ชาวชุมพรกว่า 100 คน สุดทนโห่ไล่แม่ชีวัดดังให้ออกใน 24 ชั่วโมง เหตุประพฤติตนไม่เหมาะสม ด้านแม่ชีร้องขอพระผู้ใหญ่รับฟัง พร้อมชี้แจง
วันที่ 26 มี.ค. 2566 นางเยาวดี แดงสนิท ผู้ใหญ่บ้าน พร้อมด้วยนายธีรวุฒิ ครุธนรสิงห์ อายุ 66 ปี คณะกรรมการวัดฯ และชาวบ้านหมู่ 1 และหมู่ 2 กว่า 100 คน รวมตัวอยู่บริเวณหน้าศาลาการเปรียญวัดประเดิม ต.ตากแดด อ.เมือง จ.ชุมพร ใช้เครื่องขยายเสียงเพื่อขับไล่แม่ชีรายหนึ่งให้พ้นจากวัดภายใน 24 ชั่วโมง เพราะมีความผิดหลายอย่าง เช่น ใช้คำพูดหยาบคาย แสดงตนเจ้ากี้เจ้าการของใช้ในวัด ทำตัวเป็นผู้วิเศษแอบอ้างสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และการจัดทอดผ้าป่าสามัคคีโดยจัดการเองทั้งหมดไม่บอกกล่าวชาวบ้านและคณะกรรมการวัด
ขณะที่ทางผู้ใหญ่บ้าน คณะกรรมการวัดและชาวบ้านกำลังรวมตัวตะโกนขับไล่แม่ชีอยู่นั้น แม่ชีคนดังกล่าวได้เดินปรี่เข้ามาแย่งไมค์เพื่อขอพูด แต่ทางชาวบ้านไม่ยอมเพราะไม่ต้องการให้แก้ตัว พร้อมขับไล่ให้ออกจากวัดโดยเร็ว เพราะสุดทนกับพฤติกรรมมานาน 5 ปี
ด้านนายธีรวุฒิ ครุธนรสิงห์ อายุ 66 ปี คณะกรรมการวัดประเดิม เปิดเผยว่า มี 4 ประเด็นหลักๆ เหตุผลในการขับไล่แม่ชีรายนี้ คือ
1.เรื่องการประพฤติตนไม่เหมาะสมในการเป็นแม่ชี ใช้คำพูดหยาบคายกับอุบาสก อุบาสิกา ที่มาทำบุญในวันพระทำให้เกิดความไม่พอใจ ระยะหลังจึงเดินทางมาทำบุญที่วัดน้อยลง
2.เรื่องของใช้ภายในวัดโดยเฉพาะครัวฉัน แม่ชีไม่ยอมให้คนที่มาทำบุญได้ใช้และยังใช้อำนาจล็อกกุญแจ แม่ชียังไม่ยอมอยู่ที่โรงฉัน โดยไปหลับนอนในศาลาการเปรียญซึ่งไม่เหมาะสมอย่างมาก เนื่องจากในศาลาเป็นสถานที่ประชุมของคณะกรรมการวัด และใช้ใต้กุฏิพ่อปู่เวชฯ เป็นที่หลับนอนด้วย
3.เรื่องทำตัวเป็นผู้วิเศษ แอบอ้างสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ว่า ตนเองพูดกับผีสางนางไม้ได้และจำทำอะไรตามอำเภอใจของตนเองทั้งสิ้น ซึ่งต่างจากประเพณีดั้งเดิมของวัดที่ได้สืบทอดกันมานานชั่วอายุคน เช่น การจัดงานตรุษไทยของชาวบ้านวัดประเดิมแม่ชีไม่ยอมให้ทำตามประเพณี แต่จำทำตามความคิดตนเอง เป็นต้น
และ 4.เรื่องการทอดผ้าป่าสามัคคีในวันที่ 2 เม.ย. นี้แม่ชีได้ทำเองโดยพลการไม่ยอมบอกใครทั้งสิ้นคณะกรรมการวัดและชาวบ้านไม่รู้เรื่องเลย โดยแม่ชีได้จัดรถแห่จำนวน 3 คัน พร้อมกับทำซองโดยไม่มีฎีกา ไม่มีประธาน และคณะกรรมการ พร้อมทั้งออกเรี่ยไรทำพุ่มกับชาวบ้านบางรายอย่างผิดกฎหมาย
ชาวบ้านจึงเรียกร้องให้ออกจากวัดภายใน 24 ชั่วโมง ถ้าไม่ยอมจะแต่งตั้งไวยาวัจกรและชาวบ้าน เข้าแจ้งความร้องทุกข์ตามขั้นตอนกฎหมาย แต่ในการกดดันขับไล่ครั้งนี้ไม่เป็นผล ชาวบ้านจึงแห่กันไปบนศาลาการเปรียญซึ่งเป็นที่พักของแม่ชีและเป็นสถานที่จัดทำพุ่มผ้าป่าฯ โดยมีคนสนิทแม่ชีนั่งอยู่ด้วย 3-4 คน จนมีปากเสียงกันปะทะคารมไปมา ซึ่งแม่ชีบอกว่าจะไม่ชี้แจงอะไรทั้งสิ้น ขอพบพระผู้ใหญ่เท่านั้น อ้างว่าเป็นเรื่องภายในวัด
ต่อมา พระครูบัณฑิตธรรมธาดา รองเจ้าคณะจังหวัดชุมพร พระครูศรีธรรมวิเทศ เจ้าคณะอำเภอเมืองชุมพร พระครูปลัดศิริโชค สิริธมฺโม รองเจ้าคณะอำเภอเมืองชุมพร และพระครูมหาสมศักดิ์ กิจฺจสาโร เจ้าคณะตำบลตากแดด เดินทางมาเพื่อรับฟังปัญหาที่เกิดขึ้น พร้อมหาแนวทางแก้ไข โดยคณะสงฆ์ลงมติให้แม่ชีย้ายออกตามคำเรียกร้อง ทำให้ชาวบ้านพึงพอใจ
ขณะที่ แม่ชียังเรียกร้องค่าเสียหายในการดำเนินการจัดทำพุ่มผ้าป่าฯ กว่า 200 พุ่ม เป็นเงิน 50,000 บาท ทางคณะกรรมการและชาวบ้านก็ยินดีคืนให้ตามข้อเท็จจริง ส่วนวันที่ 2 เม.ย. นี้ ทางวัดประเดิมยังจัดทอดผ้าป่าฯ ตามวัตถุประสงค์เดิม