"แรมโบ้" ชำแหละยับ "เพื่อไทย" นโยบายไร้รูปธรรม หยัน "อุ๊งอิ๊งค์" หาความสามารถไม่เจอ ฝากถึง "เศรษฐา" เก่งขายบ้าน แต่นี่ประเทศไทย ชี้จะกวาดส.ส. 310 ที่นั่ง อาจเป็นจริงแค่ในความฝัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 10 มีนาคม นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร หรือ 'อุ๊งอิ๊งค์' ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย และบุตรสาว นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่หนีคุกหนีคดีอยู่ต่างประเทศประกาศ ว่าเลือกตั้งพรรคเพื่อไทยจะได้ ส.ส. 300 ที่นั่ง เป็นรัฐบาลเพียงพรรคเดียว
นายเสกสกล กล่าวว่า เป็นเรื่องปกติทางการเมืองอยู่แล้ว เพราะเมื่อถึงการเลือกตั้ง แต่ละพรรคการเมืองก็ล้วนมีความคาดหวังมี การตั้งเป้าหมาย จำนวนผู้แทนราษฎร หรือ ส.ส. เข้าไปทำหน้าที่ในสภา คาดหวังจะจัดตั้งกันเป็นรัฐบาลกันทุกพรรคอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตามความคาดหวังและการตั้งเป้าหมายนั้นต้องยืนอยู่บนตรรกะเหตุผลและข้อเท็จจริง ไม่ว่าจะเป็นความพร้อมของพรรค นโยบายของพรรค พอที่จะสามารถดึงดูดพี่น้องประชาชนให้ตัดสินใจเลือกส.ส.และพรรคการเมืองนั้นๆหรือไม่
นายเสกสกล กล่าวว่าสำหรับพรรคเพื่อไทยนั้น สภาพวันนี้ต่างจากพรรคไทยรักไทย ในอดีตที่เคยชนะเลือกตั้งเมื่อปี 2548 แบบแลนด์สไลด์ ได้ส.ส. 377 ที่นั่ง แต่นั่นก็ทั้งกวาดทั้งต้อน ทั้งดูดทั้งต้อน ใช้อำนาจรัฐสารพัดรูปแบบเพื่อเอาส.ส. จากพรรคการเมืองต่างๆ เข้าไปไว้ในคอกดูดกันแบบยกคอกยกพรรคกันเลยทีเดียว จนชนะถล่มทลาย ตามประสงค์ของเจ้าของคอกขณะนั้น
"แต่สภาพของพรรคเพื่อไทยวันนี้อ่อนเปลี้ยเพลียแรง บรรดาผู้ที่เคยถูกกวาดต้อนเข้าคอกไทยรักไทย มาพลังประชาชน วันนี้ตาสว่าง รู้เช่นเห็นชาติเจ้าของคอกกันดี หลายกลุ่มหลายก๊ก เลิกถูกจูงจมูกปลดแอกออกมาตั่งพรรค ออกมาสังกัดพรรคต่างๆเป็นจำนวนมาก ดังนั้นการที่พรรคเพื่อไทย ตั้งเป้าหมายจะกวาด ส.ส.สูงถึง 310 ที่นั่ง จึงเป็นไปไม่ได้เลย” นายเสกสกล กล่าว
นายเสกสกล กล่าวต่อว่า ที่สำคัญนโยบายพรรคเพื่อไทยวันนี้ แทบจะมองไม่เห็นอะไรเป็นชิ้นเป็นอันหรือเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน ที่จะสามารถดึงดูดพี่น้องประชาชนไปลงคะแนนเลือกตั้งให้ เท่าที่เห็นก็มีแค่จะเอาพ่อกลับบ้าน หรือเอ่ยอ้างเอาความสำเร็จบางนโยบายในอดีต มาอวดอ้างขายฝัน ทั้งที่บริบทสังคมได้เปลี่ยนแปลงไปเยอะมากแล้ว
ขณะที่บางนโยบายที่ล้มเหลวทุจริตคอร์รัปชัน สร้างความพินาศย่อยยับให้กับประเทศชาติบ้านเมืองอย่างจำนำข้าว พี่น้องชาวนา เกษตรกร คนรากหญ้าเซ่นสังเวยชีวิตหลายต่อหลายคน กลับไม่ยอมรับความผิดพลาดแต่ประการใด
นายเสกสกล กล่าวด้วยว่า ยิ่งไม่ต้องพูดถึงตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย วันนี้เผยโฉมให้เห็น 2 คนคนแรกคือ นางสาวแพทองธาร นอกจากเป็นลูกสาวอดีตนายกผู้หนีคุกหนีคดีแล้ว อยากถามว่า ตลอดชีวิต 35 ปีกว่าๆ อะไรคือความสามารถที่ประสบความสำเร็จในชีวิต และได้เคยรู้ รู้ทุกข์ รู้สุขของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะ คนยากคนจนสักกี่มากน้อย
อีกคนคือนายเศรษฐา ทวีสิน ซึ่งตนเองยอมรับว่ามีความสามารถ ประสบความสำเร็จ ในการประกอบธุรกิจโดยเฉพาะการขายบ้าน แต่นี่คือประเทศไทยไม่ใช่หมู่บ้านจัดสรร ซึ่งมีความแตกต่างกัน เพราะต้องทำให้ไม่ใช่ทำเอา ฉะนั้นจึงไม่ง่าย ที่คนคนหนึ่งประสบความสำเร็จในธุรกิจจะประสบความสำเร็จในการบริหารประเทศชาติบ้านเมือง
"ฉะนั้นแล้วทั้ง สภาพพรรคเพื่อไทยที่ไม่เหมือนในอดีต ทั้งนโยบายที่ไร้รูปธรรม เน้นพาพ่อกลับบ้าน และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทยที่เปิดตัวออกมาดังกล่าวนั้น จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่พรรคเพื่อไทยจะกวาดส.ส.เข้าสภาสูงถึง 310 ที่นั่ง อาจจะเป็นจริงก็แค่ในความฝัน แต่พอสะดุ้งตื่นขึ้นมารู้ตัวอีกทีระวังจะกระอักเลือดกันทั้งคอกและเจ้าของคอก"นายเสกสกล กล่าว