คืบหน้าโครงกระดูกปริศนาในห้องเช่าร้าง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี หญิงวัย 78 คาดว่า เป็นลูกชายของตัวเองที่มาทำงานอยู่โรงงานปูนซีเมนต์ แต่ไม่พบกันนานแล้ว
วันที่ 12 มี.ค. 2566 จากกรณีเมื่อวานนี้ เวลา 16.00 น. ร้อยตำรวจเอกอภิชัช รัตนศรี รองสารวัตรสอบสวน สภ. แก่งคอย อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ได้รับแจ้งจากนายสมพงษ์ นาคสุด คนงานรับเหมารื้อบ้านว่า พบโครงกระดูกคล้ายมนุษย์ในห้องเช่าร้าง จากนั้นได้ประสานเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูแก่งคอย เข้าไปยังที่เกิดเหตุเพื่อตรวจสอบ
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ เป็นบ้านเช่าห้องที่ 2 ทั้งหมดมี 4 ห้องซึ่งมีสภาพทรุดโทรม หลังคากระเบื้องแตกหัก ร้างมากว่า 10 ปี ถนนเทศวิวัฒน์ ซอย 1 ต. แก่งคอย พบโครงกระดูกคล้ายมนุษย์ บริเวณหน้าห้องน้ำในสภาพเหลือแต่กระดูก พบกระโหลกศีรษะ กระดูกชิ้นส่วนต่างจำนวนมาก ประกอบแล้วเป็นรูปร่างคล้ายคน
เจ้าหน้าที่กู้ภัย และตำรวจคาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 1 ปี โดยได้รวบรวมกระดูกและทำการบันทึกภาพ และสอบถามคนที่อยู่บริเวณใกล้เคียงเพื่อหาข้อมูล
จากการสอบถามนายสมพงษ์ นาคสุด คนงานรับเหมารื้อบ้าน กล่าวว่า ตนเองมาจากสระบุรีได้รับการว่าจ้างจากเจ้าของบ้านเช่ามารื้อห้องเช่าจำนวน 4 ห้อง โดยที่ตนเองมีผู้ร่วมงานอีก 1 คน เมื่อรื้อห้องแรกแล้วเสร็จก็มารื้อห้องเช่าห้องที่ 2 ปรากฏว่าพบโครงกระดูกและหัวกระโหลกเกลื่อนบริเวณหน้าห้องน้ำ ไม่ได้กลิ่นเหม็นจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตนเองตกใจมากไม่คิดว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ตั้งแต่เป็นช่างรับเหมารื้อบ้านไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ ถ้าต้องรื้อต่อไปต้องให้เจ้าของห้องเช่ามาไหว้เจ้าที่เจ้าทาง เพื่อขอให้ตนเองทำงานลุล่วงไปด้วยดี
จากการสอบถามคนในละแวกนั้นบอกว่า ห้องเช่าร้างทั้ง 4 ห้องนี้ ปลูกมากว่า 25 ปี ปล่อยให้คนเช่ามานานแล้ว แต่ระยะหลังประมาณ 10 ปีที่ผ่านมา ก็ไม่มีคนเช่า ปล่อยให้ร้างมานาน อาจจะเป็นคนจรที่มาใช้เป็นที่พักพิงก็ได้
ร้อยตำรวจเอกอภิชัช รัตนศรี รองสารวัตรสอบสวน สภ. แก่งคอย ได้นำโครงกระดูกดังกล่าวส่งโรงพยาบาลแก่งคอยและส่งต่อโรงพยาบาลตำรวจ เพื่อพิสูจน์ทราบและจะได้หาข้อมูลเกี่ยวกับคนหายในอำเภอแก่งคอยและใกล้เคียง
ขณะที่ความ คืบหน้าล่าสุด พ.ต.อ. สุรเชษฐ์ แสนวงศ์สิริ ผกก.สภ.แก่งคอย กล่าวว่า เบื้องต้นได้ให้ตำรวจชุดสืบสวน สภ.แก่งคอย ลงพื้นที่หาเบาะแส ติดตามตัวญาติของผู้เสียชีวิตแล้ว ซึ่งจากการสืบทราบว่า นางสมร อายุ 78 ปี แม่ของผู้เสียชีวิต บอกว่า ศพผู้เสียชีวิตน่าจะเป็นลูกชายชื่อนายเชิงชาย อายุ 54 ปี อยู่ที่ ต.หนองบัว อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี แต่ลูกตนมาทำงานอยู่ที่โรงงานปูนซีเมนต์แห่งหนึ่งในเขต ต.ท่าลาน อ.บ้านหมอ จ. สระบุรี แต่ตนก็ไม่พบลูกชายมานานแล้ว ซึ่งทราบว่าลูกชายมาพักอาศัยอยู่ที่ อ.แก่งคอย ซึ่งแม่ยืนยันจากเครื่องแต่งกายคาดว่าน่าจะเป็นลูกชาย จะให้ร้อยเวรเจ้าของคดีตรวจดีเอ็นเอของแม่ว่าตรงกันกับลูกชายอีกครั้ง ส่วนการชันสูตรเบื้องต้นไม่พบบาดแผลใดๆ คาดว่าน่าจะเสียชีวิตด้วยโรคประจำตัว แต่แม่ยืนยันอีกว่าขาข้างซ้ายหัก อย่างไรก็ตามต้องรอผลชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง