โจรมีน้ำใจ หลอกเอาเงินเก็บทั้งชีวิตเกือบ4แสนเหลือเงินติดบัญชีไว้ให้ใช้ 800 บาท
นนทบุรี วันที่ 16 มี.ค.2566 เวลา 10.00 น.ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องทุกข์จาก น.ส.ชลกานต์ อายุ 48 ปี อาชีพเปิดร้านขายหนังสือย่านเตาปูน ว่ามีผู้หญิงโทรศัพท์เข้ามาหาอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่กระทรวงการคลังจะทำยกเลิกและลดหย่อนภาษีโครงการคนละครึ่งให้เพราะจะปิดโครงการนี้แล้ว และได้บอกให้ทำตามขั้นตอนต่างๆ ผ่านเว็บไซต์ mof.go.th ซึ่งเป็นเว็บไซต์ของกระทรวงการคลัง และได้หลอกขอรหัส OTP ของตนไปก่อนจะดูดเงินจากบัญชี ซึ่งเป็นเก็บมาทั้งชีวิต จำนวน 323,000 บาท ไปจากบัญชี เหลือติดบัญชีไว้ให้เพียง 800 กว่าบาท
น.ส.ชลกานต์ เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 16.00 น.ได้มีผู้หญิงคนหนึ่งได้โทรศัพท์เข้ามาหาตนและอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากกระทรวงการคลัง จะมาสอนวิธีการยกเลิกการเสียภาษีและลดหย่อนภาษีของโครงการคนละครึ่งให้ ด้วยความที่ตนเป็นแม่ค้าก็คิดว่าการยกเลิกการเสียภาษีหรือได้ลดหย่อนภาษีโครงการคนละครึ่งเป็นเรื่องที่ดี จึงได้ทำตามที่ผู้หญิงคนนั้นบอก โดยผู้หญิงดังกล่าว ได้ให้ตนเข้าไปที่เว็บไซต์ mof.go.th ซึ่งเป็นเว็บไซต์ของกระทรวงการคลัง ดูแล้วมีความน่าเชื่อถือ และได้บอกขั้นตอนต่างๆ รวมไปถึงการกรอกข้อมูลจนกระทั่งได้รหัส OTP ในระหว่างที่ตนกำลังทำตามขั้นตอนอยู่นั้น ผู้หญิงคนดังกล่าวได้บอกกับตนว่า ตอนนี้ห้ามยุ่งกับโทรศัพท์เด็ดขาดจนกว่าข้อมูลจะโหลดเสร็จ หลังจากข้อมูลโหลดเสร็จแล้ว ผู้หญิงคนดังกล่าวก็กล่าวขอบคุณพร้อมกับวางสายไป และมีข้อความเด้งเข้ามาในโทรศัพท์ตนแจ้งว่า มีการโอนเงินออกไปจากบัญชีของตนจำนวน 323,000 บาท ไปที่บัญชีชื่อ นาย วีระชัย เหลือติดบัญชีไว้เพียงแค่ 884.35 บาท เท่านั้น ตนจึงรู้ว่าโดนหลอกแล้ว ตอนนั้นตกใจมาก มือไม้สั่นไปหมดน้ำตาจะไหล เพราะเป็นเงินเก็บทั้งชีวิตจากการขายของของตน และเงินจำนวนดังกล่าวนี้จะต้องใช้จ่ายทั้งหมดภายในบ้าน ทั้งค่าเช่าบ้าน ค่ารถ ค่ากินอยู่ต่างๆ ก็ถือว่าโจรคนนี้ยังใจดีที่ยังเหลือเงินติดบัญชีไว้ให้ซื้อข้าวกิน ไม่งั้นตนก็ไม่รู้จะทำยังไงเพราะเครียดมาก คิดอะไรไม่ออกมันตันไปหมด ยังไม่รู้ว่าสิ้นเดือนนี้จะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายค่าเช่าบ้าน ค่ารถ ขนาดเงินกินข้าวทุกวันนี้ยังต้องขอยืมคนอื่นมาก่อน วันนี้อาจจะต้องเข้าไปดูในบ้านว่าพอจะมีอะไรเอาออกมาขายได้บ้างจะได้มีเงินเอาไว้จ่ายค่าเช่าบ้านสิ้นเดือนนี้ก่อน
เบื้องต้นได้เดินทางมาแจ้งความไว้กับ พ.ต.ต.วีระยุทธ ศรีสุพัฒน์ ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ เพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามตัวบุคคลดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฏหมาย