"ตำรวจภูธรภาค7" เตรียมเเถลงปิดคดี "น้องต่อ" พรุ่งนี้ (22 มี.ค.66) หลังยืดเยื้อนานกว่า 2 เดือน ด้าน ญาติงง ! ยังหาศพไม่เจอ
21 มี.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการติดตามคดีน้องต่อเด็ก8เดือนหายตัวปริศนา ซึ่งยืดเยื้อมานานเกือบ2เดือน เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมหน่วยอาสากู้ภัยค้นหากันทุกพื้นที่รอบบ้านแต่ก็ยังไม่พบ ล่าสุดพรุ่งนี้ (22มี.ค.66) ตำรวจภูธรภาค7 จะมีการแถลงปิดคดีนี้ ทางด้านญาติยังงงตำรวจยังหาศพไม่พบแต่จะปิดคดีได้อย่างไรซึ่งก่อนหน้าแถลงสองวันยังค้นหาเบสโทรศัพท์ของผู้เป็นแม่อยู่เลย
สำหรับคดีการหายตัวไปอย่างปริศนา ของน้องต่อเด็กชายวัย8เดือน ขณะที่เเม่และพ่อหลับอยู่ภายในบ้าน ลักษณะเป็นปูนก่อขึ้นมา ไม่มีผนัง ในพื้นที่ ต.หินมูล อ.บางเลน จ.นครปฐม ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาช่วงเวลาประมาณ 7 โมงเช้า
ซึ่งหลังเกิดเหตุ นายพุดวัย19ปี และ นิ่มวัยเพียง16ปี ขี่รถจยย.ไปแจ้งความ ที่ป้อมตำรวจห่างจากบ้านที่เกิดเหตุ2กิโลเมตร โดยครั้งแรกยืนยันว่าเห็นชายเสื้อเหลืองมาอุ้มน้องต่อหนีหายไป โดยวิ่งอ้อทไปทางหลังบ้านฝั่งตรงข้าม เข้าตรอกเล็กๆไป หลังรับแจ้งเหตุ ตำรวจสภ.บางหลวง จัดเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนลงพื้นที่แกะรอยวงจรปิด ปรากฎว่าไม่พบชายเสื้อเหลืองตามคำให้การของนิ่ม
หลังจากนั้นก็มีการปูพรมค้นหาบริเวณรอบบ้านที่เกิดเหตุ รัศมี1กิโลเมตร โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานขอความร่วมมือมาที่ทีมข่าวช่อง8 เราให้นำโดรนตรวจจับความร้อนไปบินค้นหาบริเวณที่ป่ารกร้าง แต่ก็ไม่พบสิ่งผิดปกติ
กระทั่งวันที่ 27 ก.พ. ที่ผ่านมา นิ่มรับสารภาพ ทำน้องต่อหลุดมือ หัวฟาดพื้น จนน้องเสียชีวิต ด้วยความที่กลัวความผิดก็เลยนำร่างน้องต่อ ไปโยนทิ้งที่ริมคลองท่อ บริเวณป่าไผ่ ห่างจากบ้าน 300 เมตร ตำรวจจัดชุดประดาน้ำลงงมค้นหา แต่ก็ไม่พบ
ขณะที่วันนี้ทีมข่าวช่อง 8 ลงพื้นที่บ้านของพุด ไม่มีเจ้าหน้าที่มาปูพรมค้นหาแล้ว บ้านเงียบสนิท มีเพียงพี่หมี และ น.ส.เล็ก พี่สาวของพุด อยู่ น้องเพลงก็เข้าไปคุย ถามว่า พรุ่งนี้จะมีการเเถลงปิดคดีแล้วทางครอบครัวรู้สึกอย่างไร พี่หมีบอกว่า งงมาก ที่ตำรวจจะปิดคดีเพราะ ยังไม่เจอร่างของน้องต่อเลย ถ้าปิดคดีจริงจะปิดไปในทิศทางไหน ส่วนตัวเชื่อว่าน้องต่อ น่าจะยังไม่ตาย เพราะ ถ้าตายจริง ถูกโยนทิ้งตามคำกล่าวอ้าง ก็ต้องพบอะไรผิดปกติบ้าง และเชื่อว่าสักวันความจริงจะต้องปรากฎ
ส่วนน้องชาย ยอมรับว่าไม่ได้ไปเยี่ยมเลย แต่ก็รู้มาบ้างว่านิ่มไปเยี่ยม จนถึงตอนนี้ก็ไม่ได้คิดเรื่องประกันตัว เพราะอยากให้น้องตัวเองสำนึกผิด
ขณะที่เมื่อวานนี้ พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธร ภาค 8 พร้อมด้วย ตำรวจ สภ.บางหลวง และตำรวจกองกำกับการสุนัขตำรวจ กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ นำสุนัขตำรวจ K9 จำนวน 2 ตัว ลงพื้นที่ เพื่อตรวจหา และเก็บหลักฐานจุดที่คิดว่าอาจพบเบาะแสร่างของ “น้องต่อ”
หลังตำรวจ ตรวจพบสัญญาณเบสโทรศัพท์ หรือ สัญญาณไวไฟ ที่นิ่มได้เชื่อมต่อ ในช่วงเวลา ตี 1 ของวันที่ “น้องต่อ” หายตัวไป โดยเจ้าหน้าที่แบ่งเป็น 2 ทีม ค้นหา 2 จุด ในรัศมี 150 เมตร จากที่ตรวจสอบพบสัญญาณดังกล่าว
จุดที่ 1 เป็นป่ารกริมถนน ในพื้นที่ หมู่ 6 ต.หินมูล อ.บางเลน ซึ่งเป็นจุดที่ K9 ยังไม่เคย ลงพื้นที่ดมกลิ่นแกะรอยมาก่อน และมีแอ่งน้ำ อยู่ 2 แอ่ง
จุดที่ 2 เป็นป่าข้างบ่อปลา ซึ่งจุดนี้ K9 เคยลงพื้นที่ดมกลิ่นแล้ว แต่ไม่พบเบาะแสเหมือนเดิม
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปดู จุดที่ตำรวจอ้างว่าพบสัญญาณโทรศัพท์ เป็นจุดเดียวกันกับที่เคยไปทดลองโยนกระสอบทราย และทีมข่าวเราก็เคยลงพื้นที่ไปค้นหามาแล้วหลายครั้ง อยู่ฝั่งตรงข้ามบ้านของพุด ห่างประมาณ 150เมตร ติดถนน2เลนช่วงทางโค้ง
โดยวันพรุ่งนี้ ตำรวจภูธรภาค7จะมีการแถลงปิดคดีนี้ ส่วนทิศทางในการค้นหาต้องติดต่อว่าจะเป็นอย่างไร
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ไปสอบถามข้อมูลจากทนายเจมส์ นิติธร แก้วโต ทนายเจมส์ ระบุว่าการแถลงปิดคดีพรุ่งนี้ของตำรวจเชื่อว่าจะแจ้งทุกข้อกล่าวหากับนิ่มทั้งข้อหาทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและโทรหาซ่อนเล้นอำพรางศพเนื่องจากเป็นการแจ้งข้อหาตามคำรับสารภาพของเจ้าตัวแต่ศาลอาจจะยกฟ้องในคดีซ่อนเร้นอำพรางศพเนื่องจากไม่พบร่างของน้องต่อ
ส่วนมีโอกาสหรือไม่ที่ตำรวจจะเปลี่ยนเป็นแถลงว่าน้องต่อป็นบุคคลสูญหายทนายเจมส์ระบุว่าเรื่องนี้เป็นไปไม่ได้เพราะน้องต่อมีอายุเพียงแปดเดือนเท่านั้นไม่ใช่เด็กโตที่จะไปไหนมาไหนเองได้เพราะฉะนั้นน้องต่อยังอยู่ในการดูแลของผู้ปกครองอยู่