"สมศักดิ์-สุริยะ" หวนคืนรัง "เพื่อไทย" ขอมีส่วนร่วมคว้าเป้าหมายแลนด์สไลด์ เชื่อฟ้าเปิดจะได้กลับมากเป็นรัฐบาล 99.99% ชมนโยบายสมัย "ทักษิณ" ทำได้จริง แจงเหตุย้ายพรรค เพราะมีคนยุให้ย้าย ย้ำไม่มีเปลี่ยนขั้วหลังตั้งรัฐบาล ด้าน "หมอชลน่าน" ไม่ติดใจอดีต เข้าใจแนวทางการเมือง
วันที่ 23 มี.ค. 2566 นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหารพรรค และแกนนำพรรค ร่วมกันให้การต้อนรับ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม รวมถึง นางอนงค์วรรณ เทพสุทิน กลับเข้าพรรคเพื่อไทย พร้อมสวมเสื้อแจ็คเก็ตให้ทั้ง 3 คน เพื่อเป็นสัญลักษณ์ในการเข้าเป็นสมาชิกพรรคอย่างเป็นทางการ หลังแถลงทิศทางการเมืองย้ายกลับเข้าพรรคเพื่อไทยอีกครั้ง ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความชื่นมื่น
โดยนายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า นายสมศักดิ์ และนายสุริยะ ไม่ใช่คนใหม่ แต่เป็นบุคคลที่เคยร่วมสร้างสรรค์ผลงานมาตั้งแต่พรรคไทยรักไทย แต่เนื่องจากมิติการเมืองเปลี่ยนไป จึงมีความจำเป็นที่ต้องทำกิจกรรมทางการเมืองเพื่อรักษาทางรอดอยู่บนเส้นทางการเมือง พร้อมขอบคุณทั้ง 2 คน ที่กลับเข้ามารักษาอุดมการณ์ทางการเมือง และคืนความหวัง คืนโอกาสให้กับประชาชน เพื่อนำไปสู่เป้าหมายแลนด์สไลด์ 310 เสียง เป็นรัฐบาลที่เข้มแข็ง ปลดล็อกข้อติดขัดทางการเมืองที่ติดอยู่ในรัฐธรรมนูญ พร้อมเชื่อมั่นว่าทั้ง 2 คนที่กลับมาจะนำไปสู่เป้าหมายได้
นายแพทย์ชลน่าน ยังหวังว่า มิติการเมืองที่มาจากอำนาจประชาชน จะเป็นระบบ ไม่มีอำนาจซ่อนเร้น หรือมีอำนาจแฝงมาเป็นตัวกำหนด จะทำให้อำนาจประชาชนที่ตัดสินได้เป็นจริง แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับประชาชนที่จะมอบอำนาจให้ใคร หากมอบให้เพื่อไทย เชื่อว่า หลายฝ่ายพร้อมจะปรับตัว ฟังเสียงประชาชน ทำเพื่อประเทศชาติ ทำการเมืองให้อยู่ในระบอบประชาธิปไตย
โดยแนวทางของพรรคจะให้นายสมศักดิ์ ที่มีความเชี่ยวชาญหลากหลายพื้นที่เข้าไปดูแลยุทธศาสตร์เชิงพื้นที่ โดยเฉพาะในภาคใต้ ซึ่งเป็นเป้าหมายใหม่ของพรรค ส่วนนายสุริยะ จะให้ช่วยดูแลยุทธศาสตร์ส่วนกลาง ในภาพใหญ่
ด้านนายสมศักดิ์ กล่าวว่า รู้สึกมีความสุข และมีความหวัง โดยเฉพาะสิ่งที่คิด สิ่งที่หวังบนเส้นทางการเมือง จะบรรลุความสำเร็จให้กับประชาชนได้ พร้อมขอบคุณพรรคเพื่อไทย ที่เปิดรับให้เข้ามาเป็นสมาชิกพรรค และมีส่วนร่วมในการทำงานให้สมบูรณ์แบบ เป็นที่พึ่งที่หวังให้ประชาชน และเติมเต็มเป้าหมายแลนด์สไลด์ และเชื่อว่าวันนี้ฟ้าเปิดแล้ว บรรยากาศประชาธิปไตยกลับคืนมา ขณะเดียวกันยังชื่นชมนายทักษิณ ชินวัตร ที่ทำตามนโยบาย บรรลุเป้าหมาย และเป็นที่ยอมรับของประชาชน
นายสมศักดิ์ยังกล่าวถึงการทำงานของพรรคเพื่อไทย ที่มีทีมที่เข้มแข็ง เป็นคนธรรมดา ไม่ใช่คนมียศถาบรรดาศักดิ์ คุยกับชาวบ้านเข้าใจ และสามารถแก้ปัญหาให้ประชาชนได้ แต่หากเป็นทีมที่ไม่เข้าใจนโยบายก็ต้องทำตามขั้นตอนราชการ เป็นเรื่องเก่าของรัฐบาลเก่า ที่ไม่สามารถแก้ปัญหาได้
นอกจากนี้ ยังยืนยันว่า จะไม่เปลี่ยนขั้วการเมือง และจะตั้งใจทำงานเต็มที่ เพื่อให้ได้ ส.ส. มากที่สุด และเพิ่ม ส.ส. พื้นที่ใหม่ได้ พร้อมย้ำว่า หลังจากนี้จะไม่มีกลุ่มสามมิตร ไม่มีมุ้ง จะมีแค่บุคลากรที่มาสนับสนุนพรรคเพื่อไทย และส่วนตัวไม่อยากให้พรรคกำหนดให้ดูแลแค่พื้นที่สุโขทัย แต่อยากทำงานแบบลอยตัว สามารถทำงานได้ทุกพื้นที่ เนื่องจากมีคณะทำงานที่พร้อมสื่อสารนโยบายกับประชาชน
ขณะที่นายสุริยะ กล่าวขอบคุณพรรคเพื่อไทย ที่ให้โอกาสกลับเข้ามาทำงานร่วมกับพรรคเพื่อไทย และให้การต้อนรับที่อบอุ่น พร้อมชี้แจงถึงสาเหตุที่ย้ายกลับมาเพื่อไทย ว่า ตลอด 8 ปี ที่ผ่านมา โครงสร้างทางเศรษฐกิจพังทลาย แบ่งเป็น 4 ปีแรก ที่มีการทำรัฐประหาร ไม่เป็นที่ยอมรับของต่างประเทศ ทำให้ไทยสูญเสียรายได้ และ 4 ปี หลัง ของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ต้องกระจายกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ ซึ่งไม่สามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจได้ ประเทศมีจีดีพีต่ำที่สุดในอาเซียน ดังนั้น การแก้ปัญหาเศรษฐกิจต้องมีพรรคแกนนำรัฐบาลที่มี ส.ส. เข้ามาแบบถล่มทลาย จึงตัดสินใจเข้าพรรคเพื่อไทย เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายแลนด์สไลด์ ภายใต้แนวคิด “คิดใหญ่ ทำเป็น “โดยเฉพาะการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ซึ่งในขณะที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้รับเสียงสะท้อนว่า รัฐบาลปัจจุบันไม่สามารถแก้ปัญหาอะไรได้ ถ้าอยู่ต่อจะทำให้เกิดความทุกข์ยาก และเพื่อนก็ไม่อยากให้อยู่พรรคพลังประชารัฐ พร้อมเชื่อว่า นโยบายของพรรคเพื่อไทย จะชนะอย่างแลนด์สไลด์ ประกอบกับผลโพล ที่ต้องการให้เพื่อไทยกลับมาเป็นรัฐบาล จึงเชื่อว่า พรรคเพื่อไทยจะกลับมาเป็นรัฐบาลได้ถึง 99.99%
ด้านนางอนงค์วรรณ กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นอดีต ส.ส. และลงพื้นที่จะพบว่า ประชาชนชื่นชมนโยบายของพรรคไทยรักไทย ที่สร้างประโยชน์ แก้ปัญหาตรงจุด และจนถึงวันนี้ก็ชื่นชมพรรคเพื่อไทย ที่ยังคงมุ่งมั่นแก้ปัญหาให้ประชาชน มีนโยบายที่ทันสมัย และการกลับมาครั้งนี้ รู้สึกอบอุ่น เป็นความหวังของประชาชน ที่จะกลับมารุ่งเรืองเหมือนอดีตอีกครั้ง พร้อมย้ำว่า มาด้วยใจจริง และตั้งใจทำงาน