ล่าตัว3วันจับได้แล้ว! ผู้ต้องหาหนีห้องขัง สภ.แกลง ระยอง ขณะกำลังรอขึ้นรถหลบหนี สารภาพที่หนีเพราะคิดถึงแฟน
จากกรณี นายวีระวุฒิ อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์ ได้หลบหนีขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจสิบเวร สภ.แกลง จ.ระยอง กำลังไขกุญแจห้องขัง เมื่อกลางดึกวันที่ 14 มี.ค.ที่ผ่านมา ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ออกล่าตัว แต่ยังไม่พบ จนกระทั่งเมื่อวันที่ 15 มี.ค.ที่ผ่านมา ผู้ต้องหาได้ไปก่อเหตุขโมยโทรศัพท์มือถือ และ ขนมภายในร้านกาแฟ ชาวดอย ต.บ้านนา อ.แกลง อยู่ห่าง สภ.แกลง ประมาณ 3 กิโลเมตรก่อนเผ่นหนีไปอีก ท่ามกลางความหวาดผวาของชาวบ้านในพื้นที่ ตำรวจจึงระดมกำลังเฝ้าติดตามจับกุม
เกี่ยวกับความคืบหน้าเรื่องดังกล่าว เมื่อเวลา 03.00 น.วันที่ 17 มี.ค. พ.ต.อ.ประติพัฒน์ ภูมลี ผกก.สภ.แกลง ระยอง ได้รับแจ้งว่าพบสัญญาณโทรศัพท์ที่คนร้ายขโมยไป จึงมอบหมายให้ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ไปตรวจสอบบริเวณ ตรงข้ามร้านสะดวกซื้อ บ้านหนองควายเขาหักถ.เพ-แกลง-กร่ำ ต.ทางเกวียน อ.แกลง จ.ระยอง จุดที่สัญญาณโทรไปปรากฏอยู่
เมื่อเดินทางไปถึง ตำรวจได้กระจายกำลังโอบล้อม พบ นายวีระวุฒิผู้ต้องหา ลักษณะผมยาว ใส่เสื้อยืดสีเทากางเกงขาสั้น กำลังยืนรอรถอยู่ในบริเวณดังกล่าวกำลังเตรียมหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงเข้าจับกุมตัวทันที ก่อนจะควบคุมตัวมาทำการสอบสวนที่สภ.แกลง
จากการสอบสวนนายวีระวุฒิ ผู้ต้องหา ให้การว่า ที่หลบหนี เพราะคิดถึงแฟนสาว จึงต้องการจะไปหาแฟนสาว ที่บ้านเกิด จ.ฉะเชิงเทรา โดยอาศัยจังหวะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเผลอขณะไขกุญแจ สบโอกาสจึงวิ่งหลบหนีไป โดยหลบหนีออกจาก สภ.แกลง แล้วไปหลบซ่อนตัวอยู่ในป่าภายในอ.แกลง โดยวันแรกจ้างจยย.ไปส่ง ในตลาด ก่อนจะเดินเท้าหลบหนี ตลอดเวลากลางวันหลบซ่อนในป่า งัดร้านค้าขโมยขนมกินประทังความหิว กระทั่งมาถูกจับ ขณะรอโบกรถออกนอกพื้นที่
ต่อมา ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ท่ามกลางประชาชนให้ความสนใจมายืนดูทำแผนกัน
หลังจากทำแผนเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งตัวให้พนักงานสอบดำเนินคดี ในข้อหา "ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนในเคหสถานโดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่าไปด้วยประการใดๆ โดยเข้าช่องทางซึ่งได้ทำขึ้นโดยไม่ได้จำนงให้เป็นทางคนเข้าหรือเข้าทางซึ่งผู้เป็นใจเปิดให้ และพยายามลักทรัพย์ในเวลากลางคืนในเคหสถานโดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือ ทรัพย์หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่าไปด้วยประการใดๆ โดยเข้าช่องทางซึ่งได้ทำขึ้นโดยไม่ได้จำนงให้เป็นทางคนเข้า"
ส่วนคดีหลบหนียังไม่เข้าข่ายเพราะขณะหลบหนียังไม่ได้ลงบันทึกประจำวัน จึงยังไม่เป็นการหลบหนี