าจะไปไกลแล้ว) ซึ่งที่คิดแบบนั้น เพราะมองว่า ตัวแม่ยังปกติ ไม่รู้ร้อนรู้หนาว ไม่เสียใจ และใช้ชีวิตปกติ กลับกันถ้านึกถึงหัวอกคนเป็นแม่จะต้องเดือดเนื้อร้อนใจ มาเฝ้าเจ้าหน้าที่ทำงานหรือให้การตามความเป็นจริงเพื่อจะหาร่างของลูกให้เจอ

 

แม้ว่าพ่อจะตัดขาดกับแม่เด็กแล้ว แต่ตนขอรอความจริงและความชัดเจนก่อนว่าหลานยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ เพราะตนยังเชื่อว่าสิ่งที่แม่เด็กให้การ คือการอ้างให้ตัวเองหลุดพ้นความผิดไป ประกอบกับที่ผ่านมาน้องชายตน (พุด) ยอมและรักเมียมาก จึงยังรู้สึกว่าสิ่งที่แม่เด็กให้การว่า ทำลูกเสียชีวิต ไม่กล้าบอกความจริงกับสามี เพราะกลัวว่าสามีจะซ้อม และตบตี แต่ในความเป็นจริงน้องชายตนไม่เคยแม้แต่จะทำร้ายร่างกายเมียเลย อยากฝากไปบอกแม่เด็กว่าให้พูดความจริงออกมาได้แล้ว คนอื่นจะได้ไม่เหนื่อย ไม่เดือดร้อน

 

ส่วน ย่าเด็ก เอง ที่เห็นว่าไม่ค่อยได้ออกสื่อเลยหลังจากที่ด่าแม่เด็กไปในช่วงแรกๆ ป้าเด็กบอกว่า ย่าไม่ได้อยู่บ้าน ในจุดที่ค้นหาเด็ก ย่าอยู่บ้านอีกที่นึง ย่าทำงานทุกวัน แต่ก็แสดงความเป็นห่วงเป็นใยถามอยู่ตลอดว่า หาเด็กเจอหรือยัง? คนมนครอบครัวบ้านพุด ตั้งตารอให้เจอเด็กทุกวัน

 

ส่วนตัวทางครอบครัวยังไม่ได้คุยกับพุดเพราะว่าทางเรือนจำยังไม่ได้ให้เข้าเยี่ยม เลยไม่ได้ติดต่อสอบถามพุทธอีกเลย

 

ป้าเด็กบอกอีกว่า ตนเองเห็นใจเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ต้องมาช่วยค้นหาร่างน้องอย่างไม่มีจุดหมาย เพราะจุดหมายจาก คำสารภาพของนิ่ม มองว่าเป็นคำโกหก นิ่มอาจจะประวิงเวลาให้เจ้าหน้าที่โฟกัสและเสียเวลากับทางน้ำ แต่จริงแล้วเด็กอาจจะไปไกลกว่านี้แล้ว