"ชูวิทย์" ตั้งโต๊ะแถลงแยกเกษตร ชูป้ายต้านภูมิใจไทย หลัง "อนุทิน" ปล่อยคาราวานรถหาเสียงผู้สมัครส.ส. กทม. ลั่นไม่กลัวถูกอุ้ม
18 มี.ค. 66 เวลา 11.00 น. นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้เดินทางมาที่บรเวณแยกเกษตร ซึ่งอยู่ห่างจากที่ตั้งของที่ทำการพรรคภูมิใจไทยประมาณ 600 เมตร เพื่อที่จะชูป้ายต่อต้านการหาเสียงของพรรคภูมิใจไทยในระหว่างที่รถขบวนหาเสียงของพรรค จอดอยู่จำนวนมาก หลังจากทางพรรคได้เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครร ส.ส.กทม. 33 เขต และปล่อยคาราวานรถหาเสียงลงพื้นที่ โดยนายชูวิทย์ได้นำป้ายคัดค้านมายื่นใส่รถหาเสียงในแต่ละคันด้วย
จากนั้นนายชูวิทย์ ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าว โดยระบุว่า เมื่อพรรคภูมิใจไทยหาเสียงตนเองก็มีสิทธิ์ที่จะรณรงค์ต่อต้าน เพราะเป็นการต่อสู้ของประชาชน ส่วนพรรคการเมืองหากอยากจะหาเสียงก็หาเสียงต่อไป ต่างคนต่างทำหน้าที่ และตนเองไม่เคนพูดเรื่องส่วนตัว มีแต่พูดเรื่องที่เป็นประโยชน์ ที่เกี่ยวข้องกับการต่อต้านกัญชา และเรื่องของการซุกหุ้น ขณะนี้ยังไม่ได้มีการยุบสภาฯ จะมาใช้กฎหมายอะไรกับตนเอง เพราะตนเองก็เป็นประชาชน แล้วขณะนี้ยังไม่มีพ.ร.บ. เลือกตั้ง การที่ตนเองออกมารณรงค์ ก็ยังไม่มีปัญหา แต่หากมีพ.ร.บ. เลือกตั้งแล้ว ตนเองก็จะออกมาบอกว่า “รู้นะไม่ต้องเลือกพรรคไหน รู้นะว่าไม่ต้องเลือกพรรคบ้ากัญชา”ส่วนการต่อต้านกัญชาเสรี หากใครเห็นด้วยกับกัญชาเสรีก็ให้โหวตให้พรรคภูมิใจไทย แต่หากใครไม่เห็นด้วย ก็ให้ไม่ต้องโหวตให้พรรคภูมิใจไทย
ส่วนกรณีที่ นายศุภชัย กล่าวหาตนเองไปติดป้ายในช่วงเวลากลางคืน ยืนยันว่า ใครจะไปติดในเวลากลางคืน และทำไมถึงไม่ถอดป้ายออก ถ้าแน่จริงให้มาสู้กันตัวต่อตัว ทั้งนี้ตนเองก็จะแจ้งความเรื่องทำลายป้ายคัดค้านรณรงค์ให้ยกเลิกกัญชาเสรี ที่นำไปติดในพื้นที่จังหวัดอำนาจเจริญ เช่นกัน เพราะตนเองไม่ได้ไปติด แต่ไม่รู้ใครไปติด ดังนั้นเมื่อมีการไปแจ้งความ ตนเองก็จะไปแจ้งความกลับ ในข้อหา กลั่นแกลังให้ได้รับโทษทางอาญา
เมื่อถามว่า การที่ออกมาต่อต้านกังวลเรื่องของการถูกล็อกตัวหรือถูกอุ้มบ้างหรือไม่ นายชูวิทย์ บอกว่า ตนเองไม่กลัวและไม่ได้กังวล จะกังวล จะกลัวเรื่องอะไร เพราะสิ่งที่ทำเป็นประโยชน์กับสังคม และตนเองไม่ได้ไปพูดเรื่องส่วนตัว ส่วนกรณีที่ถูกอ้างว่า รับงานกับคนที่ตกลงสัญญาไม่ได้นั้น นายชูวิทย์ บอกว่า “จะรับงานใครแล้วทำไมถึงไปถ่ายรูปกับ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ แต่เกาะคนโน้นคนนี้ คิดหรอจะได้เป็นนายกรัฐมนตรี คนอย่างนายอนุทิน เป็นผู้รับเหมากลับไปทำผู้รับเหมา อย่าคิดจะมาเป็นหัวหน้าพรรค ให้เท่ๆ แต่เรื่องเขากระโดง เรื่องรถไฟฟ้าเรื่องซุกหุ้น ว่าอย่างไร ซึ่งนี่เป็นเรื่องของข้อเท็จจริง
ทั้งนี้นายชูวิทย์ ยังระบุอีกว่า นายอนุทิน ไม่มีราคาเดิมเป็นพรรคเล็กคิดการใหญ่ แล้วจะมาเอาคะแนนในกรุงเทพมหานคร หากจะไเ้คะแนนก็ที่จังหวัดบุรีรัมย์ ดังนั้นยืนยันว่า ตนเองจะไปถล่มจังหวัดบุรีรัมย์แน่นอน และวิธีการถล่มของตนเองคือการถล่มแบบกองโจร โดยจะไปคนเดียว เช่นเดียวกับแยกเกษตรที่มีการปล่อยคาราวานหาเสียงมากันจำนวนมาก ตนเองก็มาคนเดียวเช่นกัน ส่วนกรณีที่นายอนุทิน ไหวหวั่นจะถูกยุบพรรคหรือไม่นั้น นายชูวิทย์ ระบุว่า ให้ไปตอบประเด็นที่ตนเองได้ยื่นต่อกกต.ให้ได้ก่อน เพราะตนเองมีหลักฐานทั้งหมด
เมื่อถามถึงกรณีของเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่นายชูวิทย์จะออกมาแฉนั้น จะเป็นการรังแกผู้หญิงหรือไม่ โดยนายชูวิทย์ ยืนยันว่า ไม่ได้รังแกผู้หญิง ซึ่งบุคคลดังกล่าวนี้เบื้องหลังนั้นคงต้องไปถามนายสุทัศน์ เงินหมื่น แล้วจะรู้ว่าเขาเป็นอย่างไร ทั้งนี้ นายชูวิทย์ ยืนยันอีกว่า “วันนี้ตนเองไม่จำเป็นต้องลงการเมือง ไม่ได้สังกัดพรรคไหน หากจะออกมาบอกว่าตนเองรับงานใครก็พูดไป แต่ที่แน่ๆ เบื้องหลังของนายอนุทิน คือนายเนวิน ชิดชอบ”