"กัน จอมพลัง" พาผู้ปกครองเด็กหญิงอายุ 14 เหยื่อครูหื่น เข้าร้องขอความเป็นธรรมกับ "บิ๊กโจ๊ก" และแจ้งความที่ สน.บางเขน โวยเมื่อวานครูบุกไปขอให้เด็กลบคลิปถึงบ้าน แต่ตำรวจไม่ไป อ้างไปผิดหมู่บ้าน

วันที่ 21 มีนาคม 2566 นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ "กัน จอมพลัง" พาพ่อแม่ของเด็กหญิงวัย 14 ปี ผู้เสียหายที่ถูกครูโรงเรียนดังย่านบางเขน กรุงเทพฯ บุกไปขอให้เด็กลบคลิปถึงที่บ้านจนถูกชาวบ้านรุมประชาทัณฑ์ เข้าร้องขอความเป็นธรรมต่อ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โดยพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้โทรศัพท์สั่งการไปยัง พ.ต.อ.อนันต์ วรสาตร์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลบางเขน ให้รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขออนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหา และเร่งดำเนินคดี

นอกจากนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังส่งชุดสืบสวน คณะทำงานของรอง ผบ.ตร. ไปร่วมในการสืบสวนด้วย และสั่งการให้ส่งชุดป้องกันและปราบปราม คอยดูแลเรื่องความปลอดภัยของครอบครัวเด็กหญิงในช่วงนี้ พร้อมทั้งเตรียมประสานผู้อำนวยการโรงเรียนของครูคนดังกล่าว ให้พักการสอนของครูไปก่อน และหลังจากนี้จะต้องไปปรึกษาปลัดกระทรวงศึกษาธิการว่า กรณีดังกล่าวจะต้องให้ผู้อำนวยการโรงเรียนรับผิดชอบด้วยหรือไม่ เนื่องจากเหตุการณ์เกิดขึ้นในโรงเรียน ซึ่งเป็นสถานที่ที่น่าจะปลอดภัยสำหรับเด็ก แต่เด็กกลับต้องมาเจอเหตุการณ์ที่สร้างบาดแผลให้กับจิตใจ และหวาดกลัวที่จะไปเรียน

ขณะที่ พ่อของเด็กหญิงอายุ 14 ปี  ยอมรับว่า ในบางครั้งครูชายคนนี้ก็จะมีถูกเนื้อต้องตัวลูกสาวบ้าง ทั้งโอบไหล่ จับแขน แต่พ่อแม่ไม่ได้เอะใจอะไร เข้าใจว่าเป็นความเอ็นดู ระหว่างลูกศิษย์กับครู และมองว่าอาจเป็นการแสดงออกทางจิตวิทยา โดยเกิดเรื่องลูกสาวส่งคลิปวิดีโอมาให้ดูแต่เปิดไม่เป็น ก็เลยไม่ได้รู้เหตุทันที กระทั่งตอนเย็นกลับมาที่บ้าน เจอครูมาขอโทษ ยอมรับผิดว่าได้ถูกเนื้อต้องตัวลูกสาว ซึ่งตอนนั้นพ่อไม่เข้าใจความหมายของครู เพราะพ่อยังไม่ได้ดูคลิป พอลูกสาวเล่าให้ฟังก็ไม่ได้เชื่อทั้งหมด เพราะไว้ใจครูคนนี้มาก ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกระทบสภาพจิตใจของลูกสาวและผู้เป็นพ่อแม่ จึงยืนยันว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด 

ขณะเดียวกัน พ่อแม่ยอมรับว่าลูกสาวไปขอความช่วยเหลือจาก กัน จอมพลัง เชื่อว่าลูกสาวเกรงว่าถ้าบอกพ่อแม่เองแล้วพ่อแม่จะไม่เชื่อ เนื่องจากมีความคุ้นเคย ไว้ใจครูคนนี้มาก และก่อนหน้านี้ลูกสาวก็เคยมาบ่นให้ฟังว่า ครูชอบถูกเนื้อตัวจนเยอะเกินไป ลูกสาวไม่ชอบ แต่ตอนนั้นก็คิดว่าเป็นความเอ็นดูลูกศิษย์

ล่าสุด ลูกสาวเล่าให้ฟังว่า มีกลุ่มรุ่นพี่โรงเรียนเดียวกันเคยถูกครูคนนี้ลวนลาม ทำอนาจารลักษณะเดียวกัน แต่ก็ไม่มีใครกล้าออกมาเอาผิด จนกระทั่งมาถึงลูกสาวของเขา ซึ่งมีหลักฐานชัดเจน จึงยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เพราะไม่อยากให้นักเรียนคนอื่นโดนอีก

ต่อมาเวลา 14.00 น. กัน จอมพลัง ได้พาพ่อและแม่ของเด็กหญิงเข้าพบ พ.ต.อ.อนันต์ วรศาสตร์ ผกก.สน.บางเขน เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับครูที่ปรึกษาที่ก่อเหตุ โดยมีเจ้าหน้าที่ พม. และกรมคุ้มครองสิทธิ์ เข้าร่วมสอบปากคำ โดยกัน จอมพลัง กล่าวว่า วันนี้พาครอบครัวผู้เสียหายเดินทางเข้าพบตำรวจสน. บางเขน หลังจากที่เมื่อคืนครูผู้ก่อเหตุได้บุกไปที่บ้านน้อง เพื่อขอไกล่เกลี่ยไม่ให้เอาเรื่อง เพื่อให้ได้สอนอยู่ในโรงเรียนนั้นต่อได้ ตนคิวว่าไม่แฟร์กับน้อง เพราะครูยังกึ่งรับกึ่งสู้

วันนี้ พ่อแม่เด็กจึงเดินทางมาแจ้งความ แต่สิ่งที่ติดใจคือ การทำงานของ สน. บางเขน ที่เมื่อคืนประสานมายังท่านผู้กำกับฯ ให้ส่งกำลังเข้าไปช่วยเหลือ แต่ปรากฏว่าท่านไม่ไป แต่ประสาน สก. นักข่าว ไปที่หมายถูกต้อง แต่ตำรวจไม่ไป แต่กลับโทรมาเมื่อเช้าว่า สายตรวจไปผิดหมู่บ้าน "ผมไปถูก สก.ไปถูก นักข่าวไปถูก แต่ตำรวจไปผิดหมู่บ้าน แล้วแบบนี้จะฝากความหวัง ฝากชีวิตไว้กับใคร เมื่อคืนครูถูกประชาทัณฑ์ ถ้าทีมงานตนไม่กันไว้บอกเลยครูตาย ทีมงานยังคิ้วแตก อยากจะถามว่ามันเป็นหน้าที่ของทีมงานตัวเองหรือไม่ ที่ต้องไปบังตัวผู้ก่อเหตุ นี่มันคือยุคที่ประชาชนต้องดูแลตัวเองแล้วหรือ"

ด้าน พันตำรวจเอกอนันต์ วรศาสตร์ ผกก.สน.บางเขน ออกมาชี้แจงว่า กรณีที่เกิดขึ้นวานนี้ มีการสื่อสารที่ผิดพลาด เนื่องจากชื่อหมู่บ้านที่ผู้เสียหายพักอาศัยมีทั้งหมด 3 หมู่บ้าน คือ ซอย 48 ซอย 50 และซอย 52 ซึ่งตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ในวันนั้นได้เดินทางไปคนละหมู่บ้าน ทำให้หากันไม่เจอ หลังจากนั้นได้มีการโทรหาคุณกันแต่ไม่ได้รับสาย ในส่วนของรายละเอียดของคดีจะเร่งสอบปากคำผู้เสียหาย และผู้ปกครอง

ส่วนตัวผู้เสียหายเองจะมีการนัดสหวิชาชีพมาสอบปากคำ รวมถึงบริเวณบ้านของผู้เสียหายจะมีการให้สายตรวจนำตู้แดงไปติดตั้งไว้ และออกไปตรวจตลอด 4 ชั่วโมง 8 ชั่วโมง

ทั้งนี้ขอดำเนินการในส่วนของผู้เสียหายก่อน ซึ่งจะมีการออกหมายจับหรือไม่อย่างไร ต้องมาดูว่าจะเข้าข่ายความผิดใดบ้าง