"นิ่ม" เปิดใจกับพ่อ "หนูโกหกมามากพอแล้ว" ยันทิ้งร่าง "น้องต่อ" ลงคลองท่อจริง หลัง จนท. เริ่มท้อปูพรมค้นหาทุกทางที่ทำได้ แต่ไร้เบาะแสและวี่แวว ด.ช. 8 เดือน
วันที่ 9 มี.ค.66 ความคืบหน้ากรณี "น้องต่อ" เด็กชายวัย 8 เดือน ที่หายตัวไปปริศนา ก่อนที่แม่ของเด็กจะยอมรับว่าโยนน้องทิ้งลงคลองท่อ
ล่าสุดวันนี้ (9 มี.ค.66) ทีมข่าวช่อง8 ได้เกาะติดสถานการณ์ โดยวันนี้เข้าสู่วันที่ 33 ของการติดตามค้นหาตัวน้องต่อแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ก็ยังไม่พบเบาะแสหรือหลักฐานที่ยืนยันว่าน้องถูกทิ้งลงไปในคลองท่อแต่อย่างใด
โดยเจ้าหน้าที่ที่มาร่วมค้นหาหลายคน บอกว่าที่ผ่านมา ทีมค้นหาเน้นการค้นหาบริเวณปากคลองท่อและแม่น้ำท่าจีน หลังแม่เด็กอ้างว่าว่าโยนลูกลงน้ำบริเวณปากคลองท่อ ที่ผ่านมาทั้งกู้ภัยและตำรวจลงค้นหาทางน้ำทุกตารางนิ้ว
ขณะที่การค้นหาภาคพื้นดิน ได้มีการสแกนพื้นที่ในหมู่บ้าน นอกหมู่บ้านอย่างละเอียด แต่ก็ยังไม่พบเบาะแสเพิ่มเติม ยอมรับว่าตอนนี้เคว้ง เพราะหาทั้งทางน้ำและภาคพื้นดินยังไม่พบเบาะแส แต่ยังไม่ท้อในการค้นหาเบาะแส เนื่องจากตำรวจบอกให้ค้นหาต่อ ไม่ยอมยุติ จนกว่าจะเจอหลักฐานเด็กเพิ่ม โดยในวันนี้เจ้าหน้าที่ก็เตรียมวางแผนหารือแนวทางค้นหาและเตรียมประสานให้ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบดินบางส่วนที่ถูกตักขึ้นมาพักไว้บริเวณริมคลองท่อ เพื่อหาหลักฐานภายในดินเพิ่มเติม
ต่อมาทีมข่าวช่อง8 เดินทางไปที่บ่อเลี้ยงปลา ซึ่งเป็นบ้านพักของแม่เด็กตอนนี้ ทีมข่าวพบเพียงนางมาลัย ยายของแม่เด็ก บอกว่าไม่ได้กังวลกับคดีที่เกิดขึ้น
โดยก่อนหน้านี้ทราบว่าตำรวจได้หลักฐานจากการค้นหาทางน้ำวานนี้ (8 มี.ค.66) คือ แพมเพิร์สไซส์เล็ก 3 ชิ้น, เสื้อของเด็กเล็กอายุประมาณ 5-8 เดือน แต่ยังไม่สามารถระบุสีได้เนื่องจากซักผ้าเปื้อนโคลน, และผ้าขนหนูเด็กสีเขียว แต่ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นของน้องต่อจริงหรือไม่ ทั้งนี้แม่น้องต่อบอกกับตนเองว่าอยากไปดูหลักฐานว่าเป็นของลูกหรือไม่ และอยากให้เจอร่างน้องต่อ เพื่อนำมาประกอบพิธีทางศาสนา ส่วนท่าทีตอนทราบเรื่องเจอหลักฐาน แม่เด็กไม่ได้ตกใจ มีท่าทีนิ่งเฉย
ต่อมาทีมข่าวโทรศัพท์ไปพูดคุยกับทาง พ่อของแม่เด็ก บอกว่า ตอนนี้ลูกมาตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งที่ผ่านมาลูกสาวก็ยังมีอาการเครียดบ้าง ตนเองพยายามสอบถามตลอด เพราะทำไมถึงไม่เจอหลักฐานสักที หากมีการทิ้งร่างน้องต่อในคลองท่อจริง แต่ลูกสาวก็ยืนยันว่าโกหกมามากพอแล้ว พร้อมบอกว่าเรื่องที่ทิ้งน้องในคลองท่อเป็นเรื่องจริง
แต่เมื่อถามว่าพ่อเชื่อคำพูดของลูกสาวหรือไม่ พ่อบอกว่าเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง เพราะยังไม่เจอหลักฐานอะไรที่ยืนยันว่าเป็นตัวน้องเลย ส่วนเสื้อที่พบเมื่อ 2 วันก่อน ตอนนี้ตำรวจยังไม่มีการนำมาให้ดู คาดว่าอยู่ระหว่างส่งไปตรวจสอบอย่างละเอียด