วันที่ 6 มี.ค.66 สืบเนื่องจากกรณีที่มีพนักงานรักษาความปลอดภัยที่มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรปราการ ถูกชายหนุ่มลงจากรถมาทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ โดยที่ผู้ใช้เฟสบุ๊ก ชื่อ อชิตะ สตูดิโอ ซึ่งเป็นผู้เผยแพร่คลิปวิดีโอดังกล่าว พร้อมลงข้อความว่า "เมื่อวานไรเดอร์ใช้ปืนตบลุง รปภ. อายุ 70 วันนี้มีเด็กแว๊นตบ รปภ. จนหมวกกระเด็น เพียงเพราะรปภ. เตือนให้ขับรถช้าลง ใน ม.เอแบค ห้าวเป้งนักเลงโตแบบนี้ลองไปเจอ รปภ. สายใต้ หรือ รปภ. หมอชิตดูหน่อยไหมจร้า กลิ้งเป็นลูกขนุนแน่ ๆ ช่วยกันตามหน่อยมันเป็นไผ ต่อยตีคนได้ตามใจเหรอ เมืองไทยกฎหมายมันเบาจริง ๆ" ทั้งนี้หลังจากคลิปวิดีโอดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ออกไป ก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นกับเหตุการณ์ดังกล่าว
โดยวานนี้ (5 มี.ค.66) เวลา 16.30 น. ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังมหาวิทยาลัยที่เกิดเหตุ แต่เจ้าหน้าที่ รปภ. คนที่อยู่ในคลิปดังกล่าวไม่สะดวกให้สัมภาษณ์ เพียงแต่เล่าเหตุการณ์ให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงสายของวันที่ 24 ก.พ.66 ที่ผ่านมา ระหว่างที่ รปภ. ชื่อโชค (นามสมมติ) อายุ 53 ปี (ผู้บาดเจ็บ) กำลังยืนโบกรถอยู่ที่แยกภายในมหาวิทยาลัย โดยได้ใช้นกหวีดเป่าในการโบกรถ ขณะนั้นผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นชายหนุ่มอายุประมาณ 25-30 ปี จอดรถรอสัญญาณอยู่ ขณะนั้นเอง เจ้าหน้าที่ รปภ. ผู้บาดเจ็บ รู้สึกคันหูจึงใช้มือข้างหนึ่งเกาหู จู่ ๆ ชายหนุ่มผู้ก่อเหตุก็ลงมาจากรถและ ตรงเข้าทำร้ายร่างกาย รปภ. จนได้รับบาดเจ็บตามคลิปที่เป็นประเด็นข่าว ซึ่งจากการสอบถามสาเหตุว่าทำร้ายร่างกายของ รปภ. รายนี้ทำไม ชายหนุ่มคนดังกล่าว อ้างว่า รปภ. ทำท่าทางท้าทายยั่วยุทำให้ตนเองเกิดอารมณ์โมโหจึงลงมือทำร้ายร่างกาย
เบื้องต้นผู้จัดการของมหาวิทยาลัยฯ ได้พา รปภ. ผู้บาดเจ็บรายนี้ เข้าแจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจภูธรบางเสาธง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกตัวผู้ก่อเหตุเข้ามาสอบสวนและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ส่วนชายหนุ่มผู้ก่อเหตุก็ได้เข้าแจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจภูธรบางเสาธงเช่นกัน กล่าวอ้างว่าถูกเจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัยชื่อดังกักขังหน่วงเหนี่ยวตน ไว้ หลังจากก่อเหตุ
ล่าสุดทางเพจอีซ้อขยี้ข่าว2 ได้ระบุความคืบหน้าผ่านเพจว่า "อ้าว...ไอ้หน้าหล่อที่ไปชก รปภ.ในมหาลัยเกิดหน้าบางกลัวเสื่อมเสียแต่ตอนไปสาวหมัดต่อยเค้าก่อน ตอนทำเรื่องแย่ๆ เก่งเหลือเกิน
ต่อไปใครที่เห็นเรื่องที่มันไม่ถูกต้องแล้วถ่ายคลิปเพื่อนำมาโพสต์ ถ้าโดนขู่ให้ลบคลิปออกไม่งั้นจะแจ้งความดำเนินคดี "ไม่ต้องกลัว" ยิ่งถ้าเป็นคดีอาญาใหญ่ ๆ หลักฐานพวกนี้ดีกว่าพยานบุคคลที่อาจคลาดเคลื่อน โดยเฉพาะคดีแพ่ง พวกคลิปแอบถ่ายจะมีประโยชน์มากเวลาใช้ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายอีกด้วย..."