"อัจฉริยะ" ร้องกองปราบดำเนินคดีรองเลขาฯ ปปง. กับพวกรวม 4 คน หิ้วถุงเงินส่งมอบ "ชูวิทย์" ปิดปากแฉเว็บพนันออนไลน์สารวัตรซัว
วันที่ 27 มี.ค.66 ที่ศูนย์รับแจ้งความตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธิน จตุจักร กทม. นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทางเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีอาญา พล.ต.ต. และ พล.ต.ท. 2 นาย กับพวก รวม 4 คน ในข้อหาฟอกเงินในกรณีที่นำเงินจากสารวัตรซัว ไปมอบให้นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์จำนวน 6 ล้านบาท ตามที่เป็นกระแสข่าวไปก่อนหน้านี้
นายอัจฉริยะ เผยว่า วันนี้ได้มาแจ้งความกับ พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองเลขาธิการ ปปง. พร้อมกับ พล.ต.ท.เปี๊ยก และพวกรวม 4 คน เกี่ยวข้องกับเงินจำนวน 6 ล้านบาท จากสารวัตรซัว ไปมอบให้นายชูวิทย์ ให้ทางกองบังคับการปราบปรามซึ่งเป็นเจ้าของสำนวนคดีเอาผิดสารวัตรซัว ให้อายัดจำนวน 6 ล้านบาทมาตรวจสอบ และเอาผิดกับนายชูวิทย์ ในความผิดเกี่ยวกับการฟอกเงิน และยังเปิดเผยอีกว่า พบเส้นทางการเงินจากเว็บพนันถูกโอนเข้าบัญชีของ ภรรยา ของ พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ อีกด้วย
นอกจากนี้นายอัจฉริยะ ได้เปิดเผยรูปภาพของ นายกานต์ และพูดถึงนายศักดิ์ ซึ่งเป็นคนที่รับหน้าที่เข้าไปพูดคุยกับนายชูวิทย์ และถามไปถึงนายพลทั้ง 2 ว่า รู้จักคนในรูปหรือไม่ เพราะมีข้อมูลว่าเป็นบุคคลที่เข้าไปหานายชูวิทย์อยู่บ่อยครั้ง
ส่วนกรณีที่นายชูวิทย์ ระบุว่า ได้รับเงินจำนวน 6 ล้านบาทมาในวันที่ 3 ก.พ.66 ตามที่ชี้แจงกับสื่อมวลชน นายอัจฉริยะ ไม่เชื่อว่าเป็นวันดังกล่าว เพราะในวันที่ 5-9 ก.พ. นายชูวิทย์ได้ไลฟ์โจมตีสถานอาบอบนวดของนายเปา หลานบุญธรรม และสารวัตรซัว จนถูกให้ออกจากราชการ จึงตั้งข้อสงสัยว่า น่าจะรับเงินหลังจากนั้น
นอกจากนี้ยังเปิดเผยรายชื่อ พล.ต.อ.ช.ช้าว ที่พาแทนไทไปหาชูวิทย์ และมีตำรวจชื่อ เด่น สังกัดอยู่ใน กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 5 รับเคลียร์เว็บพนันทางภาคเหนืออีกด้วย
ซึ่งในช่วงบ่ายของวันนี้ (27 มี.ค.66) นายอัจริยะ จะเดินทางไป สน.ทองหล่อ ร้องทุกข์กล่าวโทษขอให้พนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ สืบสวนสอบสวนและดำเนินคดีอาญากับบุคคลตามภาพในเฟซบุ๊กโพสต์โดย นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ซึ่งเป็นเจ้าของเว็บพนันออนไลน์และชายอีกหนึ่งคนพร้อมถุงเงิน 2 ถุง ในข้อหาเดียวกันว่านำเงินมาจ่ายให้ใคร ใช่ที่โรงแรมเดวิส หรือไม่ รวมถึงจะไปแขวนป้ายที่หน้าสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เพื่อให้คนในสำนักงานออกมาต่อสู้หลังมีบุคคลเข้าไปทำให้องค์กรเสื่อมเสีย