อดีตข้าราชการ หลังเกษียณแล้วกลับมาอยู่บ้าน ดื่มเหล้าเมา ควงปืนเข้าไปอาละวาดร้านค้าในหมู่บ้าน ชาวบ้านหวาดผวา หวั่นก่อเหตุซ้ำ ขอตำรวจให้ดำเนินคดี
วันนี้ 25 มีนาคม ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่หลังจากได้รับการร้องขอความช่วยเหลือและได้รับคลิปจากชาวบ้าน บ้านโคกซวก หมู่ที่ 3 ต.พระพุทธบาท อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย ที่มีเหตุการณ์ชายเมาอาละวาด ควงปืนสั้นเข้าไปข่มขู่ชาวบ้านที่ร้านค้าภายในหมู่บ้าน
เหตุเกิดเวลาประมาณ 16.30 น.ของวันที่ 23 มีนาคม 66 ที่ผ่านมา กล้องวงจรปิด 3 ตัวสามารถบันทึกภาพได้อย่างชัดเจน หลังเกิดเหตุก็ได้ไปแจ้งความกับ ตำรวจสภ.ศรีเชียงใหม่ ไว้แล้ว หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ได้ออกมาที่เกิดเหตุ และให้มีการเจรากันก่อน ส่วนผู้ก่อเหตุเป็นอดีตข้าราชการที่เกษียณอายุแล้ว กลับมาอยู่บ้าน ในตำบลเดียวกัน แต่คนหมู่บ้านที่อยู่ใกล้กัน
หลังก่อเหตุญาติของผู้ก่อเหตุก็ได้มาเจรจา เพื่อขอให้ยุติเรื่อง แต่ชาวบ้านต้องการให้ดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด เพราะอยู่อย่างหวาดกลัวเพราะมีพฤติกรรมแบบนี้บ่อยครั้ง
ชาวบ้านเจ้าของร้านค้าที่เกิดเหตุ อายุ 69 ปี เล่าให้ฟังว่า คนที่ก่อเหตุได้ถือปืนเข้ามาในร้าน แล้วข่มขู่ว่า “มึงจะเอาอะไรกับกู มึงอยากตายไหม” ตนจึงได้เข้าไหว้ขอร้อง ซึ่งตนกับผู้ก่อเหตุไม่เคยมีเรื่องอะไรกันมาก่อนและไม่เคยมาที่บ้านสักครั้ง ตนก็ไม่เคยเห็นคนที่ก่อเหตุมาก่อน เคยเห็นตั้งแต่สมัยที่คนก่อเหตุยังเป็นเด็กอยู่ หลังจากที่โตแล้วคนก่อเหตุไปทำงานที่กรุงเทพฯตนก็ไม่เคยเห็นอีกเลย
ตอนที่เข้ามาในร้านมีอาการเมา ถือปืนสั้นเข้ามาด้วย 1 กระบอก เป็นปืนจริง ตอนแรกตนคิดว่าเป็นปืนปลอม มีการขึ้นลำกล้องไว้ตลอด แต่ไม่ได้ยิง ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่มีคนเข้ามาก่อเหตุ เหตุเกิดวันที่ 23 มีนาคมที่ผ่านมา
หลังเกิดเหตุก็ได้ไปแจ้งความที่ สภ.ศรีเชียงใหม่ ในวันนั้นเลย ซึ่งก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจออกมาที่เกิดเหตุ ต่อมาก็มีคนมาเจรจาเรื่องค่าทำขวัญ แต่ลูกสาวของตนไม่ยอม อยากให้ผู้ที่ก่อเหตุมาพบด้วย ตนไม่ได้เรียกร้องอะไรและไม่อยากจะมีศัตรู เนื่องจากกลัว เพราะที่บ้านมีแต่คนสูงอายุ
อยากให้เจ้าหน้าที่ยึดอาวุธของผู้ก่อเหตุไปด้วย เนื่องจากกลัวว่าหากมีการคลุ้มคลั่งอีก ก็กลัวว่าจะมาฆ่า ตนก็ได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไปแล้ว หากคนก่อเหตุมาผูกข้อมือทำขวัญไปแล้ว พวกตนก็ยังกลัวว่าจะมีการมาแก้แค้นในภายหลัง เจ้าหน้าที่ก็รับปากว่าจะไม่ให้มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก แต่ตนก็กลัวประกอบกับพื้นที่บริเวณนี้ไม่มีไฟส่องสว่างทำให้ค่อนข้างมืด
ทางด้าน ลูกสาวเจ้าของร้าน อายุ 27 ปี บอกว่า วันที่เกิดเหตุนั้นเร็วมาก ทางครอบครัวของตนไม่ได้ตั้งตัวสักคนเลย ถ้าวันนั้นมีการลั่นไกปืนขึ้นมาจากความเมาและความใจร้อนของคนที่ก่อเหตุ ห้ามตัวเองไม่ได้อยู่แล้ว หากเกิดเหตุการณ์ร้ายขึ้นหน่วยงานไหนจะเข้ามารับผิดชอบ ดีที่คนก่อเหตุไม่ได้ลั่นไกปืนในวันนั้น คนทั่วไปก็พูดได้ว่าเขาไม่ยิงปืนหรอก แต่ถ้ามันเกิดขึ้นกับครอบครัวใดครอบครัวหนึ่งก็จะการสูญเสียเป็นอย่างมาก
จุดที่ก่อเหตุก็เป็นศูนย์รวมของหมู่บ้านชุมชนเพราะเป็นร้านค้า คนที่ไม่รู้เรื่องอะไรอาจจะมาชีวิตโดยที่คนก่อเหตุเมาแล้วไม่มีสติ ถ้าเขาเมาแล้วไม่มีสติเขาไม่สมควรที่จะมีอาวุธอยู่ในครอบครองถึง 3 กระบอก วันก่อเหตุเห็นที่ถืออยู่ในมือ 1 กระบอก ในกระเป๋าที่สะพายอีก 1 กระบอก และได้ยินว่าอยู่ที่ภายในรถอีก 1 กระบอก อีกอย่างหนึ่ง ทางครอบครัวผู้ก่อเหตุได้มาเจรจากับครอบครัวตนว่า ไม่ให้ไปถือคนที่ก่อเหตุเพราะเป็นคนสติไม่ค่อยดี สติไม่ค่อยดีแล้วทำแบบนี้เหรอ เวลาเมาต้องไปอาละวาดหาเรื่องคนอื่น
ทั้งนี้ บอกในตอนท้ายว่า ตนอยากวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือผู้ที่มีอำนาจเข้ามาปกป้องครอบครัวของตน และให้เข้ามาช่วยแก้ไขสถานการณ์ที่ขณะนี้ยังไม่ได้เลวร้าย ไม่ว่าจะเกิดกับครอบครัวใคร ก็คงไม่มีใครอยากให้เกิด
ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ศรีเชียงใหม่ ก็จะได้มีการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ตามที่ผู้เสียหายได้แจ้งความไว้ต่อไป