"หนุ่มต่างชาติ" แจ้งความกองปราบถูก"การ์ดผับย่านข้าวสาร" จับใส่กุญแจมือ-ตบหน้า กล่าวหาขโมยน้ำดื่ม

จากกรณีสื่อสังคมออนไลน์ เผยแพร่คลิป ขณะที่พนักงานรักษาความปลอดภัยของผับแห่งหนึ่ง ในถนนข้าวสาร ใส่กุญแจมือนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ซึ่งในคลิปมีการถกเถียงกันเรื่องการขโมยน้ำดื่ม โดยชายชาวต่างชาติพยายามปฏิเสธ ก่อนที่จะถูกตบหน้า 2 ครั้ง และมีคนมาห้าม โดยหลังคลิปถูกเผยแพร่ออกไป เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมาก ต่อมาเพจเฟซบุ๊กของร้านดังกล่าวได้ออกมาโพสต์ภาพหนังสือขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมระบุข้อความว่า "ได้ดำเนินคดีกับพนักงานทั้ง 2 คน พร้อมไล่ออกทันที" เหตุเกิดเมื่อวันที่ 25 ก.พ. 2566

 

วันนี้ (5 มี.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น. ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (กองปราบ) ดร.เกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี ทนายความ ได้พา นาย ร็อดริก ดับบลิว คาร์คัฟ สัญชาติอเมริกัน ผู้เสียหาเข้าพบ พงส.บก.ป.แจ้งความเอาผิดเจ้าของผับและการ์ดที่จับใส่กุญแจมือแล้วทำร้ายร่างกาย 2 คน ส่วนเรื่องที่ไม่ได้เข้าแจ้งความ สน.ชนะสงคราม เพราะเกรงว่าจะไม่ปลอดภัยและไม่ได้รับความเป็นธรรม

 

นายร็อดริก ดับบลิว คาร์คัฟ กล่าวว่า เหตุเกิดเมื่อคืนวันศุกร์ที่24 ก.พ. ต่อเนื่องวันที่ 25 ก.พ. เวลาประมาณ 02:00น. ตัวเอง น้องชายและเพื่อนผู้หญิงสองคนไปเที่ยวสถานบันเทิงแห่งนี้ ซึ่งขณะนั้นทางเพื่อนได้สั่งเบียร์มาดื่ม2ขวด โดยบาร์เทนเดอร์ได้ยื่นน้ำเปล่าให้ด้วย ตัวเองนึกว่าน้ำฟรีจึงถือกลับโต๊ะ ต่อมาปรากฏว่าทางการ์ดได้เดินมาเรียกตัวเองไปคุยโดยพาไปเจรจาอีกห้อง มีการล็อคกุญแจมือ และทำร้ายร่างกายตบหน้าประมาณ 2-3ครั้ง ก่อนใช้มีดยาวข่มขู่ โดยกล่าวหาว่าตัวเองขโมยน้ำดื่มมา หลังจากวันเกิดเหตุเพื่อนได้แนะนำให้ตัวเองปรึกษาทนาย ก่อนเข้ามาแจ้งความในวันนี้ ยืนยันว่าที่ตัวเองนำน้ำดื่มกลับมาเป็นเพราะคิดว่าบาร์เทนเดอร์ให้ฟรีเนื่องจากในต่างประเทศเมื่อซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แล้ว บาร์เทนเดอร์มักให้น้ำเปล่ามาฟรีด้วยจึงคิดว่าประเทศไทยก็น่าจะเหมือนกัน ยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาขโมยอย่างแน่นอนเนื่องจากตัวเองมีเงิน ส่วนประเด็นที่มีข่าวว่า พบยาเสพติดในวันเกิดเหตุ ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ตัวเองไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดมาก่อน

 

นาย ร็อดริก ดับบลิว คาร์คัฟ กล่าวว่า ว่าตัวเองเข้ามาทำอาชีพครูสอนภาษาที่ประเทศไทยกว่า2ปี แล้วกลับไปทำงานเป็นช่างปะปาที่สหรัฐอเมริกา โดยกลับมาเที่ยวที่ประเทศไทย ช่วงเดือนมกราที่ผ่านมาและมีกำหนดจะกลับในเดือนเมษายน บอกว่าที่ผ่านมา ตัวเองประทับใจในประเทศไทย ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้กระทบกับความรู้สึกของตัวเองที่รักเมืองไทยและรักคนไทยเหมือนเดิม

 


ด้านเกรียงศักดิ์ทนายความ บอกว่าแต่วันนี้ที่มาแจ้งความ ในส่วนของการ์ด จะแจ้งความในข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยว ทำร้ายร่างกาย และพกพาอาวุธมีด อีกทั้งอยากให้ตำรวจตรวจสอบว่าสถานบันเทิงดังกล่าวมีการเปิดให้บริการเกินที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ ยืนยันหลังจากเกิดเหตุทางร้านไม่เคยติดต่อกลับไปหาผู้เสียหายเลย

 

ขณะที่วันนี้ทาง นายประสิทธิ์ สิงห์ดำรงค์ ทนายความของทางร้าน พร้อมด้วย นายสง่า เรืองวัฒนกุล นายกสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจถนนข้าวสาร ได้เดินทางมารอเจราไกล่เกลี่ย เพิ่มแสดงความรับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้นโดยบอกว่าที่ผ่านมาพยายามติดต่อหาผู้เสียหายแต่ไม่สามารถติดต่อได้ เมื่อรู้ว่าวันนี้ทางผู้เสียหายจะเข้ามาแจ้งความจึงรีบมารอขอเจรา

 

นายสง่า นายกสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจถนนข้าวสาร บอกว่าหลังเกิดเหตุได้พูดคุยกับกลุ่มการ์ดผู้ก่อเหตุ บอกว่าเป็นความเข้าใจผิดคิดว่านักท่องเที่ยว จะขโมยน้ำดื่ม แต่ก็ยอมรับว่ามีการใส่กุญแจมือซึ่งเป็นการทำเกินกว่าเหตุ ซึ่งหลังเกิดเหตุได้เรียกเจ้าของร้านมาทำความเข้าใจมาตรการ โดยมีการสั่งปิดสามวันตามที่ทำข้อตกลงกันไว้ในมาตรการ

 

นายประสิทธิ์ ทนายของร้าน บอกว่า ทางร้านไม่ได้ละเลยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังเกิดเหตุทางร้านได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน พร้อมไล่การ์ดชุดที่ดูแลความปลอดภัยวันเกิดเหตุออก6คน รวมทั้งผู้จัดการร้านอีก1คน จากการตรวจสอบยืนยันว่าการ์ดไม่ได้ใช้อาวุธมีดก่อเหตุตามที่นักท่องเที่ยวอ้าง ส่วนเรื่องการใช้กุญแจมือปกติจะต้องเป็นการ์ดที่ผ่านการอบรมจึงจะใช้ได้ แต่การ์ดชุดนี้ใช้กุญแจมือโดยพลการ