โซเชียลแชร์ว่อน ! คนเดียวมีบัตรประชาชน 7 ใบ ด้าน "อธิบดีกรมการปกครอง" เต้นสั่งสอบด่วน ย้ำปลอมแปลงเอกสารโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 5 ปี ขณะนายอำเภอเชื่อปลอมทั้งหมด เจ้าของตัวจริงเพิ่งทำบัตรใหม่เดือนม.ค.66

9 มี.ค. 66 นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ อธิบดีกรมการปกครอง เปิดเผยถึงกรณีบุคคลตามภาพถ่ายที่ปรากฏว่ามีบัตรประชาชนหลายใบและมีชื่อที่แตกต่างกันถึง 7 ใบ ซึ่งกรมการปกครอง ในฐานะสำนักทะเบียนกลาง ได้มอบหมายให้สำนักบริหารการทะเบียน ตรวจสอบฐานข้อมูลสำนักทะเบียนกลาง ทะเบียนบัตรประจำตัวประชาชนแล้วพบว่า บุคคลตามภาพถ่ายตามหลักฐานทางทะเบียนและข้อมูลการขอมีบัตร ชื่อ นายภาคิน โดยในกรณีดังกล่าว เป็นการปลอมแปลงบัตร ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับข้อมูลในฐานข้อมูลระบบการจัดทำบัตรประจำตัวประชาชนของกรมการปกครองแต่อย่างใด เป็นการใช้ชื่อบุคคลอื่นกระทำการปลอมแปลงบัตรขึ้นมาเอง โดยกรมการปกครองจะมีหนังสือแจ้งจังหวัดกาญจนบุรีซึ่งเป็นนายทะเบียนท้องที่ดำเนินการจัดทำหนังสือกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองกาญจนบุรี เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป


“การดำเนินการปลอมแปลงรายละเอียดชื่อในบัตรประจำตัวประชาชน เป็นการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 265 ผู้ใดปลอมเอกสารสิทธิ หรือเอกสารราชการ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 5 ปี และปรับตั้งแต่ 10,000 – 100,000 บาท” นายแมนรัตน์ฯ กล่าว

ขณะที่ นายธนณัฏฐ์ ศรีสัตน์ นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า บัตรประชาชนทั้ง 7 ใบเป็นบัตรปลอมทั้งหมด และจากการเข้าไปดูในฐานข้อมูลไม่มีเช่นกัน ถามว่าเมื่อเป็นเช่นนี้ทางอำเภอจะดำเนินการอย่างไรนั้น เรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นที่เรา และทราบมาว่าคนที่นำบัตรไปหลอกลวงอยู่ทางภาคเหนือ ที่อาจจะเกี่ยวข้องกับขบวนการคลอเซนเตอร์ที่หลอกลวงประชาชน ซึ่งขอแจ้งให้สื่อมวลชนทราบว่าปัจจุบันการทำบัตรประชาชนมันสามารถไปทำได้ในทุกสำนักทะเบียนทั่วประเทศ เมื่อเห็นบัตรประชาชนดังกล่าวเป็นคนเมืองกาญจนบุรี นักข่าวหรือประชาชนเข้าใจว่าอำเภอเมืองกาญจน์จะมีการทุจริต ซึ่งความจริงแล้วมันไม่ใช่อย่างนั้น เพราะถ้าหากมีการทุจริตจริงเมื่อกดเข้าไปดูในฐานข้อมูลก็จะรู้ได้เลยว่าบัตรประชาชนออกมาจากสำนักเบียนไหน และจากการตรวจสอบบัตรดังกล่าวพบว่าบุคคลดังกล่าวบ้านอยู่เทศบาลตำบลลาดหญ้า แต่เจ้าของมาทำบัตรที่เทศบาลเมืองกาญจนบุรี เมื่อทราบข่าวดังกล่าวตนก็เป็นห่วงว่าเจ้าหน้าที่ของเรามีการทุจริตหรือไม่ จริงรีบทำการตรวจสอบโดยด่วนแต่ก็ไม่พบการทุจริตแต่อย่างใด

 

สำหรับเจ้าของบัตรตัวจริงชื่อนายภาคิน อายุ ที่อยู่ เลขบัตรประชาชน ตรงกัน แต่ในบัตรที่ปลอมขึ้นมา มีการเปลี่ยนรหัสเลข 13 หลักสลับกันไปมา รวมทั้งชื่อนามสกุลในบัตรทั้ง 7 ใบก็ไม่เหมือนกันด้วย สรุปแล้วต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบว่าใครเป็นคนปลอมแปลงเอกสารบัตรประชาชนจำนวนดังกล่าว โดยเจ้าของบัตรตัวจริงได้ไปทำบัตรประชาชนล่าสุดเมื่อเดือนมกราคม ปี 2566 ที่ผ่านมาที่เทศบาลเมืองกาญจนบุรี เนื่องจากบัตรหมดอายุ และรูปในบัตรเป็นรูปหน้าเจ้าของบัตรในปัจจุบัน ถามว่าในกรณีนี้ทางอำเภอจะต้องไปร้องทุกข์กล่าวโทษหรือไม่นั้น เพราะกรณีนี้อำเภอเมืองกาญจนบุรีของเราไม่ใช่ผู้เสียหาย เพราะตามที่นำเรียนสื่อมวลชนไปแล้วว่าบัตรประชาชนในปัจจุบันสามารถเดินทางไปทำได้ในทุกสำนักทะเบียนทั่วประเทศ และหากใครนำบัตรคนอื่นไปใช้ในทางเสียหาย เจ้าของบัตรตัวจริงจะเป็นผู้เสียหายโดยตรง แต่ถ้าหากเราตรวจสอบอย่างละเอียดแล้วพบว่ามีการปลอมแปลงบัตรประชาชนจริง กรมการปกครองจะเป็นผู้เสียหายไม่ใช่อำเภอเป็นผู้เสียหาย