ตำรวจ คุมตัวผัวเมายามาเค้นสอบ หลังอ้างว่า เมียป่วยชักเกร็ง แล้วเสียชีวิตในบ้านพัก แต่สภาพศพกลับพบเนื้อตัวช้ำ ตำรวจจึงไม่ปักใจเชื่อ สุดท้ายผัวยอมรับทำร้ายเมียจริง แต่มั่นใจไม่ได้ทำร้ายเมียตาย
เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบร่าง นางสาวปัญจทร หรือ อุ่น อายุ 42 ปี อาชีพพนักงานโรงงานผลิตบานพับประตู หลังถูกพบนอนเสียชีวิต ในเพิงพักสังกะสี ริมบ่อน้ำ ในซอยทวีวัฒนา 1 เขตทวีวัฒนากรุงเทพมหานคร จากนั้น ตำรวจ สน.หนองค้างพลู ได้เชิญตัว นายมนตรี อายุ 41 ปี หรือ บอย สามีผู้ตาย ซึ่งทำงานเป็นรปภ.บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง มาสอบสวน หลังเป็นคนแจ้งขอความช่วยเหลือ โดยอ้างว่า เมียป่วยเป็นไข้มาหลายวันแล้ว และมีอาการชักเกร็ง จนแน่นิ่ง แต่ไม่ยอมไปหาหมอ ตนต้องโทรไปโรงพยาบาล เพื่อขอความช่วยเหลือ ให้พาไปรักษา แต่ก็ไม่ทัน เมียได้เสียชีวิตก่อน
แต่ตำรวจไม่เชื่อคำให้การ เนื่องจากพบบาดแผลฟกช้ำตามใบหน้า และ ตามลำตัวของผู้ตายเป็นจ้ำ ช้ำไปทั่ว จึงเค้นสอบ จนสารภาพว่า ก่อนหน้านี้ เมียหนีไปนอนพักกับญาติ เพราะทะเลาะกันบ่อย กระทั่งเมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา ตนไปง้อขอให้กลับมาอยู่ด้วยกัน และ ด้วยความที่ตนขี้หึง จึงชวนทะเลาะ และ ลงไม้ลงมือตบตีไปหลายครั้ง แต่มั่นใจว่า ไม่ได้เป็นสาเหตุให้เมียตาย เพราะตอนเช้าก็ยังคุยกันดีๆ จนเมียหลับไป และไม่ฟื้นขึ้นมาอีกเลย
ขณะที่ นางประนม หงษ์เจริญ อายุ 83 ปี ย่าของผู้ตาย ได้เดินทางมาติดตามคดี เล่าว่าหลานหายไปจากบ้าน 4 วัน และติดต่อไม่ได้ พอรู้ว่าเสียชีวิต ก็รีบมาดูศพ ส่วนตัว ไม่รู้เรื่องว่า หลานคบหากับนายบอยเลย แต่ช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เห็นหลานถูกซ้อม มีรอยบีบคอ จนต้องนอนโรงพยาบาลหลายวัน ตนจะไปแจ้งตำรวจเอาผิดคนทำ หลานก็บอกว่า ไม่ให้เอาเรื่อง จึงปล่อยไป ระหว่างให้สัมภาษณ์ ย่าก็เดินเข้าไปในห้องสอบสวน เพื่อดูหน้านายบอย เพื่อจะถามว่า มาทำหลานจนเสียชีวิตทำไม ตำรวจก็ต้องรีบเข้าห้าม เพราะกลัวกระทบกระทั่งกัน โดยนายบอย ก็ยังปฏิเสธว่า ไม่ได้ฆ่า
ย่า ยอมรับว่า หลานสาว มีโรคประจำตัว เป็นลมชักก็จริง แต่ไม่น่าจะเป็นเหตุให้เสียชีวิตแบบนี้ เพราะใบหน้าก็บวมปูด เนื้อตัวฟกช้ำพร้อมบอกด้วยว่า เพื่อนลูกชาย ได้เล่าให้ฟังว่า เมื่อ 3 วันก่อน เห็นนายบอย ตบตี หลายคนอย่างรุนแรงจนตกน้ำ จนต้องแจ้งตำรวจไประงับเหตุ ไม่คิดว่า ครั้งนี้ จะทำหลานตน จนถึงขั้นเสียชีวิต ส่วนตัว ไม่อโหสิกรรมให้แน่นอน และ อยากให้ตำรวจเอาผิดให้ถึงที่สุด
เบื้องต้น ตำรวจตรวจสารเสพติดนายบอย พบมีการเสพไอซ์เข้าไป จึงแจ้งข้อหา เสพยาเสพติด หลังจากนี้ จะรอผลชันสูตรจากแพทย์ มาประกอบ เพื่อเตรียมแจ้งข้อหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย